ตามรอยพระพุทธบาท

เล่าเรื่องการเดินทางไปตาก - สุโขทัย วันที่ 3 - 5 ส.ค. 55
webmaster - 16/11/12 at 18:05

เล่าเรื่องการเดินทางไป "ตาก - สุโขทัย"


ทำบุญวันเข้าพรรษา..วันที่ 3 – 5 สิงหาคม 2555


วันที่ 3 สิงหาคม 2555 (อุทัยธานี - ตาก)

......วันนี้เป็นวันเข้าพรรษา พระอาจารย์ชัยวัฒน์ อชิโต เตรียมตัวเดินทางไปจำพรรษาที่วัดพระร่วง (วัดสิริเขตคีรี) อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย มีพระจากวัดท่าซุงไปจำพรรษาด้วย ๓ รูป คือ หลวงพี่บัญชา, หลวงพี่มานะ และ หลวงพี่ไตรรัตน์ โดยมีญาติโยมที่นับถือท่านมาส่งด้วย ตามภาพเป็นใครบ้างต้องชมกันเอง คงบรรยายไม่หมด ต้องขออภัยด้วยค่ะ


งานเข้าพรรษาปีนี้มีการทำบุญเป็นกรณีพิเศษ คือ คุณมายิน เดียวสุรินทร์ ได้เป็นเจ้าภาพอัญเชิญพระพุทธรูป หน้าตัก ๓๐ นิ้ว เพื่อที่จะนำไปประดิษฐานไว้ที่ "รอยพระพุทธบาท (ดิน)" ที่จังหวัดตากด้วย โดยมีรถปิ๊กอัพของคุณเติ้ง ทองใบ และคุณชลิดา เกิดแก้ว เพื่อนของคุณเอก - คุณกุ้ง จากแปดริ้ว ช่วยบรรทุกไปส่งถึงที่เลย ขอโมทนาด้วยค่ะ

 
 
 
 
 

ขบวนรถประมาณ ๑๐ กว่าคัน ได้เคลื่อนขบวนออกจากวิหารสมเด็จองค์ปฐม เวลาประมาณ ๑๒.๐๐ น. เดินทางถึงวัดพระร่วงฯ ช่วงเย็นๆ คณะผู้ติดตามไปส่งได้ขนกระเป๋าเข้าที่พัก จากนั้นออกมารับประทานอาหารเย็นกัน โดยมีคณะศิษย์ท่าชัยร่วมกันจัดเลี้ยงต้อนรับเป็นอย่างดี กลางคืนก็นอนพันกันอย่างสบาย โดยทางวัดมีพราหมณ์แอนช่วยจัดให้เป็นอย่างดี



วันที่ 4 สิงหาคม 2555 (วัดพระร่วง - ตาก)

๑. รอยพระพุทธบาท (ดิน) บ้านหนองบัวเหนือ ต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก (รอยพระพุทธบาท ลำดับที่ ๖๓๘)

หลังจากทานข้าวเช้าที่วัดพระร่วงแล้ว คณะก็ออกเดินทางไปบ้านของ คุณวิโรจน์ สุขชู บ้านหนองบัวเหนือ จ.ตาก เพื่อนำพระพุทธรูปหน้าตัก ๓๐ นิ้ว และไปร่วมฉลองศาลาที่สร้างครอบรอยพระพุทธบาท ซึ่งพระอาจารย์ชัยวัฒน์ให้งบประมาณไว้ประมาณ ๑ หมื่นกว่าบาท โดยมีผู้ร่วมติดตามทั้งหมด ประมาณ ๑๐๐ คน รถประมาณ ๒๒ คัน รวมทั้ง "คณะวัดพระร่วงฯ" ก็ร่วมติดตามไปด้วย


