ประวัติ "วันตรุษจีน" หรือปีใหม่จีน 19 กุมภาพันธ์ ปี 2558
webmaster - 17/4/08 at 06:42
Chainess Newyear 2015
"ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้
ซินเจิ้งหรูอี้ ซินเหนียนฟาไฉ"
ปีใหม่ขอให้ทุกอย่างสมหวัง ปีใหม่ขอให้ร่ำรวย
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2558
สวัสดีค่ะ น้องๆ ที่น่ารักทุกคน
สวัสดีปีใหม่ และ ซินเจีย ยู่อี่ ซินนี้ ฮวดใช้ ปี 2558 หวังว่าคงสบายกันทุกคนนะค่ะ พี่สมศรีก็หายไปนานตามเคย
แต่ก็ยังมองดูว่าใครเข้ามาในห้องนี้กันบ้าง พบกันวันนี้เป็นวันตรุษจีน คงจะเอาประวัติมาฝากอย่างละเอียดค่ะ
ความรู้เกี่ยวกับ "วันตรุษจีน"
......นับเป็นประเพณีนิยม ในวันตรุษจีน
ที่เป็นวันขึ้นปีใหม่ของชนชาติจีนแผ่นดินใหญ่และพี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน นั่นแสดงว่าเป็นสัญญาณอันดีที่จะมีงานรื่นเริง การสวมใสเสื้อสีแดงสด
อันเป็นสีที่เป็นศิริมงคลของพี่น้องชาวจีน อาจจะบอกว่าเป็นวันครอบครัว ที่จะได้พบปะสังสรรค์ กินเลี้ยงอย่างมีความสุข ...
อันเป็นวันที่เปี่ยมไปด้วยการให้ทาน การทำบุญทำกุศล หรือแม้กระทั่งที่วัดจีนประชาสโมสร ก็มีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ทำทานในวันขึ้นปีใหม่
นำมาซึ่งความปิติ-มีความสุขเปี่ยมล้น มีผลทำให้มีกำลังใจในการต่อสู้ชีวิต ทำงาน-ค้าขายให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป...
เทศกาลจีนมีอยู่มากมาย ตรุษจีนเป็นเทศกาลที่สำคัญที่สุดของจีน เป็นวันขึ้นปีใหม่ตามปฎิทินจีน ในปีนี้ตรงกับวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556 เช่นเดียวกับ
"สงกรานต์" วันปีใหม่ไทย ทุกคนต่างให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่างหยุดงาน โรงเรียนสถาบันการศึกษาต่างปิดเทอมในช่วงนี้ เป็นปิดเรียนฤดูหนาว
ยกเว้นคนที่ต้องทำหน้าที่ไม่สามารถหยุดงานได้ หน่วยงานห้างร้านต่างก็หยุดงาน 3-4 วัน
เมื่อใกล้วันปีใหม่จีน ผู้คนต่างก็มีการตระเตรียมงานปีใหม่ ภายในครอบครัว ทุกบ้านก็จะทำความสะอาดบ้านเรือน ผ่านปีใหม่อย่างสะอาดสะอ้านสดใส
ร้านค้าห้างสรรพสินค้าต่างก็เติมไปด้วยผู้คนมาจับจ่ายใช้สอย ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้แก่เด็กๆ ซื้อของขวัญให้แก่ญาติสนิทมิตรสหาย ซื้อบัตรอวยพร
