ตามรอยพระพุทธบาท

สัมผัสวิญญาณเด็กชายนิด
praew - 15/7/08 at 12:48

คุณเจริญ แสนเยีย ซึ่งเป็นท่านผู้พิพากษาและเป็นสมาชิกชมรมกฎแห่งกรรม ได้เคยมีประสบการณ์พบวิญญาณของเด็กชายคนหนึ่ง ได้สัมผัสถูกต้องตัวเด็กและพูดคุยด้วยโดยไม่ทราบว่าตายไปแล้ว

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อครั้งคุณเจริญ แสนเยีย ยังเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้ไปเยี่ยมพี่สาวที่จังหวัดยโสธร (เดิมเป็นอำเภอยโสธร) เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๔๘๗ พร้อมกับเพื่อนคนหนึ่งที่กลับไปเยี่ยมบ้าน คุณเจริญไม่เคยไปที่ยโสธรมาก่อน จึงไม่รู้จักใครนอกจากพี่สาวที่มีครอบครัวแล้วย้ายมาอยู่ยโสธร ซึ่งคุณเจริญไปพักอยู่ด้วย

เมื่อไปถึงยโสธรเป็นเวลาบ่าย ๕ โมงเย็น พอเวลาย่ำค่ำราว ๑ ทุ่มเศษ ก่อนถึงเวลานัดหมายที่เพื่อนจะมารับไปเที่ยว คุณเจริญก็ถือโอกาสเดินเล่นตามลำพัง ชมตัวเมืองก่อนเวลานัด ขณะที่เดินไปตามถนนสายหน้าสถานีตำรวจยโสธร ก็พบเด็กชายคนหนึ่งอายุประมาณ ๑๒ – ๑๓ ปี เดินสวนทางมา

เด็กร้องทักคุณเจริญเป็นภาษาภาคอีสานว่า “พี่เจริญจะไปไหน” ทำให้คุณเจริญแปลกใจมาก สงสัยว่าทำไมเด็กคนนี้จึงรู้จักชื่อทั้งที่ยังไม่เคยมายโสธร เด็กชวนคุณเจริญให้ไปเยี่ยมบ้าน บอกว่าพ่อเป็นครูชื่อเลี่ยม ส่วนแม่ชื่อศรี และบอกว่าบ้านอยู่ที่สี่แยก ไม่ไกลจากที่พบเด็ก พร้อมทั้งบอกลักษณะบ้านโดยละเอียด

ขณะที่คุยกัน คุณเจริญก็ช่วยกลัดกระดุมเสื้อให้เด็กใหม่ เพราะเด็กติดกระดุมเสื้อเยื้องไม่ตรงกัน พร้อมกับดึงกางเกงขาสั้นให้ได้ระดับเท่ากันทั้งสองข้าง คุณเจริญบอกเด็กว่าจะแวะไปเยี่ยมวันหลัง แล้วก็กลับไปบ้านรอพบเพื่อนที่นัดไว้ พากันไปเที่ยวต่อไป

คืนวันรุ่งขึ้นราวทุ่มเศษ เพื่อนก็มารับคุณเจริญไปเที่ยวด้วยกันอีก เมื่อเดินไปถึงสี่แยกก็นึกถึงเด็กที่พบเมื่อคืนก่อนชวนให้ไปเที่ยวบ้าน ก็อยากไปพบเด็กอีก จึงชวนเพื่อนไปด้วยกัน เมื่อไปถึงบ้านตามที่เด็กบอกไว้ ก็ถามหาเด็ก

ปรากฏว่าแม่ศรีซึ่งเป็นแม่ของเด็กร้องไห้โฮ บอกว่าเด็กชายที่ชื่อ "นิด" ตามที่คุณเจริญถามหานั้นได้ตายไปประมาณ ๒ เดือนแล้ว และครูเลี่ยมพ่อของเด็กชายนิดเล่าให้ฟังว่า ก่อนหน้าที่คุณเจริญจะมาเยี่ยมบ้านราว ๗ วัน ตอนเย็นขณะที่แม่ศรีกำลังผลัดผ้านุ่งอยู่ ปรากฏว่ามีสัตว์ประหลาดรูปร่างคล้ายค้างคาวตัวใหญ่ บินมาเกาะที่ผ้านุ่ง แม่ศรีตกใจสลัดผ้านุ่งไปเต็มแรง สัตว์ประหลาดตัวนั้นก็กระเด็นหายไปหาไม่พบ ตกกลางคืนฝันว่า นิด ลูกชายที่ตายไปแล้วมาหาร้องไห้ บอกว่าไม่มีเสื้อผ้าใส่ ขอให้แม่จัดหาให้แล้วให้ไปถวายพระชื่อ บัว ที่วัดสิงห์ท่า

รุ่งเช้าแม่ศรีก็ไปพบเจ้าอาวาสถามหาพระบัว พอดีขณะนั้นมีพระชื่อบัวมาขอพักชั่วคราวพอดี แม่ศรีจึงนำอาหารคาวหวานพร้อมเสื้อผ้าที่จัดเตรียมไว้ และกระดูกของเด็กชายนิดไปถวายพระบัวในวันรุ่งขึ้น

ดังนั้น การที่วิญญาณของเด็กชายนิด มาติดต่อกับคุณเจริญก็เพื่อให้ช่วยส่งข่าวให้พ่อแม่ทราบว่าได้รับเสื้อ กางเกงที่ทำบุญอุทิศไปให้แล้ว การที่ติดต่อให้คุณเจริญพบเห็นก็เพราะว่าคุณเจริญเป็นคนต่างถิ่น ไม่เคยมายโสธร ย่อมไม่รู้ว่าเด็กชายนิดตายไป ๒ เดือนแล้ว

จึงอาจจะอนุมานได้ว่า การทำบุญอุทิศสิ่งของให้แก่ผู้ที่ตายไปแล้ว เช่น เสื้อผ้า อาหาร ของใช้ต่างๆ ควรนำไปถวายพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบเคร่งครัดในพระวินัย มีศีลครบไม่ด่างพร้อย เมื่อท่านได้รับแล้ว ท่านก็จะนำเสื้อผ้าสิ่งของต่างๆที่ถวายท่านแจกแก่ผู้ที่ยากจน แล้วสวดมนต์แผ่กุศลให้แก่วิญญาณของผู้ตาย กุศลนั้นก็จะส่งถึงผู้ตายดังตัวอย่างเรื่องนี้เป็นแน่

(จากหนังสือชุดกฎแห่งกรรม เรื่องที่ ๑๑๕ “เรื่องความมหัศจรรย์ของวิญญาณ” โดยคุณ ท. เลียงพิบูลย์)