เมื่อมาถึงหน้าที่ทำการ อบต.หนองบัวเหนือ คุณวิโรจน์และภรรยา พร้อมคณะชาวบ้านอีกประมาณ ๑๐ กว่าคน ได้นำรถกระบะมารอต้อนรับ แล้วนำขบวนไปที่รอยพระบาท โดยมีรถติดเครื่องเสียงนำแห่ขบวนทั้งหมด

 
 

ซึ่งภายหลังคุณวิโรจน์และภรรยากล่าวว่ารู้สึกตื่นเต้นมาก เมื่อมองเห็นขบวนรถทั้งหมดถึงกับปีติขนลุกทันที

 
 

และเมื่อมาถึงบ้านที่ปลูกอยู่กลางทุ่งนา โดยเช่าเขาทำนามา ๑๐ กว่าปีแล้ว ซึ่งเจ้าของนาก็มาร่วมพิธีนี้ด้วย

 
 

จากนั้นหลวงพี่ได้จัดขบวนแห่อัญเชิญพระพุทธรูปเข้าไปที่ศาลาครอบรอยพระพุทธบาทที่เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ รถเครื่องเสียงเปิดเพลงให้ขบวนฟ้อนรำนำขบวน พวกเราต่างสนุกครื้นเครงตลอดทางในมือถือเครื่องบูชาต่างๆ

 
 

เมื่อขบวนมาถึงซึ่งมีระยะทางห่างจากบ้านประมาณ ๒๐๐ เมตร จะเห็นรอยเท้าปรากฏอยู่บนดินริมคันนา มีลักษณะเป็นนิ้วเท้าชัดเจน แต่นิ้วทั้งห้ากางออกกว้างมาก มองเห็นเป็นกลีบดอกบัว ชาวบ้านเล่าว่าวันที่พบรอยเท้านี้จะมีดอกบัวขึ้นเต็มไปหมดทั่วบริเวณทุ่งนาแห่งนี้ และในตอนนี้เริ่มมีนกตัวเล็กๆ มาทำรังที่บนต้นไม้ข้างรอยพระพุทธบาทกันมากขึ้น และหลังจากทำพิธีบวงสรวงแล้ว ปรากฏว่ามีฝูงปลาเล็กๆ มาแหวกว่ายใกล้บริเวณนั้นเต็มไปหมด

 
 

บริเวณนี้มีต้นไม้ใหญ่ ๓ - ๔ ต้น ทำให้ได้ร่มเงาไม้เป็นที่กางเต้นท์และตั้งโต๊ะเก้าอี้ไว้สำหรับรับประทานอาหาร กลางวัน อีกทั้งญาติพี่น้องของ "เจ๊อัญจนา" ที่อยู่ในตัวเมืองตากก็ได้นำขนมจีบซาลาเปามาจัดเลี้ยงเพิ่มเติม ส่วนอาหารทั้งหมดได้สั่งให้ชาวบ้านช่วยไปจัดซื้อมาให้ "เจ๊มายิน" เป็นเจ้าภาพงบประมาณ ๑,๕๐๐ กว่าบาท

 
 
 

คุณวิโรจน์และภรรยาบอกว่าดีใจที่หลวงพี่อัญเชิญพระพุทธรูปมาไว้ที่นี่ (ด้านหลังคุณวิโรจน์จะเห็นดอกบัวเต็มท้องนา) พร้อมทั้งได้ทำที่ครอบรอยเท้าไว้ตามที่หลวงพี่ต้องการ เพื่อรักษารอยเท้าไว้ให้ทรงสภาพเดิม จากนั้นพวกเราได้นำผ้าสไบทองผูกไว้ที่ด้านหน้าศาลา พร้อมกับจัดบายศรีที่ "คุณบำรุง - คุณน้อย" ทำมาจากสวรรคโลก เพื่อทำพิธีบวงสรวงกันต่อไป