ในตลาดก็คราคร่ำไปด้วยผู้คน ต่างเดินไปเดินมากันขวักไขว่ ซื้อปลาบ้าง ซื้อเนื้อสัตว์บ้าง ซื้อเป็ดไก่บ้าง ทุกคนต่างดูแจ่มใสมีความสุข ช่วงเทศกาลปีใหม่
เด็กๆต่างมีความสุขมาก ต่างสวมเสื้อใหม่ ทานลูกกวาดขนมหวาน เล่นพลุประทัดอย่างรื่นเริง
คืนก่อนวันปีใหม่ คือวันสุดท้ายของปีนั่นเองเป็นคืนที่ครึกครื้นที่สุด ใครที่ไปทำงานห่างจากบ้านเกิด
ต่างก็พยายามอย่างสุดความสามารถที่จะกลับมาฉลองวันปีใหม่ที่บ้าน ตอนกินอาหารมื้อค่ำคืนก่อนขึ้นปีใหม่จีน ทุกคนในครอบครัวต่างนั่งกันพร้อมหน้าล้อมโต๊ะอาหาร
ต่างชนแก้วอวยพรปีใหม่กัน ทานมื้อค่ำเรียบร้อยแล้ว บางคนก็ดูทีวี บางคนก็ฟังเพลง บางคนก็นั่งคุยกัน บางคนก็เล่นหยอกล้อกับเด็กๆ บ้านเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
และเสียงหัวเราะ พอถึงเที่ยงคืน คนจีนทางเหนือก็จะเริ่มทำเกี๊ยว (เจี้ยวจึ) คนจีนทางใต้ ก็จะปั้นลูกอี๋ทำน้ำเชื่อม ทำไป ชิมไปทานไป ครึกครื้นอย่างยิ่ง
เช้าวันรุ่งขึ้นแต่เช้า ทุกคนจะตื่นแต่เช้า เยี่ยมเพื่อนบ้าน เพื่อนฝูงอวยพรปีใหม่
ประวัติวันตรุษจีน หรือปีใหม่จีน
ประวัติของวันขึ้นปีใหม่ของจีนมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ในวัฒนธรรมอื่นๆ ความปรารถนาสิ่งที่เราหวังว่าจะได้ปรับปรุง
หรือที่เราคิดทำเมื่อเริ่มต้นในปีใหม่ มาถึงตอนนี้ ถ้าไม่ถูกลืมก็ถูกยัดลงกล่องใส่ตู้ปิดตายและแปะหน้าตู้ว่าไม่แน่ เอาไว้ทำปีหน้าแล้วกันอย่างไรก็ดี
ความหวังก็คงยังไม่สูญไปทั้งหมดเพราะโอกาสที่สองกำลังมาถึงแล้ว กับการฉลองวันปีใหม่จีนหรือที่เรารู้จักกันว่า ตรุษจีนในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2556 นี้
นั้นเอง
ตรุษจีนนั้นคล้ายคลึงกับวันปีใหม่ในประเทศทางตะวันตก ร่องรอยของประเพณี และพิธีกรรมความเป็นมาของการฉลองตรุษจีน นั้นมีมานานกว่าศตวรรษ จริงๆแล้วนานมาก
จนไม่สามารถย้อนกลับไปดูว่าเริ่มต้นฉลองมาตั้งแต่เมื่อไร เป็นที่รู้จักและจำได้ทั่วไปว่าเป็น การฉลองเทศกาลฤดูใบไม้ผลิ และการฉลองเป็นเวลานานถึง 15 วัน
การเตรียมงานฉลองส่วนใหญ่จะเริ่มหนึ่งเดือนก่อนวันตรุษจีน (คล้ายกับวัน คริสต์มาสของประเทศตะวันตก)
เมื่อผู้คนเริ่มซื้อของขวัญ, สิ่งต่างๆ เพื่อประดับบ้านเรือน, อาหารและเสื้อผ้า การทำความสะอาดครั้งใหญ่ก็เริ่มขึ้นในวันก่อนตรุษจีน บ้านเรือนจะถูก
ทำความสะอาดตั้งแต่บนลงล่างหน้าบ้านยันท้ายบ้าน ซึ่งหมายถึงการกวาดเอาโชคร้าย ออกไป ประตูหน้าต่างมีการขัดสีฉวีวรรณทาสีใหม่ซึ่งสีแดงเป็นสีนิยม
