ตามรอยพระพุทธบาท

เล่าเรื่องการเดินทางไป "ภูหินร่องกล้า" วันที่ 1-4 พ.ย. 55
webmaster - 10/11/12 at 16:31

เล่าเรื่องการเดินทางไป "ภูหินร่องกล้า"

วันที่ ๑ - ๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๕


วันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ (วัดสิริเขตคีรี - ภูหินร่องกล้า)

๑. วัดสิริเขตคีรี ต.ศรีสัชนาลัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย

.....ปีนี้ตามกำหนดการจะทอดกฐินสามัคคี เวลา ๑๐.๐๐ น. เนื่องจากหลวงพี่จะต้องนำคณะเดินทางไปที่ภูหินร่องกล้าในเวลา ๑๒,๐๐ น. ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้ร่วมเดินทางมาถึงตั้งแต่เมื่อวานนี้ โดยแยกพักค้างคืนกันทั้งในศาลาและกุฏิโดยรอบ กลางคืนหลวงพี่ก็ได้นัดประชุมเพื่อวางแผนในการเดินทางไปที่ภูหินร่องกล้า มีการแจกคูปองทานอาหารและที่พักบนอุทยานฯ โดยเจ๊มายินเป็นผู้ประสานงานกับเจ้าหน้าที่บนอุทยานฯ ซึ่งคุณปุ๊ได้ติดต่อจองที่พักไว้ล่วงหน้าแล้ว


ก่อนเวลา เริ่มงานตั้งแต่ ๘.๐๐น. มีญาติโยมถวายสังฆทาน และถวายพานพุ่มผ้ากฐิน และทำบุญกับเจ้าอาวาส คือหลวงพี่วันชัย ฐานวโร โดยท่านได้มอบวัตถุมงคลให้เป็นที่ระลึกด้วย


เมื่อได้เวลา ๑๐.๐๐ น. คณะญาติโยมพุทธบริษัทต่างนั่งกันเต็มศาลา จากนั้นทายกได้นำกราบพระและรับศีล กล่าวคำถวายผ้ากฐินเป็นลำดับต่อไป


ปีนี้มีพระภิกษุจำพรรษารวม ๗ รูป คือ หลวงพี่ชัยวัฒน์ หลวงพี่วันชัย หลวงพี่บัญชา หลวงพี่มานะ หลวงพี่อ่อน (จากอีสาน) หลวงตาจ๊อด และ หลวงพี่ไตรรัตน์


ก่อนเริ่มพิธีทอดกฐินได้มีการทำพิธีบวงสรวง โดยก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ ๓๐ ต.ค.๕๕ ทางวัดได้ทำพิธีบวงสรวงเนื่องในวันครบรอบ ๒๐ ปี ที่หลวงพ่อฯ มรณภาพ เจ้าภาพทอดกฐินปีนี้ (จำชื่อไม่ได้) เป็นเพื่อนกับ อ.ประเดิม - อ.สมศรี รวมเงินประมาณ ๖ แสนบาทเศษ




๒. รอยพระพุทธบาท อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า อ. นครไทย จ. พิษณุโลก (รอยพระพุทธบาท ลำดับที่ ๖๓๖)

หล้งจากทอดกฐินเสร็จ พระสงฆ์ท่านฉันเพล และทำพิธีกรานกฐินในโบสถ์เสร็จเรียบร้อย จึงได้ออกเดินทางทันที ประมาณเวลา ๑๑.๓๐ น. ออกจากวัด นับว่าเสร็จก่อนเวลาที่กำหนดนัด ขบวนรถได้วิ่งไปตามถนน ๑๐๑ สายสวรรคโลก - พิษณุโลก - วังทอง จึงได้แวะพักระหว่างทางที่ปั๊ม ปตท. ห่างจาก อ.วังทอง ๑๕ กิโลเมตร โดยประมาณ รถดื่มน้ำมันไป..คนก็ถ่ายน้ำออกและเติมน้ำที่ควรเข้าไป พักเครื่อง..คนก็พัก ใช้เวลาประมาณ ๒๐ นาทีก็เดินทางต่อ