ส่วนเรื่องราวที่พบรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ คุณสำราญ (ทีมงานฯ) เป็นผู้ทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์จึงได้จดรายละเอียดไว้ ต่อมาหลวงพี่ชัยวัฒน์ก็ได้เดินทางไปสำรวจไว้ก่อนหน้านี้ (ไปครั้งแรกเมื่อ ๑๘ มิ.ย. ๕๕) ปรากฎว่าก่อนจะกลับมีละอองฝนตกลงมาสักครู่เป็นอัศจรรย์ หลวงพี่จึงมอบเงินไว้ประมาณ ๑๐,๐๐๐ บาทเศษ เพื่อไว้สร้างศาลาและถมดิน พร้อมกับรับปากว่าจะอัญเชิญพระพุทธรูปมาไว้ที่นี่ด้วย


ส่วนภรรยาของคุณวิโรจน์เล่าว่า ปกติสุนัขมันจะมาเฝ้าอยู่ตลอดเวลา และจะเห่าเพื่อไม่ให้ใครเข้าใกล้บริเวณนี้ แต่เมื่อพวกเรามาถึง ปรากฏว่าไม่รู้มันหายไปไหนหมด ส่วนหลานชายของแกคนหนึ่ง พอจะเดินได้เองก็มักจะเดินไปไหว้รอยเท้านี้บ่อยๆ และวันที่พบรอยเท้าพระพุทธเจ้านี้ (พบวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕ พวกเราไปครั้งแรกวันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๕ เป็นวันครบหนึ่งเดือนพอดี) มีปรากฏการณ์พิเศษด้วยคือ "ดอกบัว" จะบานสพรั่งไปรอบๆ ทุ่งนาที่กว้างไกลออกไปจนสุดสายตา นับว่าเป็นเรื่องแปลกมาก (จึงได้ตั้งชื่อว่า "พระพุทธบาทบัวบาน" อีกทั้งนิ้วเท้ากางออกเหมือนฐานบัวด้วย) ต่อไปเป็นการรายงานข่าวการพบรอยเท้าจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและข่าวสด



หนังสือพิมพ์เสนอข่าวการพบ "รอยพระพุทธบาทบัวบาน" บ้านวังม่วง

21 พฤษภาคม 2555, 18:07 น. ไทยรัฐออนไลน์ โดย ทีมข่าวภูมิภาค

ฮือฮา! รอยเท้าประหลาด เชื่อเป็น'พระพุทธบาท' ชาวบ้านตื่นขอหวย


.......พบรอยเท้าประหลาด ชาวบ้านร่ำลือเป็นรอยเท้าพระพุทธเจ้า ที่บ้านวังม่วง ต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก เจ้าของบ้านระบุ ภรรยาฝันเห็นงูตัวใหญ่เลื้อยออกมาจากป่าแล้วดำหายไปในสระดอกบัว ตื่นมาพบรอยเท้าขนาดใหญ่ แถมสุนัขที่เลี้ยงไว้เห่าหอน นอนเฝ้าไม่ยอมห่าง...

เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เดินทางไปที่บ้านของ นายวิโรจน์ สุขชู อายุ 45 ปี เลขที่ 4/6 หมู่ 4 บ้านวังม่วง ต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก หลังทราบว่าพบรอยเท้าประหลาดที่บ้านดังกล่าว ซึ่งชาวบ้านร่ำลือว่าเป็นรอยเท้าของพระพุทธเจ้า เมื่อไปถึงพบว่าบริเวณที่พบรอยเท้าประหลาด ที่หลายคนเชื่อว่าเป็นรอยพระพุทธบาท หรือรอยเท้าของพระพุทธเจ้านั้น อยู่ริมทุ่งนา ห่างจากบ้านนายวิโรจน์ประมาณ 30 เมตร ล้อมรอบด้วยสระดอกบัว ที่คันนาซึ่งเป็นดินเหนียว