ประตูหน้าต่างจะถูก ประดับประดาด้วยกระดาษที่มีคำอวยพรอย่างเช่น อยู่ดีมีสุข ร่ำรวย และอายุยืนเป็นต้น
วันก่อนวันตรุษจีนนั้นเป็นวันแห่งการการรอคอยจะว่าไปถือวันที่น่าตื่นเต้นมากที่สุด ในบรรดาการฉลองทั้งหมดเห็นจะได้ ประเพณีและพิธีกรรมต่างๆ
นั้นผูกไว้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ อาหาร ไปจนถึงเสื้อผ้า อาหารค่ำนั้นประกอบด้วยอาหารทะเล และอาหารนึ่งเช่นขนมจีบ ซึ่งแต่ละอย่างจะมีความหมายต่างๆ กัน
อาหารอันโอชะอย่างเช่น
- "กุ้ง" จะหมายถึงชีวิตที่รุ่งเรือง และความสุข
- "เป๋าฮื้อแห้ง" หมายถึงทุกสิ่งทุกอย่างที่ดี
- "สลัดปลาสด" จะนำมาซึ่งโชคดี
- "จี้ไช่" (ผมเทวดา) สาร่ายดูคล้ายผมแต่กินได้ จะนำความความร่ำรวยมาให้ และ
- "ขนมต้ม" (Jiaozi) หมายถึงบรรพชนอวยพร
และเป็นธรรมดาเสื้อผ้าที่ใส่สีแดงถือเป็นสีที่เป็นมงคลเป็นการไล่ปีศาจร้ายให้ออกไป และการใส่สีดำหรือขาวเป็นสิ่งต้องห้าม
ซึ่งสีเหล่านี้ถือว่าเป็นสีแห่งการไว้ทุกข์ หลังจากอาหารค่ำทุกคนในครอบครัวนั่งกันจนเช้าเพื่อรอวันใหม่โดยการเล่นเกม เล่นไพ่
หรือดูรายการทีวีที่เกี่ยวกับวันตรุษจีน และในวันนี้จะต้องไม่โกรธ ริษยา หรือ ไม่พอใจ เพื่อเป็นสิริมงคลที่ดีสำหรับปีที่กำลังจะมาถึง
เมื่อถึงวันตรุษจีน ประเพณีตั้งแต่โบราณมาเรียกว่า อังเปา ซึ่งหมายถึง กระเป๋าแดง เป็นการที่คู่แต่งงานให้เงินเด็กๆ
และผู้ใหญ่ที่ยังไม่ได้แต่งงานในซองสีแดง หลังจากนั้นทุกคน ในครอบครัว ต่าง ออกมาเพื่อกล่าวสวัสดีปีใหม่ เริ่มจากญาติๆ แล้วต่อด้วยเพื่อนบ้าน
ซึ่งคงคล้ายกับการที่ชาวตะวันตกพูดว่า
"Let bygones be bygones" (อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไป) ในวันตรุษนี้ อารมณ์โมโหโกรธาจะถูกลืม และไม่สนใจ การฉลองวันตรุษจีนสิ้นสุดลงในงานโคมไฟ
ซึ่งฉลองโดยการร้องเพลง เต้นรำ และงานแสดงโคมไฟ ถึงแม้ว่าการฉลองวันตรุษจีน จะมีแตกต่างกันออกไปแต่สิ่งที่เหมือนกัน คือ การอวยพร ความสงบ
และความสุขให้กับคนในครอบครัวและเพื่อนทุกคน
อาหารไหว้เจ้า
ในวันฉลองตรุษจีนอาหารจะถูกรับประทานมากกว่าวันไหนๆในปี อาหารชนิดต่างๆที่ปฏิบัติกันจนเป็นประเพณี จะถูกจัดเตรียมเพื่อญาติพี่น้องและเพื่อนฝูง
รวมไปถึงคนรู้จักที่ได้เสียไปแล้ว ในวันตรุษครอบครัวชาวจีนจะทานผักที่เรียกว่า ไช่ ถึงแม้ผักชนิดต่างๆที่นำมาปรุง