เป็นอันว่า หลังจากได้เสนอข่าวการพบ "รอยเท้ามนุษย์โบราณ" มาตั้งแต่ปีที่แล้ว (พบวันที่ ๑๖ ส.ค. ๕๔ อ่านรายละเอียดการค้นพบได้ คลิกที่นี่ ) บัดนี้คงจะได้ฤกษ์งามยามดี ที่จะได้เดินทางไปสำรวจและได้พบเห็นด้วยตนเองเสียที โดยการติดตามไปกับหลวงพี่ในนาม "คณะตามรอยพระพุทธบาท" จำนวนคนประมาณ ๑๗๐ คน ซึ่งมีรายชื่อผู้ร่วมเดินทาง และเข้าพักที่บ้านพัก ณ อุทยานภูหินร่องกล้า

โดยมี คุณสุวรรณ ภานุนำภา หัวหน้าอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่ให้ความอนุเคราะห์ในการจัดสถานที่พัก ทั้งนี้มี คุณนวลศศิธร ศุภกูล ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดอุทัยธานี หรือคุณปุ๊ เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฯ ช่วยประสานงานกับเพื่อนที่ป่าไม้พิษณุโลก จึงทำให้ได้รับความสะดวกเป็นอย่างยิ่ง ส่วนรายชื่อผู้ร่วมเดินทางเข้าที่พักมีดังนี้...

รายชื่อคณะจองที่พักรวม
พระชัยวัฒน์ อชิโต และคณะ (พัก 17 คน) 2 หลัง ร่องกล้า 111 ,107 (ภูหมันขาว,ทะเลเมฆ)
คณะตาพระยา 30 คน ค่ายภูแผงม้า, ภูขี้เถ้า, ภูขัด
คณะศรีสัชนาลัย 22 คน ร่องกล้า 933, 934 (ค่ายพักแรม3,4)
คณะพิษณุโลก 4 คน บ้านสายลม
คุณะศรีสัชนาลัย 10 คน กุหลาบขาว,ลานสน

รายชื่อคณะจองห้องพักเป็นหลัง
คณะคุณอโนชา, คุณธานินทร์ ร่องกล้า 104(ทิวเขา)
คณะคุณติ๋ว การบินไทย 4 คน ร่องกล้า 201/1 (ปาหนัน)
คุณะคุณตู่-หมี-บำรุง 5 คน ร่องกล้า101 (ร่องกล้า)
คณะกองทุน 10 คน ร่องกล้า 102,103 (ปีกไม้,ไผ่ลาย)
คณะป้าน้อย (วัดท่าซุง) 12 คน ร่องกล้า105 , 206/2 (ขอบฟ้า ,ลิ้นมังกร)
คณะคุณอัญชนา 10 คน ร่องกล้า 204/1,2 (ตาเหินไหว)
คณะ อ.เสริมสวาท 19 คน ร่องกล้า 109,108/3,4 (หมันแดง,เชิงดอย3,4)
คณะระยอง 5 คน ร่องกล้า 202/2 (มณฑาดอย)
คณะคุณนนทยา 4 คน ร่องกล้า 201/2 (ปาหนัน)
คณะวัดท่าซุง ร่องกล้า 202/1 (มณฑาดอย)
คณะคุณกุ้ง 10 คน ร่องกล้า 205/1,2 (ช้างงาเดียว)

สำหรับกำหนดเวลาเดินทางจากวัดพระร่วง มีดังนี้
- ตอนเช้าวันที่ ๒ พ.ย. ๕๕ ทานอาหารเช้าเวลา ๐๗.๐๐ น. จากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำเข้าไปสำรวจรอยเท้าโบราณ
- เวลา ๑๑.๐๐ น. พระภิกษุฉันเพลที่ร้านอาหารรังทอง คืนกุญแจห้องแล้วเดินทางกลับ


เวลาสี่โมงเย็น คณะทั้งหมดก็มาถึงอุทยานภูหินร่องกล้า คุณมายินจัดการให้แต่ละคณะเข้าพัก ตามห้องที่จองไว้ เวลาห้าโมงเย็นทุกคนก็มาพร้อมกันที่ร้านอาหาร จัดการทุกอย่างบนโต๊ะที่สั่งไว้ จนบนโต๊ะไม่มีอะไรตกค้าง เสร็จแล้วก็เข้าพักได้ ห้องใครก็ห้องคนนั้น พวกเราได้รับความสะดวกจากเจ้าหน้าที่ ส่วนหลวงพี่และคณะอีกสี่รูปได้ที่พักเป็นห้องรับรองพิเศษ (VIP) กลางคืนพวกเราได้เข้ามากราบไหว้สนทนากับหลวงพี่กันพอสมควร