พบรอยเท้าข้างซ้ายรอยเดียว ขนาดใหญ่ ยาว 35 เซนติเมตร กว้าง 18 เซนติเมตร ลึกลงไปในดิน 5 เซนติเมตร โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าว พากันนำดอกไม้ธูปเทียวแห่มากราบไหว้นับร้อยคน นอกจากนี้ ยังนำเงินเหรียญบาทมาใส่ไว้ที่รอยเท้าเป็นจำนวนมากอีกด้วย บางคนก็มาขอโชคลาภ บ้างก็มาขอให้หายจากอาการเจ็บป่วย บ้างก็มากราบไหว้เพื่อเป็นสิริมงคล ตลอดทั้งวันมีชาวบ้านมาจากจังหวัดใกล้เคียงเดินทางมากราบไหว้กันอย่างไม่ขาดสาย


นายวิโรจน์ กล่าวว่า ก่อนจะพบรอยเท้านี้ ภรรยาของตนฝันเห็นงูตัวใหญ่เลื้อยออกมาจากป่า บอกว่าจะขอมาอาศัยอยู่ด้วย โดยจะอาศัยอยู่ในสระดอกบัว จากนั้นงูในฝันก็ดำหายลงไปในสระดอกบัว พร้อมกับมีแสงสว่างหลายสีพวยพุ่งขึ้นมาจากสระน้ำสว่างจ้า จากนั้น เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา "เจ้าลาย" สุนัขที่ตนเลี้ยงไว้ พร้อมกับลูกสมุน ก็พากันเห่าหอนตรงบริเวณรอยเท้า

จนกระทั่งรุ่งเช้าตนก็เดินไปเปิดน้ำเข้านา เห็นเจ้าลายยืนขวางทางอยู่ริมคันนา พร้อมทั้งเห่าหอนรอยเท้าตลอดเวลา ตนจึงเห็นรอยเท้าขนาดใหญ่ดังกล่าว ถึงกับตกใจขนลุก ตื่นเต้นดีใจ รีบกลับบ้านไปเรียกภรรยามาดู เชื่อว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ตามที่ฝันเห็น จึงไปบอกผู้เฒ่าผู้แก่ ว่าเป็นรอยพระพุทธบาท หรือรอยเท้าพระพุทธเจ้า


นอกจากนี้ เจ้าของบ้าน กล่าวด้วยว่า พอข่าวแพร่สะพัดออกไป ก็มีชาวบ้านทั้งใกล้และไกลแห่มากราบไหว้ และไม่ลึมขอหวยด้วย โดยฝูงของเจ้าลาย มีอยู่ด้วยกัน 6 ตัว นอนเฝ้าอยู่ไม่ห่างรอยเท้าตลอดทั้งวันทั้งคืน เพื่อไม่ให้คนเข้าไปใกล้รอยเท้า ซึ่งเวลากลางคืนพวกมันจะนอนขวาง พร้อมเห่าไล่ ไม่ให้คนเดินผ่านไปมากลางทุ่งนา ส่วนเงินที่ชาวบ้านบริจาคจะนำไปซื้ออุปกรณ์สร้างเพิงคลุมรอยเท้าไว้ เพื่อกันแดดกันฝนต่อไป.


วันที่ 21 พฤษภาคม 2555 เวลา 09.32 น. ข่าวสดออนไลน์

"ชาวบ้านวังม่วง จังหวัดตาก แห่กราบไหว้ขอหวยรอยเท้ายักษ์ เชื่อเป็นรอยพระพุทธบาท"


........ว้นที่ 21 พ.ค. ผู้สื่อข่าว “ข่าวสด” เดินทางไปที่บ้านของนายวิโรจน์ สุขชู อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 4/6 หมู่ 4 บ้านวังม่วง ต.หนองบัวเหนือ อ.เมือง จ.ตาก หลังจากทราบว่าที่บ้านดังกล่าว พบรอยเท้าประหลาดชาวบ้านร่ำลือว่าเป็น "รอยเท้าพระพุทธเจ้า"

