นิทานชาดก (เรื่องที่ 41) กุกกุฎชาดก - ชาดกว่าด้วย "ผลของการไม่เชื่อง่าย"
webmaster - 14/5/11 at 08:30
...นิทานชาดกนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ "พระพุทธเจ้า" ขณะที่ยังเป็นพระโพธิสัตว์ พระองค์ได้บำเพ็ญพระบารมีมาในแต่ละชาติ จะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น
แล้วได้ตรัสเล่าบุพกรรมเหล่านี้ ซึ่งมีมาในพระไตรปิฎกมากมายหลายเรื่อง
ในตอนนี้ จะขอนำการ์ตูนเรื่องที่ 41 มีชื่อว่า "กุกกุฎชาดก" (อ่าน..กุกกุฎชาดก) เป็นเรื่องของ "นางแมวเจ้าเล่ห์"
โดยพระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็น "พระยาไก่" จึงขออนุโมทนาไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
.....This story is a fable about "Buddha" While still a Bodhisat. He has to perform the prestige of each nation. Is a true story that occurred.
Then spoke told these deeds. Which in many Tripitaka on. At this will be cartoon chapters No.41 called "Koogkut Jataka" The come into the
Buddha "Chicken Paya"
กุกกุฎชาดก : ชาดกว่าด้วย "ผลของการไม่เชื่อง่าย"
มูลเหตุที่ตรัสชาดก
...พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน ทรงปรารภภิกษุ ผู้กระสันจะสึกรูปหนึ่ง ตรัสเรื่องนี้ดังนี้
ความย่อว่า..พระศาสดาตรัสถามภิกษุนั้นว่า เหตุไฉน เธอจึงกระสันอยากสึก ?
เมื่อเธอทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์ เห็นหญิงคนหนึ่ง ผู้ประดับประดาตกแต่งตัวแล้ว จึงกระสันอยากสึก
ด้วยอำนาจกิเลสดังนี้ พระศาสดาตรัสว่า ธรรมดาผู้หญิงลวงให้ชายลุ่มหลง แล้วให้ถึงความพินาศ ในเวลาชายตกอยู่ในอำนาจของตนเป็นเหมือนแมวตัวเหลวไหล
แล้วได้ทรงนิ่งอยู่
ครั้นเมื่อถูกภิกษุนั้นทูลอ้อนวอน จึงทรงนำเอาเรื่องในอดีตมาสาธก ดังต่อไปนี้...
เนื้อความของชาดก
....ในอดีตกาล เมื่อพระเจ้าพรหมทัต ครองราชสมบัติอยู่ในนครพาราณสี พระโพธิสัตว์เกิดเป็นไก่ในป่า
มีไก่หลายร้อยตัวเป็นบริวารอยู่ในป่า
ฝ่ายนางแมวตัวหนึ่ง ก็อาศัยอยู่ในที่ไม่ไกลพระโพธิสัตว์นั้น มันใช้อุบายลวงกินไก่ที่เหลือ เว้นแต่ไก่โพธิสัตว์ พระโพธิสัตว์ไม่ไปสู่ป่าชัฏของมัน
........มันจึงคิดว่า ไก่ตัวนี้อวดดีเหลือเกิน ไม่รู้ว่าเราเป็นผู้โอ้อวด และเป็นผู้ฉลาดในอุบาย เราควรจะเล้าโลมไก่ตัวนี้ว่า จักเป็นภรรยาของมัน
แล้วกินในเวลามันตกอยู่ในอำนาจของตน
มันจึงไปยังต้นไม้ที่ไก่นั้นเกาะอยู่ เมื่อขอร้องไก่นั้นด้วยวาจาที่มีคำสรรเสริญนำหน้า จึงได้กล่าวคาถาที่ ๑ ว่า:
[๘๘๖] ข้าแต่ท่านผู้มีขนปีกอันวิจิตรตระการตา มีหงอนงามสง่า อาจจะไปในอากาศได้โดยฉับพลัน เชิญท่านลงมากจากกิ่งไม้เสียเถิด
ฉันจะยอมเป็นภรรยาของท่านโดยไม่รับมูลค่าอันใดเลย.