เวลาเจ็ดโมงเช้า พวกเรามาพร้อมกันที่ร้านอาหารทานข้าวต้มและกาแฟ พระภิกษุทั้งหมด ๕ รูป ทุกคนรู้สึกสดชื่นเพราะอากาศเย็นเล็กน้อยพอสบายๆ ถือว่าได้มาทำบุญและพักผ่อนไปในตัว ความจริงหลวงพี่ได้เคยมาสำรวจครั้งหนึ่งแล้ว ท่านก็ชอบใจในสถานที่นี้ จึงได้วางแผนที่จะชักชวนญาติโยมให้มาสัมผัสบรรยากาศกันจริงๆ


เวลาแปดโมงเช้า คุณสุวรรณ ภานุนำภา ผู้อำนวยการอุทยานภูหินร่องกล้า ได้เข้ามานมัสการหลวงพี่ พร้อมกับบอกว่าเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฯ เหมือนกัน เคยไปที่วัดท่าซุงและบ้านสายลมเป็นประจำ พวกเราได้ยินดังนั้นจึงโมทนาสาธุกับท่านด้วย จากนั้นหลวงพี่จึงได้บอกว่าจะนำคณะเข้าเที่ยวชมที่ "ลานหินแตก" ก่อน แล้วให้ท่านหัวหน้าอุทยานฯ ไปพบกันที่นั่น


สถานที่นี้มีผู้คนล้มตายเป็นจำนวนมาก จะเห็นการสลักรายชื่อทหารที่เสียชีวิตที่แผ่นหินแกรนิตไว้ เพราะต้องต่อสู้กับคอมมิวนิสต์ พวกเรารู้สึกสลดใจและเห็นใจผู้ที่สูญเสีย บริเวณนี้ในอดีตเป็นกองบัญชาการใหญ่ของพรรคคอมมูนิตส์แห่งประเทศไทย หลังจากนั้นได้เข้าไปชมลานหินแตกที่เกิดจากการหดตัวของพื้นผิวโลก


จากนั้นพวกเราก็เดินออกมาจากในป่า บางคนก็แวะซื้อผักผลไม้จากชาวบ้านแถวนั้นที่มาวางขาย ต่อไปท่านหัวหน้าอุทยานฯ ก็ได้กล่าวต้อนรับคณะ และพูดถึงที่มาของรอยพระพุทธบาท ว่ามีพระธุดงค์มาพบก่อน โดยหนังสือพิมพ์ลงข่าวเมื่อ 16 สิงหาคม 2554 จากนั้นหลวงพี่ชัยวัฒน์ได้มอบ "หนังสือตามรอยพระพุทธบาท" หนึ่งชุด พร้อมพระพุทธรูป "ปางประทับรอยพระพุทธบาท" เป็นที่ระลึก

คลิปวีดีโอ การค้นพบ "รอยเท้าโบราณ" เป็นครั้งแรก




หลังจากได้วางแผนในการเข้าไปในป่าให้กับพวกเราทุกคนแล้ว จึงออกจาก "ลานหินแตก" ย้อนกลับมาถึงทางเข้าที่จะไปที่รอยเท้าโบราณ ซึ่งห่างกันประมาณ ๑ กิโลเมตร และเดินเข้าไปในป่าขึ้นเขาลงเขาอีกประมาณ ๗๐๐ เมตร


พวกเราโชคดีที่หัวหน้าอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้นำไป พร้อมกับได้มีการถากถางทางเอาไว้ก่อนแล้ว ไม่เช่นนั้นคงลำบากแน่ เพราะเป็นช่วงหน้าฝนป่าจะรกทึบ หัวหน้าอุทยานฯ และจ่าเสือเป็นผู้นำทาง เข้าไปตรงระหว่างเสาไฟฟ้าเลขที่ 504 ซึ่งงวดนั้นเลขนี้เคยออกมาแล้ว