เมื่อไปถึงพบบริเวณที่พบรอยเท้าประหลาดที่หลายคนเชื่อว่า เป็นรอยพระพุทธบาทหรือรอยเท้าพระพุทธเจ้าอยู่ริมทุ่งนาห่างจากบ้านของนายวืโรจน์ประมาณ 30 เมตรล้อมรอบด้วยสระดอกบัวที่คันนาเป็นดินเหนียว พบรอยเท้าข้างขวารอยเดียว ขนาดใหญ่ยาว 35 เซนติเมตร กว้าง 18 เซนติเมตร ลึกลงไปในดิน 5 เซนติเมตร โดยมีชาวบ้านที่ทราบข่าวแห่กันมากราบไหว้ด้วยดอกไม้ธูปเทียนนับร้อยคน ต่างก็นำเหรียญบาทมาใส่ไว้ที่รอยเท้าเป็นจำนวนมาก บ้างก็มาขอโชคลาภ บ้างก็มาขอให้หายจากเจ็บป่วย บ้างก็มากราบเพื่อเป็นสิริมงคล


นายวิโรจน์อ้างว่า ก่อนที่จะพบรอยเท้าขนาดใหญ่นี้ ภรรยาฝันเห็นงูใหญ่เลื้อยออกมาจากป่าบอกว่าจะมาขออาศัยอยู่ด้วย โดยจะอาศัยอยู่ในสระดอกบัว พร้อมกับมีแสงสว่างหลายสีพวยพุ่งขึ้นมาจากสระน้ำแสงสว่างจ้า จากนั้นเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา "เจ้าลาย" สุนัขที่เลี้ยงไว้พร้อมด้วยลูกสมุน ได้เห่าหอนที่ที่บริเวณรอยเท้า จนกระทั่งรุ่งเช้าตนได้เดินไปเปิดน้ำเข้านา เห็นเจ้าลายสุนัขที่เลี้ยงไว้ยืนขวางทางที่ริมคันนา พร้อมทั้งเห่าหอนที่รอยเท้า ตนไปดูจึงได้เห็นมีขนาดใหญ่ถึงกับตกใจขนลุกตื่นเต้น ..ดีใจ รีบกลับบ้านไปบอกให้ภรรยามาดู เชื่อว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ตามที่ได้ฝันเห็น จึงไปบอกให้ผู้เฒ่าผู้แก่ บอกว่าเป็น "รอยพระพุทธบาท"

กระทั่งข่าวแพร่สะพัดออกไป มีชาวบ้านทั้งใกล้และไกล แห่กันมากราบไว้และไม่ลืมขอหวย โดยมีฝูงเจ้าลายหกตัวนอนเฝ้าอยู่ไม่ห่างจากรอยเท้าตลอดทั้งคืนทั้งวัน เพื่อไม่ให้คนเข้าไปใกล้รอยเท้า ส่วนเงินที่บริจาคจะเอาไปซื้ออุปกรณ์เพื่อสร้างเพิงพักคุ้มรอยเท้ากันแดดกันฝนต่อไป...


หลังจากกลับกันมาแล้ว ทางคุณวิโรจน์และภรรยาพร้อมด้วยญาติๆ ก็ได้สร้างต่อเติมศาลาจนดูสวยงาม พร้อมกับได้นำภาพนี้มาให้ถึงที่วัดพระร่วงฯ และได้นำพุ่มกฐินมาร่วมทอดด้วยเมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๕ พร้อมกับเล่าว่าปีนี้น้ำท่วมเข้ามาถึงทุ่งนานานประมาณ ๑๕ วัน ปกติข้าวในนาจะตายหมด แต่ปีนี้แปลกมาก..ที่ข้าวในนาทั้งหมดไม่เสียหายเลย อีกทั้งรอยเท้าก็ไม่จางหายไปด้วย แต่กลับชัดเจนยิ่งกว่าเดิมอีก ต่อมาเมื่อกลับไปถึงบ้านแล้ว คุณวิโรจน์ได้โทรศัพท์มาบอกอีกว่า ตนได้ถูกหวยงวดนี้ประมาณ ๓ หมื่นบาท จึงขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ


๒. วัดพระบรมธาตุ ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก

หลังจากเสร็จจากที่นี้แล้วเดินทางไปกราบพระบรมธาตุ (พระเกศาธาตุสี่เสัน) เพราะถนนเส้นนี้สามารถวิ่งรถได้ไปถึงเขื่อนยันฮี แต่พวกเราไปไม่ถึง คงไปกันแค่วัดพระบรมธาตุ และจะไปกราบพระเจดีย์ยุทธหัตถี จากนั้นก็จะเดินทางกลับวัดพระร่วงฯ

 
 

เมื่อจอดรถไว้ในบริเวณวัดแล้ว มองเห็นร้านค้าเต็มไปหมด ช่วงนี้ฝนตกลงมาเบาๆ จึงได้เข้าไปปิดทองและสรงน้ำพระบรมธาตุ จารึกชื่อในแผ่นผ้าที่จะนำขึ้นไปห่มพระบรมธาตุ แล้วได้ทำประทักษิณพระบรมธาตุหนึ่งรอบ

 
 

ภายในวัดพระบรมธาตุ บ้านตากนี้ ยังมีพระพุทธรูปองค์หนึ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ จนชาวบ้านไกลๆ จะต้องมากราบไหว้และบนบานศาลกล่าว โดยเฉพาะชาวจังหวัดชลบุรีจะมีความเคารพนับถือมาก ชาวบ้านแถวนี้เขาเรียกกันว่า "หลวงพ่อทันใจ" จะมีจำหน่ายเครื่องบูชาเป็นชุดๆ สำหรับถวาย "หลวงพ่อทันใจ" เป็นผลไม้เช่น กล้วย ส้มโอ มะพร้าว เป็นต้น และพวกเราได้นำเทียนเข้าพรรษาถวายไว้หนึ่งคู่ด้วย

 
 



๓ . พระเจดีย์ยุทธหัตถี ต.เกาะตะเภา อ.บ้านตาก จ.ตาก

เวลาต่อมาก็มากราบเจดีย์ยุทธหัตถี ซึ่งอยู่บริเวณใกล้กัน ห่างกันประมาณ ๒๐๐ เมตร พวกเราได้ไปซื้อเครื่องบูชาจากร้านค้าที่วางจำหน่ายอยู่หน้าพระเจดีย์ เช่นประทัดยักษ์ รูปปั้นช้างม้า และผ้าห่ม เป็นต้น จากนั้นได้สรงน้ำพระบรมธาตุ ปิดทองและหลวงพี่ได้เล่าประวัติของเจดีย์ยุทธหัตถีแห่งนี้ว่า เป็นการสร้างสมัยสุโขทัยที่รบชนะ "ขุนสามชน" เจ้าเมืองฉอด แล้วจึงได้สร้างพระเจดีย์แห่งนี้ไว้เป็นอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ปรากฏว่าสมัยปัจจุบันนี้มีความศักดิ์สิทธิ์มาก ถ้าเป็นตอนวันใกล้หวยออก จะมีรถราจอดเต็มไปหมด ส่วนใหญ่จะมาไหว้กันเพื่อขอเลขขอหวย ผู้คนมากมายต่างคนต่างมองหาตัวเลขบนที่เจดีย์ กลิ่นธูปควันเทียนคละคลุ้งไปทั่ว โดยเฉพาะหลวงพี่เคยมาเห็นตัวเลข 26 ปรากฏว่างวดนั้นออก 62 นับว่าแม่นมาก แต่ท่านก็บอกใครไม่ทัน สมัยนั้นท่านนำไปทอดกฐินที่วัดพระบาทดอยโล้น บ้านตาก จ.ตาก ประมาณปี ๒๕๔๑



