(Upload ภาพถ่าย 7 มิ.ย. 51) วันที่ 18 ก.พ. สมเด็จพระเทพฯ เสด็จทำพิธียกฉัตร ณ พระธาตุจอมกิตติ
webmaster - 12/2/08 at 04:56
(อัพเดทภาพถ่าย เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2551 หลังพิธียกฉัตรหลายเดือนแล้ว)
ข่าวล่าสุด...
วันนี้ วันที่ 18 ก.พ. เวลา 09.00 น. สมเด็จพระเทพรัตนฯ ได้เสด็จพระราชดำเนิน ทำพิธียกฉัตรทองคำ
ณ พระธาตุจอมกิตติ จ.เชียงราย ยอดฉัตรได้ขึ้นไปประดิษฐานบนปลียอดพระเจดีย์เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซี่งมี คณะศิษย์
หลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุง นำโดย พระครูปลัดอนันต์ เป็นเจ้าภาพบริจาคเงินรวมทั้งสิ้น 6,170,000 บาท
(อัพเดทภาพถ่าย เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2551 หลังพิธียกฉัตรหลายเดือนแล้ว)
เนื่องจากเจ้าอาวาสวัดท่าซุง ได้เดินทางไปแจกของที่ อ.อุ้มผาง จ.ตาก จึงไม่สามารถจะเดินทางไปร่วมพิธีนี้ได้
จึงได้มอบหมายให้ ม.ล.เอื้อมสุข (หนุ่ย) กิติยากร และ คุณเยาวลักษณ์ (ขวัญ) มิตรศรัทธา ซึ่งเป็นกรรมการมูลนิธิฯ
ไปร่วมพิธีดังกล่าว...สาธุ...สาธุ...สาธุ..อนุโมทามิ..:D:D:D
สมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงห่วงพระธาตุที่อยู่รอยเลื่อนเปลือกโลก
- สำนักข่าวไทย 18 ก.พ.
สมเด็จพระเทพรัตนฯ ทรงห่วงพระธาตุบริเวณรอยเลื่อนเปลือกโลก มีความเสี่ยงจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยเฉพาะพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่
ทรงรับสั่งให้กรมศิลป์ฯ ดำเนินการสำรวจและจัดทำโครงสร้างข้อมูลเบื้องต้นเพื่อใช้ในการบูรณะ
เวลา 09.00 น.วันนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวัดพระธาตุจอมกิตติ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย
ทรงประกอบพิธียกฉัตรประดับยอดพระธาตุ ซึ่งสำนักช่างสิบหมู่กรมศิลปากรได้ทำการบูรณะซ่อมแซมยอดฉัตร หลังจากยอดฉัตรหักลงมาจากเหตุแผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริกเตอร์
บริเวณรอยเลื่อนแม่จัน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่งอยู่ห่างจาก อ.เชียงของ 60 กิโลเมตร เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2550
โดยช่างได้ซ่อมแซมจากของเดิมให้มีความสมบูรณ์และแข็งแรงมากขึ้น รวมทั้งได้เปลี่ยนก้านและแกนฉัตรเป็นสแตนเลส จากเดิมที่เป็นเหล็ก ซึ่งผุกร่อนเป็นสนิม
ส่วนตัวฉัตรนั้น ช่างได้ทำให้เข้ารูปเดิม และเปลี่ยนวิธีห่อหุ้มทองคำ 99 เปอร์เซ็นต์ จากวิธีเปียกทองโบราณ มาใช้เทคโนโลยีใหม่วิธีฟอร์มทอง
โดยใช้ไฟฟ้าเป็นตัวหล่อและหุ้ม ซึ่งทำให้ทองคำอยู่ติดคงทน และสีไม่หมอง