หลังจากจอดรถไว้ข้างถนนเป็นแถวแล้ว จึงเดินเข้าไปในป่ากันทันที บริเวณนี้หลวงพี่เคยมาครั้งแรกก็ได้พบเป็นรอยพระพุทธบาท ๒ รอย คือรอยเกือกแก้ว และรอยนิ้วเท้า อยู่บนก้อนหินสองก้อนติดกัน ทางคณะวัดพระร่วงฯ โดยคุณบำรุงและภรรยา ได้จัดบายศรีมาถวาย ๒ พาน


หลังจากเดินกันมาถึงครบถ้วนแล้ว จึงได้ทำพิธีบวงสรวงด้วยเทปหลวงพ่อพระราชพรหมยาน สรงด้วยน้ำหอมและโปรยดอกไม้ สวดมนต์ด้วยบทอิติปิโส คาถาเงินล้าน อธิษฐานขอให้อยู่ได้ครบถ้วนห้าพันปี และปราศจากภัยพิบัติและอันตรายต่างๆ มีภัยจากธรรมชาติ, ภัยจากความอดอยาก, ภัยจากโรคระบาด และภัยจากสงคราม เป็นต้น จากนั้นทุกคนก็เข้ามาสรงน้ำปิดทอง ใช้เวลาจนกระทั่งใกล้เวลาฉันเพลจึงกลับมาที่ร้านอาหาร


ในภาพจะเห็นว่าถึงแม้ผู้คนจะมีจำนวนเกือบ ๒๐๐ คน แต่ก็สามารถแยกย้ายกันนั่งได้อย่างทั่วถึงกัน


พวกเราได้นำพวงมาลัยดาวเรืองมาร้อยรอบบริเวณรอยเท้าทั้งสองแห่ง


ช่างภาพของเราพยายามปีนขึ้นไปถ่ายภาพบนมุมสูง เมื่อมองเห็นดอกไม้ที่โปรยปรายไปแล้ว จึงทำให้มองสวยงามยิ่งขึ้น


ตามรูปภาพจะเห็นผีเสื้อตัวหนึ่งเกาะที่ด้านหลัง "จ่าเสือ" ตลอดเวลา หลังจากเสร็จพิธีแล้ว จึงพากันเดินออกมาที่ริมถนน บางคณะก็เดินทางกลับเลย แต่ส่วนใหญ่ก็อยู่ทานอาหารกลางวันกันต่อไป



คลิปวีดีโอจากทีวี ช่อง TNN



 ll กลับสู่สารบัญ


webmaster - 15/11/12 at 16:30

๓. สำนักสงฆ์บุญตามาก หมู่๔ ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก

ในเวลาตอนบ่ายได้เดินทางออกจากภูหินร่องกล้าแล้ว เป้าหมายต่อไป คุณสัมพันธ์ กันฟัก จากจังหวัดพิษณุโลกได้นำคณะมาที่ สำนักสงฆ์บุญตามาก แต่ทางเข้าเป็นถนนลูกรัง ถึงแม้จะเกรดไปแล้วแต่ก็ยังขรุขระ เมื่อเข้าไปถึงสำนักสงฆ์แล้ว เดินเข้าไปในป่า จะมองเห็น เป็นโขดหินที่มีลักษณะคล้ายรอยประทับนั่ง รอยพระพุทธบาท รอยพระหัถต์ และร่องรอยของถ้ำที่เชื่อว่าเป็นปล่องของพญานาค ซึ่งจะออกมาทุกวันโกนและวันพระ


เฉพาะภายในบริเวณนี้จะร่มคลึ้ม อากาศเย็นสบาย ไม่ร้อนเหมือนด้านนอก มองลงไปที่ดืพื้นดินจะเห็นเป็นเกล็ดแก้วเล็กๆ ระยิบระยับไปทั่ว ก้อนหินนี้เจ้าอาวาสได้เอาสีไปเขียนให้ชัดเจนขึ้น


