ตามรอยพระพุทธบาท

งานทำบุญคล้ายวันเกิดหลวงพี่ชัยวัฒน์ (29 พฤษภาคม 2555)
webmaster - 11/6/12 at 14:38

ภาพข่าว...งานทำบุญวันเกิดหลวงพี่ชัยวัฒน์

เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2555


...นับเวลาผ่านไปหนึ่งปีเพียงแค่แป๊บเดียวเอง..วันนี้ก็ถึงเวลาอันเป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงพี่ ที่พวกเราต่างร่วมแรงร่วมใจกันจัดงานกับท่านอีกครั้งหนึ่ง สำหรับปีนี้เป็นการทำบุญอายุ เนื่องในโอกาสครบรอบ 63 ปีเกิดของท่าน ซึ่งถือว่าเป็นการจัดงานรวมน้ำใจของผู้ที่จะมาร่วมงานอีกปีหนึ่ง คือ "วันไหว้พ่อไหว้แม่" ของพวกเราทุกคน ทั้งๆ ที่ก่อนหน้าก็บอกกันว่าปีนี้จะไม่จัดงาน เพราะตรงกับวันอังคารที่ 29 หลวงพี่บอกว่าเกรงใจคนที่จะต้องเดินทางมาไกลๆ เพราะว่าใกล้วันวิสาขบูชา วันที่ 4 มิ.ย. นี้ด้วย

........แต่พอถึงเวลานั้นจริง คนโน้นก็ถามคนนี้ก็ถาม รวมความว่ากันเป็นร้อยคนเหมือนกัน ปีนี้จึงต้องจัดเป็นโต๊ะจีนจำนวน 20 โต๊ะ ภายในวิหารสมเด็จองค์ปฐมชั้นล่าง เพื่อเป็นการปลดภาระของพวกเราจะได้ไม่เหนื่อยเกินไป ซึ่งเวลานี้เป็นเวลาที่กำลังบูรณะวิหาร คือเปลี่ยนกระจกใหม่ เนื่องในวโรกาสที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อมรณภาพครบ 20 ปีพอดี

........หลวงพี่จึงได้จัดงานบำเพ็ญกุศลเป็นการใหญ่ เพื่อกราบน้อมถวายกุศลกันอีกด้วย พร้อมทั้งจัดหาสถานที่ต่างๆ ที่กำลังสร้างพระใหญ่, สร้างพระเจดีย์, สร้างโบสถ์วิหาร ทั่วประเทศ รวมแล้วประมาณ 64 แห่ง อีกทั้งมีการทำบุญปล่อยปลา, ปล่อยวัว, กระบือ, ซื้อโลงศพ และรายการทางข่อง 3 ของคุณสรยุทธ์ คือ ซื้อรถรับบริจาคโลหิต และซื้อเครื่องช่วยหายใจ เป็นต้น โดยที่หลวงพี่ได้ตั้งงบประมาณการทำบุญครั้งนี้จำนวน 100,000 บาท ต่างหากด้วย

........ส่วนของชำร่วยก็ได้นำ "กำไลเงิน" ที่มีลายพญามังกรขนดไว้แจกสำหรับทุกคน เพราะปีนี้เป็นปีมะโรง งูใหญ่ ท่านจึงได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษก เนื่องในวันเสาร์ห้าที่วิหารแก้วร้อยเมตรก่อน ซึ่งได้นำมาแจกกันแทบไม่พอ รวมแล้วประมาณ 400 อัน ทุกคนต่างก็ชอบกันเป็นอันมาก ที่หลวงพี่ได้มอบสิ่งที่เป็นสิริมงคลเหล่านี้ บางคนมาไม่ได้ก็ฝากเงินมาร่วมทำบุญด้วย

.......พอถึงตอนเย็นวันที่ 28 พ.ค. 55 คณะเจ๊ลั้ง (โฉม นันทาภินัย) พร้อมด้วยเจ๊ๆ หลายคนนั่งรถตู้มาจากกรุงเทพฯ อีกทั้งเจ๊อัญชนา คุณโต และคุณช้องมาศ ได้ขับรถเก๋งมาถึงเช่นกัน ส่วนคณะตาพระยาก็ได้เดินทางมาถึงนำผักหวานมาฝาก และคณะนายดาบรอด - คุณอุไรวรรณ จากระยอง ก็ได้นำผลไม้ เช่นทุเรียน มังคุด เงาะ และปลาทะเล เป็นต้น ส่วนใหญ่พักค้างคืนกันที่ศาลา 25 ไร่