ส่วนยอดฉัตรที่ประดับด้วยอัญมณีนพเก้า และมีอัญมณีหลุดหายไป 2 ชนิดนั้น ได้มีประชาชนบริจาคโกเมนและนิล ซึ่งช่างได้นำขึ้นไปประดับไว้ครบทั้ง 9
ยอดแล้ว
นายสหวัฒน์ แน่นหนา ผู้อำนวยการสำนักศิลปากร ที่ 8 เชียงใหม่ กล่าวว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 16 พ.ค. 2550 ทำให้องค์พระธาตุจอมกิตติ
เกิดรอยร้าว รวมทั้งยอดฉัตรของพระธาตุโค่นหักลงมาเกิดความเสียหาย อัญมณีนพรัตน์ 9 เม็ด ที่ปลายยอดฉัตร 2 เม็ด คือ นิลและโกเมนสูญหาย
ขณะนี้ กรมศิลปากรได้ดำเนินการบูรณะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ทั้งในส่วนโครงสร้างและฐานราก
เสริมอิฐซ่อมแซมส่วนที่เสียหายและเสริมความมั่นคงรอยแตกร้าวด้วยกาววิทยาศาสตร์ (Epoxy) และอัดฉีดน้ำปูนเข้าไป
สำหรับฉัตรที่ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่มีลักษณะเป็นเจดีย์ทรงปราสาท 9 ชั้น ขนาดความสูง 3.05 เมตร น้ำหนัก 30.98 กิโลกรัม แกนฉัตรทำด้วยทองแดง
ส่วนยอดสร้างด้วยทองคำประดับอัญมณี 9 เม็ด มีประชาชนบริจาคอัญมณีที่หายไป 2 เม็ด ทั้งสีดำและสีแดง ได้อัญมณีครบตามจำนวนองค์ฉัตร
ส่วนปลียอดเหนือซุ้มองค์พระธาตุปิดทองจังโก และปิดทับด้วยทองคำเปลวบริสุทธิ์ชนิดคัดพิเศษ
การบูรณะครั้งนี้ได้รับเงินจากการบริจาคของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 6,170,000 บาท
ภายหลังการบูรณะและประดิษฐานฉัตรในครั้งนี้แล้ว ให้ความมั่นใจว่าองค์พระธาตุจะมีความแข็งแรงมั่นคงมากขึ้นกว่าเดิม
เนื่องจากได้ทดสอบด้านโครงสร้างทางวิศวกรรมจากวิศวกร ของกรมศิลปากร จึงไม่น่ามีเหตุการณ์ที่ทำให้พระธาตุเสียหายขึ้นอีก
ยกเว้นกรณีเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวขึ้นบริเวณที่มีจุดศูนย์กลางใกล้พระธาตุมาก ๆ จะทำให้เกิดความเสียหายได้ ผอ.สำนักศิลปากรที่ 8 เชียงใหม่ กล่าว
นายอารักษ์ สังหิตกุล ผู้ตรวจราชการกระทรวงวัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าโครงการบูรณะพระธาตุจอมกิตติ กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ทรงห่วงพระธาตุองค์อื่น ๆ ที่อยู่บริเวณรอยเลื่อนของเปลือกโลก ส่วนใหญ่อยู่ติดขอบชายแดนไทย-พม่า อาจมีผลกระทบต่อเหตุการณ์แผ่นดินไหว
โดยเฉพาะพระธาตุดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ อาจมีปัญหาเกี่ยวกับแลนด์สไลด์ หรือรอยแผ่นดินเลื่อน
ทรงรับสั่งให้กรมศิลปากรดำเนินการสำรวจและจัดทำโครงสร้างข้อมูลเบื้องต้น เพื่อใช้ในการบูรณะพระธาตุดอยสุเทพ รวมถึงพระธาตุองค์อื่น ๆ
ที่มีความเสี่ยงด้วย ทั้งนี้ กรมศิลปากรได้มอบหมายให้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จัดทำแผนโครงสร้างพระธาตุดอยสุเทพไว้เบื้องต้นเสร็จเรียบร้อยแล้ว.
ที่มา - สำนักข่าวไทย