จะเป็นเพียงรากหรือผักที่มีลักษณะเป็นเส้นใยหลายคนก็เชื่อว่าผักต่างๆมีความหมายที่เป็น มงคลในตัวของมัน
เม็ดบัว - มีความหมายถึง การมีลูกหลานที่เป็นชาย
เกาลัด - มีความหมายถึง เงิน
สาหร่ายดำ - คำของมันออกเสียงคล้าย ความร่ำรวย
เต้าหู้หมักที่ทำจากถั่วแห้ง - คำของมันออกเสียงคล้าย เต็มไปด้วยความร่ำรวย และ ความสุข
หน่อไม้ - คำของมันออกเสียงคล้าย คำอวยพรให้ทุกอย่างเต็มไปด้วยความสุข
เต้าหู้ที่ทำจากถั่วสดนั้นจะไม่นำมารวมกับอาหารในวันนี้เนื่องจากสีขาวซึ่งเป็นสีแห่งโชคร้าย สำหรับปีใหม่และหมายถึงการไว้ทุกข์
อาหารอื่นๆ รวมไปถึงปลาทั้งตัว เพื่อเป็นตัวแทนแห่งการอยู่ร่วมกัน และความอุดม- สมบรูณ์ และไก่สำหรับความเจริญก้าวหน้า ซึ่งไก่นั้นจะต้องยังมีหัว
หางและเท้าอยู่ เพื่อ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสมบูรณ์ เส้นหมี่ก็ไม่ควรตัดเนื่องจากหมายถึงชีวิตที่ยืนยาว
ทางตอนใต้ของจีน จานที่นิยมที่สุดและทานมากที่สุดได้แก่ ข้าวเหนียวหวานนึ่ง บ๊ะจ่างหวาน ซึ่งถือเป็นอาหารอันโอชะ ทางเหนือ หมั่นโถ และติ่มซำ
เป็นอาหารที่นิยม อาหารจำนวน มากที่ถูกตระเตรียมในเทศกาลนี้มีความหมายถึง ความอุดมสมบูรณ์และความร่ำรวยของบ้าน
ความเชื่อโชคลางในวันตรุษจีน
ทุกคนจะไม่พูดคำหยาบหรือพูดคำที่ไม่เป็นมงคล ความหมายเป็นนัย และคำว่า สี่ ซึ่งออกเสียงคล้ายความตายก็จะต้องไม่พูดออกมา
ต้องไม่มีการพูดถึงความตายหรือการใกล้ตาย และเรื่องผีสางเป็นเรื่องที่ต้องห้าม เรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นในปีเก่าๆ ก็จะไม่เอามาพูดถึง
ซึ่งการพูดควรมีแต่เรื่องอนาคต และทุกอย่างที่ดีกับปีใหม่และการเริ่มต้นใหม่ หากคุณร้องไห้ในวันปีใหม่ คุณจะมีเรื่องเสียใจไปตลอดปี
ดังนั้นแม้แต่เด็กดื้อที่ปฎิบัติตัวไม่ดีผู้ใหญ่ก็จะทน และไม่ตีสั่งสอน
การแต่งกายและความสะอาด ในวันตรุษจีนเราไม่ควรสระผมเพราะนั้นจะหมายถึงเราชะล้างความโชคดีของเราออกไป เสื้อผ้าสีแดงเป็นสีที่นิยมสวมใส่ในช่วงเทศกาลนี้
สีแดงถือเป็นสีสว่าง สีแห่งความสุข ซึ่งจะนำความสว่างและเจิดจ้ามาให้แก่ผู้สวมใส่ เชื่อกันว่าอารมณ์และการปฏิบัติตนในวันปีใหม่
จะส่งให้มีผลดีหรือผลร้ายได้ตลอดทั้งปี เด็ก ๆ และคนโสด เพื่อรวมไปถึงญาติใกล้ชิดจะได้ อังเปา ซึ่งเป็นซองสีแดงใส่ด้วย ธนบัตรใหม่เพื่อโชคดี
วันตรุษจีนกับความเชื่ออื่น ๆ สำหรับคนที่เชื่อโชคลางมากๆ ก่อนออกจากบ้านเพื่อไปเยี่ยมเยียนเพื่อนหรือญาติ อาจมีการเชิญซินแส