ในตอนเช้า วันที่ 29 พ.ค. 55 เวลาประมาณ 08.00 น. หลวงพี่พร้อมคณะ ได้ร่วมกันปล่อยปลา บริเวณด้านข้างพระวิหารสมเด็จองค์ปฐม รวมแล้วประมาณ 10 กว่ากิโลกรัม มีทั้งปลาช่อน ปลาดุก กบ และเต่า เป็นจำนวนมาก


เมื่อในปีที่แล้ว คือวันที่ 29 พ.ค. 54 จะมีฝนโปรยลงมาแบบเย็นสบาย แล้วมีพระอาทิตย์ทรงกลดในเวลา 10.30 น. แต่ปีนี้กลับมีพระอาทิตย์ทรงกลดตั้งแต่เช้าเริ่มปล่อยปลา เพราะถือว่าเช้าวันนี้ หลวงพี่จะเริ่มทำบุญด้วยการปล่อยชีวิตสัตว์กันก่อน


หลวงพี่ได้เริ่มกล่าว นะโม 3 จบก่อน แล้วกล่าวนำปล่อยปลา, ปล่อยกบ ปล่อยเต่า และปล่อยวัวกระบือ ที่พี่ติ๋ม อภิญญา (น้องสาวหลวงพี่) จะได้นำไปมอบให้ที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ ปีนี้มีผู้ร่วมบุญปล่อยวัวกระบือ ประมาณ 5 หมื่นกว่าบาท


คณะญาติโยมที่เดินทางมาถึงในตอนเช้า พวกเราได้จัดเลี้ยงข้าวต้มเครื่องกันก่อน ซึ่งมีคณะเจ๊รัตนา ชินบุตรานนท์ คณะคุณก๊วยเจ๋ง - คุณหลี คณะบ้านก๋ง แปดริ้ว มีคุณกุ้ง คุณเปิ้ล เป็นต้น สาวๆ เหล่านี้ได้นัดกันนุ่งผ้าไหม แต่งชุดตามสไตล์ไทยๆ ได้อย่างสวยงาม คณะคุณศราวุธ ราชบุรี (คณะแก้วมณีโชติ) น้องนนท์ จากอยุธยา มาช่วยก่อนงาน คุณติ๋ว จากการบินไทย พร้อมด้วยคุณวันทนา ขันธ์เครือ พร้อมลูกๆ คุณสัมพันธ์ กันฟัก จากพิษณุโลก คณะศรีสัชนาลัย คณะอู่วารี และยังมีมากมายอีกหลายคณะ ที่ไม่ทราบกล่าวนามได้หมดต้องขออภัยด้วยค่ะ



หลังจากนั้นก็ได้เริ่มพิธีบวงสรวง เวลาประมาณ 09.29 น. แต่ก่อนจะเริ่มพิธีหลวงพี่ได้กล่าวเล็กน้อย โดยมีคณะพุทธบริษัททั้งหลายได้เดินทางมาร่วมงานกันเต็มพระวิหาร



หลังจากเปิดเทปพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯ บวงสรวงแล้ว ทุกคนจึงยกพานดอกไม้ขอขมาพระรัตนตรัย
และขอขมาบิดามารดาทุกภพทุกชาติ โดยมีคุณลุงปรีชา อารีกุล และ คุณพี่รัตนา ชินบุตรานนท์ เป็นตัวแทน
จากนั้น คุณทนงฤทธิ์ ได้เป็นตัวแทนกล่าวบทกลอน ตัวแทนฝ่ายชาย คือคุณก๊วยเจ๋ง ตัวแทนฝ่ายหญิง คุณมายิน เดียวสุรินทร์ โดยมี คุณสุชัย ชินบุตรานนท์ ได้กล่าวนำคำขอขมาแด่หลวงพี่

ต่อจากนั้นผู้ร่วมพิธีทุกคน ต่างก็เข้ามาถวายพานดอกไม้แก่หลวงพี่ แล้วท่านได้มอบของที่ระลึกคือ "กำไลเงิน" ให้แก่ทุกคน ปีนี้จึงมีการทำบายศรีไหว้พระ, บายศรีไหว้พ่อแม่ และบายศรีไหว้พ่อปู่นาคา-แม่ย่านาคี อีกด้วย ก่อนเริ่มพิธีมีเซอร์ไพรส์ ด้วยการถวายก้อนหินรอยพระพุทธบาทจาก คุณตู่ - คุณรุ่ง อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก ที่นำมาถวายเป็นกรณีพิเศษ