(คุณสัมพันธ์ กันฟัก ยืนใส่แว่นตาอยู่ด้านซ้ายมือ) ช่วงนี้ยังไม่พบกับเจ้าอาวาส ชาวบ้านคนหนึ่งจึงได้นำทางไปในป่า เดินเข้าไปที่ถ้ำพญานาค แล้ววกกลับออกมาที่เดิม พร้อมกับเล่าว่าบริเวณนี้จะมีดวงไฟขึ้น ทุกวันโกน วันพระ และมีปี่พาทย์บรรเลง ชาวบ้านได้ยินกันทั่วเป็นที่เล่าลือ


ตอนนี้เจ้าอาวาสได้มานั่งเล่าให้ฟัง จึงทราบว่าพรุ่งนี้จะเป็นวันทอดกฐิน หลวงพี่และพวกเราจึงได้มีโอกาสทำบุญกฐินล่วงหน้า กับพระอาจารย์ จำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท ทางสำนักสงฆ์และชาวบ้านได้จัดเลี้ยงน้ำและข้าวต้มร้อนๆ กัน



ชาวบ้านได้มาต้อนรับหลายสิบคน พร้อมทั้งเล่าถึงความสำคัญบริเวณสถานที่นี้


หลังจากที่พวกเราฉลองข้าวต้มร้อนๆ กันเกือบหมดหม้อแล้ว จึงได้ลาเจ้าสำนักฯ และชาวบ้านทุกคนออกเดินทางกลับ





๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ (วัดท่าซุง - นครสวรรค์)

๔. รอยพระพุทธบาทวัดถ้ำพรสวรรค์ ต.ลำพยนต์ อ.ตากฟ้า จ.นครสวรรค์


หลังจากกลับมาพักที่วัดท่าซุง วันรุ่งขึ้นจึงไปฉันเพลที่ "ร้านอาหารนาเตี่ย" ที่หนองขาหย่าง เสร็จแล้วก็เดินทางไป วัดถ้ำพรสวรรค์ กราบรอยพระพุทธบาท และแวะเข้าไปชมในถ้ำ คณะที่ยังเหลืออยู่มีคณะของ "ดาบรอด-คุณอุไรวรรณ และคณะของ คุณติ๋ว (การบินไทย) มี คุณอิฏฐ์ และคุณแม่, คุณนนท์, และคุณตึ๋ง เป็นต้น



๕. หมู่บ้านตะคร้อ (หมู่บ้านระลึกชาติ) ต.ตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์

หมุ่บ้านที่มีการ "ระลึกชาติ" ของสมาชิกภายในหมู่บ้านซึ่งมีหลายคน หลวงพี่ได้เคยไปเยี่ยม และไปดูที่ก่อสร้างศาลที่วัดคลองมะม่วงเตี้ย เคยไปเมื่อปลายปี ๒๕๕๓ และปลายปี ๒๕๕๔


ก่อนการเดินทางหลวงพี่ได้นัดหมายกับคนที่ระลึกชาติได้คนหนึ่ง ชื่อว่า คุณธีระพันธ์ วงษ์คำภา ซึ่งทำงานอยู่ที่ด่านชั่งน้ำหนักหนองบัว จ.นครสวรรค์ โดยนัดกับให้ไปพบกันที่บ้านของคุณธีระพันธ์ (อ่านรายละเอียดการระลึกชาติของ "คุณธีระพันธ์" ได้ "คลิกที่นี่" )


เมื่อเดินทางมาถึง คุณพ่อ-คุณแม่ ของคุณธีระพันธ์ให้การต้อนรับ นำน้ำมาจัดเลี้ยงเป็นอย่างดี ช่วงนี้ก็มีวิญญาณมาเข้าสิงผู้หญิงคนหนึ่ง (ใส่เสื้อสีเขียว) บอกว่าขอให้หลวงพี่ช่วยหาพระพุทธรูปถวายวัดสักองค์หนึ่ง หลวงพี่จึงรับปากว่าจะจัดหามาถวายให้ ซึ่งวิญาณนี้บอกว่าให้สลักที่ฐานพระว่า สร้างอุทิศถวายให้ พระสนมเอกจันทร์เทวี ซึ่งมีเรื่องราวในอดีตมานานนับพันปี