เพื่อหาฤกษ์ที่เหมาะสมในการออกจากบ้านและทางที่จะไปเพื่อ เป็นความเป็นสิริมงคล บุคคลแรกที่พบและคำพูดที่ได้ยินคำแรกของปีมีความหมายสำคัญมาก
ถือว่าจะส่งให้มีผลได้ตลอดทั้งปี การได้ยินนกร้องเพลงหรือเห็นนกสีแดงหรือนกนางแอ่น ถือเป็นโชคดี
การเข้าไปหาใครในห้องนอนในวันตรุษ ถือเป็นโชคร้ายดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนป่วยก็ต้องแต่งตัวออกมานั่งในห้องรับแขก
ไม่ควรใช้มีดหรือกรรไกรในวันตรุษเพราะเชื่อว่าจะเป็นการตัดโชคดี ทุกวันนี้ไม่ใช่ว่าชาวจีนทุกคนจะคงยังเชื่อตามความเชื่อที่มีมาแต่ทุกคนก็ยังคงยึดถือ
และปฎิบัติตาม เพราะสิ่งเหล่านี้เปรียบเสมือนธรรมเนียม และวัฒนธรรม โดยที่ชาวจีน ตระหนักดีว่าการปฏิบัติตามขนบธรรมเนียมมาแต่เก่าก่อนเป็นการแสดงถึงความเป็น
ครอบครัวและเอกลักษณ์ ของตน
15 วันแห่งการฉลองตรุษจีน
- วันแรกของปีใหม่ เป็นการต้อนรับเทวดาแห่งสวรรค์และโลก หลายคนงดทานเนื้อ ในวันนี้ด้วยความเชื่อที่ว่าจะเป็นการต่ออายุและนำมาซึ่งความสุขในชีวิตให้กับตน
- วันที่สอง ชาวจีนจะไหว้บรรพชนและเทวดาทั้งหลาย และจะดีเป็นพิเศษกับสุนัข เลี้ยงดูให้ข้าวอาบ น้ำให้แก่มัน ด้วยเชื่อว่า
วันที่สองนี้เป็นวันที่สุนัขเกิด
- วันที่สามและสี่ เป็นวันของบุตรเขยที่จะต้องทำความเคารพแก่พ่อตาแม่ยายของตน
- วันที่ห้า เรียกว่า พูวู ซึ่งวันนี้ทุกคนจะอยู่กับบ้านเพื่อต้อนรับการมาเยือน ของเทพเจ้าแห่งความร่ำรวย
ในวันนี้จะไม่มีใครไปเยี่ยมใครเพราะจะถือว่าเป็นการนำโชคร้าย มาแก่ทั้งสองฝ่าย
- วันที่หก ถึงสิบชาวจีนจะเดินทางไปเยี่ยมเยียนญาติพี่น้องเพื่อนฝูงของ ครอบครัว และไปวัดไปวาสวดมนต์เพื่อความร่ำรวยและความสุข
- วันที่เจ็ด ของตุรุษจีนเป็นวันที่ชาวนานำเอาผลผลิตของตนออกมาชาวนาเหล่านี้จะทำน้ำที่ทำมาจากผักเจ็ดชนิดเพื่อฉลองวันนี้ วันที่เจ็ดถือเป็นวันเกิด
ของมนุษย์ในวันนี้อาหารจะเป็น หมี่ซั่วกินเพื่อชีวิตที่ยาวนานและปลาดิบเพื่อความสำเร็จ
- วันที่แปด ชาวฟูเจียน จะมีการทานอาหารร่วมกันกับครอบครอบอีกครั้ง และเมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนทุกคนจะสวดมนต์ของพรจาก เทียนกง เทพแห่งสวรรค์
- วันที่เก้า จะสวดมนต์ไหว้และถวายอาหารแก่ เง็กเซียนฮ่องเต้
- วันที่สิบถึงวันที่สิบสอง เป็นวันของเพื่อนและญาติๆ ซึ่งควรเชื้อเชิญมาทานอาหารเย็น และหลังจากที่ทานอาหารที่อุดมไปด้วยความมัน