ก้อนหินใหญ่ต้องทุบอยู่นาน เมื่อทุบแล้วจึงพบรอยพระพุทธบาทคู่ สีแดงเข้ม อยู่ภายในก้อนหินใหญ่



แต่ก่อนที่จะทุบก้อนใหญ่ หลวงพี่ได้ทุบก้อนเล็กก่อน เพราะท่านบอกว่าอยากจะได้ผงยาและเหล็กไหลภายในก้อนหินนี้ เมื่อทุบแล้วปรากฏว่าได้สมปรารถนาจริงๆ จากนั้นท่านได้นำไปไว้ในโถน้ำมนต์ ซึ่งในงานทำบุญวันเกิดนี้ หลวงพีได้ถือโอกาสเปลี่ยนจากเดิมขวดโหลเป็นโถ (ท่านซื้อมาราคา 4,000 บาท พร้อมโต๊ะไม้สักอีก 1,500 บาท) และเริ่มต้นทำน้ำมนต์ใหญ่ และในงานนี้มีผู้ร่วมทำบุญกับท่านเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่จะต้องขออนุโมทนา คุณสุชัย (ท้ง) ชินบุตรานนท์ พร้อมด้วยหลวงน้าสุรพงษ์ ได้ถวายปัจจัยแก่หลวงพี่เป็นจำนวนเงิน 100,000 บาท


หลังจากทำพิธีถวายบายศรีและไหว้พระ ไหว้พ่อแม่กันแล้ว หลวงพี่ก็ได้นำบายศรีมาที่ตู้พิพิธภัณฑ์ ซึ่งท่านก็เพิ่งจะจัดทำเสร็จไม่นานนี้เอง หลวงพี่ได้วางบายศรีไว้บนตู้สองพาน พร้อมกับถวายผลไม้ 9 ชนิด วันนี้จึงถือเป็นปฐมฤกษ์ได้ทำการเปิดตู้พิพิธภัณฑ์เป็นครั้งแรก เพื่อผลในการศึกษาว่าของจริงแท้ก็ยังมีอยู่ ส่วนใหญ่ท่านได้มาจากภาคอีสาน ส่วนผงยาพระฤาษี ท่านได้จาก อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย ภายในตู้ยังมีก้อนหินที่แปลกๆ อีกมาก


เมื่อมองเข้าไปภายในตู้กระจก จะเห็นแก้วมณีนาคาพร้อมกับก้อนหินแสดงไว้หลายก้อน พร้อมกับคำอธิบายสั้นๆ ซึ่งมีทั้ง พระขรรค์ที่มีเศียรพญานาคและอักขระ, เขี้ยวแก้วเศียรพญานาค, หอยสังข์, นาคพันน้ำเต้า เป็นต้น ซึ่งมีการถ่ายคลิปไว้เป็นหลักฐานโดยมิได้มีการตัดต่อใดๆ ทั้งสิ้น (คุณแพรว สุภาวดี พรประสิทธิ์กุล เป็นผู้บันทึกวีดีโอ)


เพชรพญานาค..ขุมทรัพย์วังบาดาล พิสูจน์ว่าจริงหรือไม่? by Tamroi_Phrabuddhabat




ญาตโยมได้นำเค้กมาให้หลวงพี่เป่าและตัดแบ่งให้ตามประเพณีงานวันเกิดทั่วไป


พานทำบุญสร้างพระใหญ่, สร้างพระเจดีย์ รวมแล้ว 64 พาน เพื่อให้ทุกคนได้ทำบุญกัน
ภายหลังได้นับยอดเงิน ปรากฏว่าทำบุญแห่งละ 3 พันกว่าบาท


หลวงพี่พร้อมด้วยพระสงฆ์รวม 10 รูป ฉันภัตตาหารเพลด้านล่างวิหาร โดยสั่งอาหารมาจากร้านทิพย์วรรณ อุทัยธานี นอกจากนั้นก็ยังมีคุณเล็ก - คุณหนูเล็ก นำข้าวหมูแดงมาร่วมจัดเลี้ยงอีกด้วย ส่วนอาหารและผลไม้ได้จัดแบ่งไปถวายพระที่หอฉัน พร้อมถวายปัจจัยรูปละ 100 บาท โดยมีคุณติ๋ม อภิญญา และน้องชายคือคุณธานินทร์ นาคสวัสดิ์ รับหน้าที่นำไปถวาย