พระโพธิสัตว์ได้ฟังคำนั้นแล้ว คิดว่า แมวตัวนี้กัดกินญาติของ เราหมดไปแล้ว บัดนี้มันประสงค์จะล่อลวงกินเรา เราจักขับไล่มันไป จึงกล่าวคาถาที่ ๒ ว่า:
[๘๘๗] ดูกรนางแมวรูปงามน่ารื่นรมย์ใจ เจ้ามีสี่เท้า เรามีสองเท้า เจ้าเป็นแมวเราเป็นไก่ ไม่สมควรกันเลย เชิญเจ้าไปแสวงหาสามีอื่นเถิด.
นางแมวนั้น ได้ฟังคำนั้นแล้ว ลำดับนั้น จึงคิดว่า ไก่ตัวนี้โอ้อวดเหลือเกิน เราจักใช้อุบายอย่างใดอย่างหนึ่งลวงกินมันให้ได้ แล้ว ได้กล่าวคาถาที่ ๓ ว่า:
[๘๘๘] ฉันจะเป็นนางกุมาริกาของท่าน มีวาจาอ่อนหวาน พูดน่ารัก ของท่าน จงรับฉันผู้มีความงาม ประพฤติธรรมอันประเสริฐ ไว้ด้วยการได้อันดีงามเถิด.
พระโพธิสัตว์ได้ยินคำนั้นแล้ว ถัดนั้นไปก็คิดว่า ควรที่เราจะขู่ แมวตัวนี้ให้หนีไปเสีย แล้วจึงกล่าวคาถาที่ ๔ ว่า:
[๘๘๙] แน่ะนางขโมย เลอะเทอะไปด้วยเลือดเหมือนซากศพ ชอบกัดกินไข่ เจ้าไม่ได้ปรารถนาเราเป็นสามีโดยการได้อย่างดีดอก.
ส่วนแมวนั้นจึงหนีไป ไม่อาจแม้เพื่อจะมองดูอีก เพราะฉะนั้น พระศาสดาจึงได้ตรัสพระคาถาเหล่านี้ว่า:
[๘๙๐] หญิงทั้งหลายประกอบด้วยวาจามีองค์ ๔ เห็นชายดีเข้าแล้ว ย่อมชักนำไปด้วยวาจาอ่อนหวาน เหมือนนางแมวชักชวนพระยาไก่ ฉะนั้น.
[๘๙๑] ก็ผู้ใด ไม่รู้ประโยชน์อันเกิดขึ้นโดยฉับพลัน ผู้นั้น ย่อมตกไปสู่อำนาจศัตรู และจะต้องเดือดร้อนในภายหลัง.
[๘๙๒] ส่วนผู้ใด รู้ประโยชน์ที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน ผู้นั้น ย่อมพ้นจากความเบียดเบียนของศัตรู เหมือนพระยาไก่หลุดพ้นจากนางแมว ฉะนั้น.
ประชุมชาดก
พระศาสดาครั้นทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประกาศสัจธรรม ในที่สุดแห่งสัจจะ ภิกษุผู้กระสันจะสึก ตั้งอยู่แล้วในโสดาปัตติผล แล้วทรงประมวลชาดกไว้ว่า
ก็พระยาไก่ในครั้งนั้น ได้แก่เราตถาคต ฉะนี้ แล.
ข้อคิดจากชาดก
...อย่าเชื่อคนง่าย เพราะที่เขากล่าววาจาอ่อนหวานกับตน จงหนักแน่น ไม่หลงวนอยู่ในกามคุณ แล้วจะไม่ตกเป็นทาสของกิเลสตัณหา ที่จะพาตนให้เดือดร้อนในภายหลัง