วันที่สิบสามถือเป็นวันที่เราควรทานข้าวธรรมดากับผักดองกิมกิ ถือเป็นการชำระล้างร่างกาย
- วันที่สิบสี่ ความเป็นวันที่เตรียมงานฉลองโคมไฟซึ่งจะมีขึ้น ในคืนของวันที่สิบห้าแห่งการฉลองตรุษจีน
อ้างถึง : jabchai.com
10 ข้อควรปฏิบัติ ในวันตรุษจีน
.......ความเชื่อกับชาวจีน เป็นสิ่งที่อยู่คู่กันมานาน ยิ่งวันตรุษจีน หลายครอบครัวมีธรรมเนียมข้อควรปฏิบัติ และข้อห้ามปฏิบัติ สืบทอดกันมารุ่นๆ
วันนี้จะมาชวนย้อนเกร็ดความรู้ในสิ่งที่เป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ
10 ข้อควรปฏิบัติในวันตรุษจีน
1. ไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษ และไหว้ผีไม่มีญาติ
หรือเรียกว่า "วันซาจั๊บ" ในตอนเช้า จะมีการไหว้เจ้า และไหว้บรรพบุรุษ ส่วนตอนเที่ยงจะไหว้ผีไม่มีญาติ ซึ่งของไหว้ ได้แก่ อาหารคาว ( เป็ด ไก่ หมู)
อาหารหวาน (ถ้วยฟู ขนมสาลี่ ขนมเทียน) และผลไม้ ( ส้ม สาลี่ กล้วย) ซึ่งปริมาณของขึ้นอยู่กับฐานะของผู้ไหว้ ซึ่งส่วนมากนิยมจัดเป็นชุดละ 3 หรือ 5 อย่าง
และต้องจุดขี้ไต้ 2 ชิ้น ซึ่งเมื่อไหว้เสร็จ ต้องจุดประทัด และนำข้าวสารมาผสมกับเกลือโปรยบริเสณบ้าน เพื่อขับไล่สิ่งที่ไม่ดีออกไป
2. รวมญาติกินเกี๊ยว
เป็นวันนัดรวมญาติ ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของครอบครัว โดยทุกคนจะทานเกี๊ยวด้วยกันในวันไหว้ ( 9 ก.พ.) ซึ่งเป็นมื้อสุดท้ายก่อนขึ้นปีใหม่ของชาวจีน และทาน
เกี๊ยว เพราะรูปร่างของเกี๊ยวมีลักษณะเหมือน "เงิน" ของจีน จึงมีความหมายว่า ขอให้มีเงินทองมาก
3. กินเจมื้อเช้า คือ มื้อแรกของปี
ในวันตรุษจีน คนจีนถือธรรมเนียมกินเจเป็นอาหารมื้อแรกของปี เพราะเชื่อว่าจะได้บุญเหมือนกับกินเจตลอดทั้งปี
4. ทำพิธีรับ "ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ"
"ไฉ่ สิ่ง เอี้ยะ" คือ เทพเจ้าแห่งโชคลาภและเป็นเทพพิทักษ์ทรัพย์ ซึ่งชาวจีนนิยม จึงมักจะทำพิธี รับเทพซึ่งเปรียบได้กับรับโชคลาภใน
ในช่วงหลังเที่ยงคืนของวันซาจั๊บ (วันไหว้)
5. ห้ามกวาดบ้าน
ในวันตรุษจีน หรือวันขึ้นปีใหม่ของจีน ชาวจีนจะไม่กวาดบ้าน เพราะเชื่อว่า กวาดบ้านในวันปีใหม่ เป็นการกวาดเอาสิ่งที่เป็นมงคลทิ้งไป
แต่จะทำความสะอาดบ้านก่อนวันปีใหม่ของจีน
6. ติดตุ๊ยเลี้ยง หรือ คำอวยพรปีใหม่
คนจีนจะติดกระดาษสีแดง ซึ่งเขียนคำอวยพรปีใหม่ด้วยตัวอักษรสีทอง เป็นภาษาจีน 7 ตัวอักษร โดยจะติดที่ 2ข้างประตูบ้าน และ 1 แผ่น