เจดีย์ยุทธหัตถี หรือ "เจดีย์เฉลิมพระเกียรติพระเจ้ารามคำแหงมหาราช" หรือชาวบ้านเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "เจดีย์ชนช้าง" ตั้งอยู่บนดอยช้าง ตำบลเกาะตะเภา ดอยช้างเป็นเนินดินเล็ก ๆ อยู่ทางเหนือของดอยพระธาตุไปเล็กน้อย เจดีย์นี้เป็นโบราณสถาน สร้างในสมัยสุโขทัยมีอายุราว ๗๐๐ ปีเศษ องค์เจดีย์ยุทธหัตถีอยู่เยื้องกับวัดพระบรมธาตุประมาณ ๒๐๐ เมตร



ลักษณะของเจดีย์ยุทธหัตถีเป็นศิลปะแบบสุโขทัยคล้ายกับองค์อื่นๆ ทั่วไปในเมืองสุโขทัย ก่ออิฐถือปูนฐานกว้าง ๑๒ เมตร เป็นเรือนธาตุรูปสี่เหลี่ยมย่อมุมขึ้นไป สูง ๑๖ เมตร เหนือเรือนธาตุทำเป็นลำสี่เหลี่ยมย่อมุมตลอดถึงยอดที่เป็นทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ ยอดสุดมีฉัตร มีร่องรอยการซ่อมแซมตลอดมา แต่ไม่เสียรูปทรงเดิม ฐานพุ่มมีลายปั้นเป็นรูปหน้าสิงห์สวยงาม หน้าสิงห์ด้านทิศเหนือยังสมบูรณ์ ด้านอื่นๆ ชำรุด



องค์เจดีย์ส่วนใหญ่มีคราบตะไคร่น้ำจับอยู่ทั่วไป จะมีการขุดแต่ง และทำความสะอาดรอบบริเวณเจดีย์ในช่วงใกล้วันเทศกาล เป็นงานเดียวกับงานไหว้พระธาตุบ้านตากจากหลักฐานศิลาจารึกหลักที่ ๑ พ่อขุนรามคำแหงมหาราชกล่าวว่า ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด ได้ยกทัพมาตีกรุงสุโขทัย พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ได้ทรงบกทัพมาป้องกันเมืองตาก พ่อขุนรามคำแหงมหาราช โอรสเสด็จติดตามไปด้วยและพทัพทั้งสองได้ปะทะกัน ณ ที่แห่งนี้ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์เป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำเสียทีแก่ขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด พ่อขุนรามคำแหงมหาราชจึงได้ไสช้าง เบิกพลเข้าช่วยจนได้รับชัยชนะจึงได้สร้างเจดีย์ขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติในการทำยุทธหัตถีมีชัยชนะ

หลังจากนั้นหลวงพี่ได้เข้าไปกราบไหว้และสรงน้ำโดยรอบ พร้อมกับให้พวกเราได้เข้าไปกราบไหว้ด้วย จากนั้นก็สั่งให้จุดประทัดเป็นการบูชา เสียงประทัดดังลั่นไปทั่วบริเวณนี้ ปรากฏว่าฉลากที่ติดกับประทัดทุกกล่อง เป็นเลข ๘ ทั้งนั้น สมกับรอยเท้าพระพุทธเจ้านี้นับเป็นลำดับที่ ๖๓๘ พอดี งวดนั้นผลปรากฏว่าเลข ๘ ออกทันที



วันที่ 5 สิงหาคม 2555 (วัดพระร่วงฯ - อุตรดิตถ์)

๔. หลวงพ่อโต วัดหน้าพระธาตุ บ.หน้าพระธาตุ ต.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