หลังจากนั้นคุณธีระพันธ์ได้พาไปที่ วัดคลองมะม่วงเตี้ย ซึ่งหลวงพี่เคยมาแนะนำให้ตั้งศาลใหม่ พร้อมกับทำพิธีแก้กรรมต่างๆ จนบริเวณนี้เริ่มมีความเจริญขึ้น คุณธีระพันธ์ได้บอกว่าตนเองก็ได้มาซื้อที่ดินบริเวณใกล้วัดเอาไว้บ้าง เนื่องจากเห็นว่าหลังจากที่หลวงพี่มาทำพิธีแล้วบริเวณนี้เริ่มเจริญขึ้น ตามรูปภาพจะเห็นศาลอยู่หลังวัด ส่วนอดีตของศาลนี้มีความเป็นมาอย่างไร (อ่านรายละเอียดได้ "คลิกที่นี่" ) หรือที่
http://www.chumchonradio.net/showdetail.asp?boardid=869
https://sites.google.com/site/thaireincarnation/Home/tamroiphrabuddhabath


หลังจากเข้าไปที่ศาลหลังวัดคลองมะม่วงเตี้ยแล้ว หลวงพี่ได้ก็ออกมากราบนมัสการหลวงพ่อโพธิ์ เจ้าอาวาส พร้อมกับร่วมทำบุญกับท่านด้วย


ต่อจากนั้นจึงเดินทางกลับไปเพื่อจะดูวัดที่จะถวายพระพุทธรูป ซึ่งจะต้องออกไปนอกหมู่บ้านประมาณ ๖ ก.ม. ระหว่างทางผ่านทุ่งนาบริเวณจุดที่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่ จึงได้จอดรถแล้วเดินเข้าไป ซึ่งคุณธีระพันธ์เคยเล่าให้ฟังว่า มีรายการของ "วูดดี้" ได้เคยนำพราหมณ์มาทำพิธีเพื่อจะขุดเอาทรัพย์ใต้ต้นโพธิ์นี้ แต่ปรากฏว่ามีลมพายุพัดมาก่อน จึงทำให้ต้องล้มเลิกไป

คุณธีระพันธ์เล่าว่า ชาติก่อนตนเองและท่านแม่ (พระสนมเอกจันทร์เทวี) ได้เคยฝังทรัพย์สินเงินทองมีค่าเอาไว้ เช่นพระพุทธรูปทองคำเป็นต้น ท่านแม่มาเข้าทรงบอกว่าจะยกให้หลวงพี่ แต่ท่านบอกว่าไม่เอาหรอก ขืนขุดขึ้นมาคนก็ต้องปล้นไปหมด (อ่านเรื่องราวการระลึกชาติได้ที่นี่.. http://www.tamroiphrabuddhabat.com/xmb/viewthread.php?tid=722)


ตอนเย็นพวกเราได้เดินขึ้นบนยอดเขา เนื่องจากชาวบ้านที่นำทางมาบอกว่ามีรอยพระพุทธบาท แต่เมื่อขึ้นไปถึงแล้ว ปรากฏว่าเป็นรอยจำลองที่อาจจะสร้างทับรอยจริงก็ได้ หลังจากนั้นจึงกลับมาถึงวัดท่าซุงในเวลาใกล้ค่ำ จึงขอเล่าเรื่องไว้แต่เพียงเท่านี้ ขออนุโมทนาความดีผู้ร่วมเดินทางด้วยทุกท่าน..สวัสดีค่ะ

สรุปรอยพระพุทธบาท (พบใหม่) จากเดิม 635 แห่ง (หนังสือตามรอยฯ เล่มเล็ก พิมพ์เมื่อ ปี 2554)

ลำดับที่ 636 รอยพระพุทธบาท ณ ภูหินร่องกล้า อ. นครไทย จ. พิษณุโลก
ลำดับที่ 637 รอยพระพุทธบาท ณ เมืองปูรูซี่ (MPULUZI) จังหวัดปูมาลังกา (MPUMALANGA) ประเทศแอฟริกาใต้
ลำดับที่ 638 รอยพระพุทธบาท (ดิน) ณ บ้านหนองบัวเหนือ ต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก


=ll กลับสู่สารบัญ


webmaster - 4/12/12 at 14:51

.