สำหรับติดทางขวางตรงกลางทางเข้า-ออก แผ่นนี้จะต้องเขียนคำว่า "ชุก ยิบ เผ่ง อัง" มีความหมายว่า เข้า-ออกโดยปลอดภัย นอกจากนี้
ชาวจีนนิยมติดภาพเด็กผู้หญิง-เด็กผู้ชาย "หนี่อ่วย" ซึ่งถือเป็นภาพมงคลของจีน ที่บริเวณหน้าบ้าน
7. ใส่เสื้อผ้าใหม่สีสันสดใส
ชาวจีนนิยมใส่เสื้อผ้าใหม่ สีสันสดใส เพราะเชื่อว่าทำให้มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา และเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต โดยสีที่นิยม คือ "สีแดง
8. ส้ม 4 ผล อวยพรผู้ใหญ่
ธรรมเนียมที่ต้องปฏิบัติในวันชิวอิก หรือวันปีใหม่ของจีน (10 ก.พ.) คือ ครอบครัวจะนำส้ม 4 ผล ไปกราบขอพรผู้ใหญ่ ซึ่งผู้ใหญ่จะเตรียมเมล็ดแตงโมย้อมสีแดงไว้
1 พาน รวมถึงลูกสมอจีนรอรับแขก และเมื่อมีครอบครัวนำส้ม 4 ผล ผู้ใหญ่จะรับส้มมา 2 ผล โดยจะนำส้มในบ้าน และอีก 2 ลูก วางคืนให้กับแขก 2 ผล
9. รับอั่งเปา
วันตรุษจีน หลาน จะได้รับซองแดง (ใส่เงินขวัญถุง) จากผู้ใหญ่ เพื่อให้โชคดีตลอดทั้งปี โดยก่อนจะรับซองแดง และต้องกล่าว "ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้"
เพื่ออวยพรผู้ใหญ่ ด้วย
10. ไหว้เจ้าเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
ในวันตรุษจีน ต้องมีการไหว้ไหว้บรรพบุรุษ เพื่อแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้ที่ล่วงลับไปแล้วด้วย
และที่สำคัญก็ยังต้องไหว้เจ้าเพื่อขอให้เทพเจ้าช่วยอวยพรให้ชีวิตมีแต่ความสุข ความเจริญ
จาก...พี่สมศรีค่ะ
หนูอยากเหาะได้อย่างนี้บ้างค่ะ..อิอิ
webmaster - 18/4/08 at 16:35
เกมที่ไม่เป็นอันตรายสำหรับเด็ก
เกมแนะนำ
http://www.khum.net/game/kid
http://www.kroobannok.com/game/index.php
ขอเชิญน้องๆ ส่ง E-Card อวยพร "วันปีใหม่" ของชาวจีนค่ะ
E-card วันตรุษจีน จาก kapook.com
E-card วันตรุษจีน จาก deedeejang.com
E-card วันตรุษจีน จาก sanook.com
นู๋น่ารักมั๊ยค่ะ จะเป็นเด็กดีของพ่อแม่ค่ะ
webmaster - 20/4/08 at 10:32
เหาะกันต่อไปแระค๊ะ จนกว่าจะถึงยุคอภิญญาใหญ่มั้งค่ะ
webmaster - 21/4/08 at 04:35
มีเหาะกันทุกวันค่ะ แต่จริงๆ ยังทำไม่ได้นะคะ เป็นภาพ "จินตนาการ" คือวาดภาพกันเองแหละคะ
webmaster - 21/4/08 at 04:50
คราวนี้ไม่เหาะแล้วนะคะ มาแบบน่ารัก..เพียบเลยค่ะ
webmaster - 21/4/08 at 05:37
webmaster - 17/2/15 at 11:43
.