เนื่องจากวันต่อมาเป็นวันเสาร์อาทิตย์ พวกเราที่ตามมาส่งยังมีเวลาเที่ยวต่อกันอีกหนึ่งวัน หลวงพี่จึงได้พาไปกราบนมัสการ "หลวงพ่อโต" เมืองของพระยาพิชัยดาบหัก



 

ตามประวัติเล่าว่า "วัดหน้าพระธาตุ" ตั้งอยู่ในตัวเมืองพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นวัดโบราณที่เป็นที่ประดิษฐานพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปหลวงพ่อโต พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของอำเภอพิชัย ปัจจุบันวัดหน้าพระธาตุได้สร้างวิหารปราสาทจตุรมุขห้ายอดคลุมพระพุทธรูปหลวงพ่อโตและรอยพระพุทธบาท เป็นสถาปัตยกรรมทรงปราสาทแห่งเดียวของจังหวัดอุตรดิตถ์

 
 

"วัดหน้าพระธาตุ" เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองพิชัยมาตั้งแต่โบราณนานเกือบ ๑,๐๐๐ ปี ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่บริเวณ ปราสาทพระนวมะราชบพิตร ภายในบริเวณวัดมีโบราณวัตถุที่น่าสนใจคือ "หลวงพ่อโต" พระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง ๓ วา เดิมทีมีตำนานเล่าขานกันมาว่าสร้างโดยพระยาโคตรบอง เมื่อ พ.ศ.๑๔๗๐ หลวงพ่อประดิษฐานอยู่ในวิหารแบบปราสาทจัตุรมุข มีเนื้อที่ ๙๙ ตารางวา พระเจดีย์เป็น ยอด ๕ องค์ ความสูง ๔๙ เมตร นอกจากเป็นที่ประดิษฐานหลวงพ่อโตแล้ว ยังเป็นที่ประดิษฐาน "พระบรมสารีริกธาตุ" และรอยพระพุทธบาทจำลองอีกด้วย

๕. รอยพระพุทธบาท วัดเขาดินสุวรรณบาท บ.ม่วงตาล ต.นายาว อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์

สถานที่แห่งนี้หลวงพี่เคยมาสำรวจไว้นานแล้ว เนื่องจากยังมีเวลาเหลือ จึงได้พาพวกเราแวะมากราบรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ หลังจากที่ไม่เคยมาเป็นเวลานานแล้ว

 

ต้องจอดรถไว้ในบริเวณวัด จากนั้นจึงเดินเข้าไปหลังวัด ขึ้นบนเนินเขาเตี้ย มองเห็นศาลาเล็กๆ ครอบอยู่
ถึงแม้ว่ารอยจะไม่ชัดเจน แต่พวกเราก็เชื่อว่าเป็นของสำคัญ บริเวณใกล้ๆ จะมองเห็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่

 
 

หลังจากนั้นได้ช่วยกันนำผ้าสไบทองห่มรอบก้อนหินนี้ แล้วสรงน้ำปิดทอง และเดินทางกลับในตอนเย็นวันนั้น ส่วนพวกเราบางคณะก็ขอเดินทางกลับ เพื่อไปทำงานกันต่อไป แล้วนัดแนะวันออกพรรษาหลังจากทอดกฐินที่วัดพระร่วงกันแล้วว่า หลวงพี่จะพาไปไหว้รอยเท้าที่ "ภูหินร่องกล้า" อ.ชาติตระการ จ.พิษณุโลก โดยขอทราบจำนวนคนก่อน เพื่อจะได้จองที่พักบนอุทยานฯ กันแต่เนิ่นๆ ส่วนการเล่าเรื่องงานวันเข้าพรรษา คงจะต้องยุติเพียงแค่นี้ก่อน ไว้พบกันตอนต่อไปในวันออกพรรษา พบกัน ณ "ภูหินร่องกล้า" ช่วงหน้าหนาวกันต่อไป..สวัสดีค่ะ


webmaster - 2/12/12 at 08:00

.