หลังจากถวายอาหารเพลแล้ว ก่อนพระสงฆ์ให้พร หลวงพี่ได้เชิญตัวแทนแต่ละคณะได้เข้ามาถวายปัจจัยไทยทาน ซึ่งมีทั้งอาสนะและของใช้ต่างๆ สำหรับพระภิกษุ โดยที่คุณก๊วยเจ๋งและคุณหลี พร้อมด้วยคุณแมว ได้เตรียมจัดหามาให้ครบชุด ขออนุโมทนาด้วยค่ะ

......ในตอนบ่าย หลังจากที่พวกเราฝ่ายฆราวาสได้รับประทานอาหารกันแล้ว หลวงพี่ก็นัดให้รถทุกคันออกไปรอที่นอกวัด เพื่อเดินทางไปร่วมสร้างพระใหญ่ หน้าตัก 18 เมตร หล่อด้วยโลหะ ที่พุทธอุทยานนครสวรรค์ คลิกที่รูปภาพเพื่อชมรายละเอียดได้





หลังจากที่พวกเราได้จอดรถบริเวณหน้าปะรำพิธีแล้ว (ขบวนรถประมาณ 20 กว่าคัน) จะมองเห็นปั้นจั่นกำลังสร้างฐานองค์พระใหญ่


ทุกคนเดินลงมาจากรถแล้วเข้าไปชมหุ่นองค์พระ (มีทั้งส่วนองค์พระและพระเศียร) จากนั้นเข้าไปในปะรำพิธีเพื่อเขียนแผ่นทองกัน (ทำบุญแผ่นละ 99 บาท)



ส่วนหลวงพี่ได้ทำบุญรวมประมาณเกือบ 5,000 บาท หลังจากที่ท่านได้ออกมาปิดทองที่พระหัตถ์แล้ว ปรากฏว่าขณะนั้นมีพระอาทิตย์ทรงกลดพอดี



ต่อจากนั้นจึงได้ถ่ายรูปกันเป็นที่ระลึก ก่อนที่จะแยกย้ายกันเดินทางกลับ สุดท้ายนี้ก็ต้องขออนุโมทนาทุกท่าน ที่ได้เดินทางมาร่วมงาน และที่ฝากมาร่วมทำบุญทุกท่าน ก่อนที่จะกลับทุกคนก็มายืนเข้าแถว เพื่อรับของที่ระลึกจากหลวงพี่ จะเป็นอะไรนั้นต้องไปกระซิบถามกันเองนะ..


พวกเรายืนเข้าแถวนกันยาวเหยียด ตอนแรกหลวงพี่เดินออกมาเห็นแดดจ้า บอกให้คุณบุ๋มหาที่จอดรถใต้ร่มไม้ แต่แถวนี้ไม่มีที่ร่มเลย เมื่อหลวงพี่เดินไปที่รถ พอพวกเราออกมาจากปะรำพิธียืนเข้าแถว ปรากฏว่าแดดที่แผดจ้ากลับร่มเย็นทันที หลังจากนั้นก็ยืนคุยกันอย่างมีความสุข ก่อนที่บอกลากันออกเดินทางต่อไป


ก่อนจะกลับเห็นคนยืนห้อมล้อมและได้ยินเสียงเฮฮากัน ปรากฏว่าคุณป้าประเทือง (คณะพี่อู่วารี) ได้รับของไปแล้ว อยากจะรู้ว่าข้างในมีอะไร เมื่อสำเร็จโทษแล้วจึงพบแก้วมณีนาคา 3 องค์ รวมกันอยู่ในก้อนหินเล็กๆ ดีใจด้วย อ้อ..เกือบลืมบอกไปว่า หลวงพี่พร้อมด้วยคณะรวม 11 คน จะเดินทางไปสำรวจรอยเท้าใหญ่ที่ประเทศอัฟริกาใต้ ระหว่างวันที่ 12 - 17 มิ.ย. 55 จะนำเรื่องราวมาเล่ากันทีหลัง..สวัสดีค่ะ


webmaster - 12/6/12 at 14:54

.