นายลำเจียก ชมชื่น กาญจนบุรี, นางงาม ธารบุญ กาฬสินธุ์ ตายแล้วฟื้น
webmaster - 28/7/09 at 15:13
ตะลึง..! ชายวัย 50 ตายแล้วฟื้น หมดลม 3 ชั่วโมง
นายลำเจียก ชมชื่น...ตายแล้วฟื้น
แปลกแต่จริงหนุ่มใหญ่วัย 50 ป่วยเป็นมะเร็งในลำคอเสียชีวิตที่บ้านพี่สาวตอนเช้า ญาติๆ ชาวบ้านช่วยเตรียมงานศพ ผ่านไป 3 ชั่วโมง กลับฟื้นขึ้นมาได้
แต่พี่สาวเชื่อคงจะอยู่ได้อีกไม่นาน..
วันนี้ (20 ก.ค.52) ผู้สื่อข่าวได้รับทราบข่าวว่ามีคนป่วยตายและฟื้นคืนชีวิตกลับมาได้ ทั้งๆ ที่ทางญาติกำลังจัดเตรียมงานศพ
จึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริงที่บ้านเลขที่ 21 หมู่ 2 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี พบ นายทนนชัย มุมศิลป์ อายุ 59 ปี และ นางนมเนย มุมศิลป์ อายุ 57
ปี สองสามีภรรยา กำลังนั่งอยู่ที่ใต้ถุนบ้าน ซึ่งปลูกเป็นบ้านไม้ยกสูง
โดยนางนมเนย ได้พาผู้สื่อข่าวไปยังใต้ถุนบ้าน ซึ่งมีร่างของ นายลำเจียก ชมชื่น อายุ 50 ปี น้องชาย นอนอยู่บนแคร่ มีมุ้งกางกันยุงไว้ให้
โดยนายลำเจียก อยู่ในสภาพอิดโรยมาก หนังแห้งติดกระดูก ตาโปนโบ๋ลึก และยังมีกลิ่นเน่าคล้ายศพโชยออกมาด้วย
นางนมเนย ได้เข้าไปในมุ้งพร้อมนั่งใกล้น้องชาย และจับแขนน้องชายเอาไว้แน่น ก่อนเล่าให้ฟังว่า นายลำเจียก น้องชายได้ทำงานในกรุงเทพฯ
เมื่อหลายเดือนก่อนน้องชายป่วยเป็นโรคมะเร็งในลำคอ ทรุดหนักต้องเข้าๆ ออกๆ โรงพยาบาลหลายครั้ง และมาอยู่พักรักษาตัวที่บ้านตน โดยอาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ
เดินไม่ได้ ช่วยตัวเองไม่ได้ กินอาหารได้บ้าง แต่ระยะ 2-3 วันที่ผ่านมา กินได้แต่น้ำและบางครั้งไม่กินน้ำเลย
นางนมเนย กล่าวต่อว่า จนกระทั่งเมื่อตอน 08.00 น. วันนี้ ตนได้เข้าไปดูแลน้องชายตามปกติ พบว่า นายลำเจียก เสียชีวิตแล้ว ตนพยายามเขย่าเรียกก็ไม่ตื่น
จึงเรียกนายทนนชัย สามี มาดูและจับชีพจรพบว่าเสียชีวิตจริง จึงแจ้งญาติๆ และชาวบ้านใกล้เคียงทราบ ต่างพากันมาช่วยเก็บบ้านเพื่อเตรียมจัดงานศพน้องชาย
โดยขอโลงศพจากมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ที่ อ.ท่าม่วง เอาไว้ พร้อมขอให้เจ้าหน้าที่ได้นำโลงและยาฉีดศพมาให้ พอเวลาประมาณ 10.00 น.
ทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ ได้มาถึง กลับมีเรื่องประหลาดราวปาฎิหาริย์ เมื่อน้องชายตนฟื้นขึ้นมา ตนและชาวบ้านพร้อมญาติ ๆ ที่เตรียมงานต้องตกใจ
สอบถามทราบว่าทำไมกลับมามีชีวิตได้ น้องชายตอบว่าไปป่ามาไปรบมา เพราะน้องชายตนเป็นอดีตทหารที่เคยรบที่เขาค้อถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่ขาซ้าย
ปัจจุบันนี้ยังฝังอยู่ผ่าออกไม่ได้
"เมื่อถามว่ายังไม่ไปดีอีกหรือน้องชายก็ตอบว่า จะรอ นายเข็ม (ชมชื่น อายุ 59 ปี พี่ชายที่อยู่ อ.ท่ามะกา) ก่อน แต่ก็เชื่อว่าน้องชายจะอยู่ได้อีกไม่นาน
เพราะวันนี้ไม่กินน้ำแล้ว และตัวก็เริ่มมีกลิ่นเหม็นเหมือนศพแต่แปลกใจว่าเขาฟื้นขึ้นมาอีกได้อย่างไร" นางนมเนยกล่าว
ด้านนายวัฒนชัย ตั้งการุณจิต อายุ 25 ปี อาสาสมัครมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ซึ่งนำโลงศพมาให้ กล่าวว่า ได้รับการประสานจากมูลนิธิขุนรัตนาวุธ
ให้นำรถไปเอาโลงศพที่ทำการมูลนิธิขุนรัตนาวุธ ที่ อ.ท่าม่วง เพื่อนำโลงมามอบให้ และนำอุปกรณ์การฉีดยามาเตรียมฉีดยาศพด้วย
หลังจากมาตรวจสอบแล้วพบว่ามีคนเสียชีวิตจริง จึงประสานทางมูลนิธิและนำโลงมาให้ ปรากฏว่าเมื่อกลับมาถึงบ้านงานอีกครั้ง
ทางญาติคนตายบอกว่าคนตายฟื้นขึ้นมาแล้ว ตนยังคิดว่าพูดเล่น จึงเข้าไปดูให้เห็นกับตาก็ต้องตะลึงเมื่อพบว่าคนตายฟื้นขึ้นมาจริงๆ
ตนยังไม่เคยพบเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ถือว่าเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดจริงๆ
โดย : ไทยรัฐออนไลน์
20 กรกฎาคม 2552, 21:00 น.
ข่าวที่อ่านผ่านไปแล้วนั้น เป็นเนื้อข่าวจากส่วนกลาง "นสพ.ไทยรัฐ" ส่วนข่าวภูมิภาคที่เป็นเจ้าถิ่นได้รายงานข่าวนี้ พร้อมกับบันทึก "คลิปวีดีโอ"
ไว้ให้ชมอีกเช่นกัน..
วีรบุรุษเขาค้อ..ตายแล้วฟื้น
ญาติคนตายแล้วฟื้นไม่ยอมฉีดยาศพ หวังฟื้นมาใหม่ เหมือนพ่อที่ตายแล้วฟื้นมีชีวิตอยู่ได้อีก 2 ปี
ความคืบหน้ากรณี นายลำเจียก ชมชื่น อายุ 54 ปี อยู่ที่บ้านเลขที่ 21 ม.2 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
ซึ่งป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ลำคอระยะสุดท้าย และได้เสียชีวิตลง เมื่อเวลา 08.00 น ของวันที่ 20 ก.ค. ต่อมาเวลา 11.00 น. ชาวบ้านรวมทั้งญาติของนายลำเจียก
รวมทั้งเจ้าหน้าที่ขุนรัตนาวุธ ซึ่งกำลังนำศพของนายลำเจียกลงโลง
แต่ทุกคนต้องตกตะลึง เพราะอยู่ๆ ปรากฏว่า ศพของนายลำเจียกกับนิ้วกระดิก และลืมตาขึ้นและฟื้นชีวิตกลับคืนมา
สร้างความแตกตื่นแก่ทุกคนที่อยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ต่อมาเวลา 22.30 น.นายลำเจียก ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบอีกครั้ง
และได้เล่าเหตุการณ์ในช่วงที่เสียชีวิตว่าไปไหนมา
ดังนั้นวันนี้ 21 ก.ค.2552 เวลา 16.30 น.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ บ้านเลขที่ 21 หมู่ 2 ต.ตะคร้ำเอน อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี
ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพของนายลำเจียก ชื่นชม อายุ 54 ปี โดยที่บ้านหลังดังกล่าว พบกับ นายวงศ์ ชื่นชม, นายเข็ม ชื่นชม, นางนมเนย ชื่นชม, และนางกิมเลี้ยง
ชื่นชม ซึ่งทั้ง 4 คน เป็นพี่น้องกับนายลำเจียก ที่ตายแล้วฟื้น ซึ่งทั้ง 4 คนกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่บริเวณใต้ถุนบ้าน ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานศพ
โดย นางนมเนย ชื่นชม อายุ 57 ปี พี่สาวของนาย ลำเจียก คนตายแล้วฟื้น ได้เล่าให้ฟังว่า นายลำเจียก ซึ่งเป็นน้องชาย ได้เสียชีวิตที่บ้าน เวลาประมาณ
08.00 น.ของวันที่ 20 ก.ค. ด้วยโรคมะเร็งที่ลำคอขั้นสุดท้าย แต่ต่อมา เวลา 11.00 น.ขณะที่ญาติๆ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิขุนรัตนาวุธ
กำลังนำศพของน้องชายใส่ในโลง เพื่อทำพิธีทางศาสนา แต่จู่ๆน้องชายของตนกลับฟื้นชีวิตขึ้นมา สร้างความตกใจให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก
และน้องชายของยังสามารถพูดคุยกับญาติได้ตามปกติ
นางนมเนย เล่าต่อว่า หลังจากที่น้องชายของตนฟื้นขึ้นมา บรรดาญาติจึงได้สอบถามว่า ทำไมถึงฟื้นทั้งที่ทางแพทย์ได้ออกใบมรณะ
ซึ่งนายลำเจียกได้บอกกับญาติว่า กลับไปที่เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อไปรับใช้ชาติ และไปดูบังเกอร์หลุมหลบภัย สมัยที่ยังเป็นทหารเกณฑ์
และได้ถูกคัดเลือกให้ไปปราบปราบคอมมิวนิสต์ ในสมัยนั้น
นางนมเนย เล่าต่อไปว่า น้องชายของตนเคยเป็นทหารเกณฑ์ และได้ไปปราบปราบคอมมิวนิสต์ที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ และได้รับบาดเจ็บจากสะเก็ดระเบิด
ซึ่งปัจจุบันตามร่างกายของน้องชายยังมีสะเก็ดระเบิดอยู่เลย
และเมื่อคืนที่ผ่านมาเวลาประมาณ 04.00 น.น้องสาวที่ของตนชื่อ กิมเลี้ยง ชมชื่น อายุ 50 ปี มีอาชีพขายน้ำมันในตัวเมืองกาญจนบุรี ได้โทรศัพท์มาบอกว่า
นายลำเจียก น้องชายได้ไปหาที่บ้าน ได้แต่ยืนร้องให้อยู่หน้าบ้าน แต่ไม่กล้าเข้าไปภายในบริเวณบ้าน
โดยน้องชายบอกว่าไม่สามารถเข้าบ้านได้เนื่องจากมีคนคุมบ้านอยู่เป็นจำนวนมาก ดังนั้น นางกิมเลี้ยงน้องสาวจึงได้บอกให้น้องชายกลับบ้าน
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว นางกิมเลี้ยง น้องสาว ไม่รู้เรื่องเลยว่า นายลำเจียก น้องชายได้เสียชีวิตไปแล้ว
และวันนี้นางกิมเลี้ยงจะเดินทางมาที่งานศพของนายลำเจียกเพื่อมาร่วมงานศพของน้องชาย
นางนมเนย เล่าท้ายสุดว่า เมื่อหลายปีก่อน สมัยที่พ่อยังมีชีวิตอยู่ ได้ป่วยและเสียชีวิตลง ซึ่งทางญาติไม่ได้ฉีดยาศพ
แต่ต่อมาพ่อได้ฟื้นขึ้นมาเหมือนกับนายลำเจียก แต่การฟื้นคืนชีพของพ่อ สามารถมีชีวิตอยู่ได้ถึง 2 ปี ก่อนที่จะเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ดังนั้นศพของนายลำเจียกน้องชายทางญาติก็จะไม่ฉีดยาศพเช่นกัน เผื่อน้องชายอาจจะฟื้นขึ้นมาอีกครั้งเหมือนพ่อ
โดยตนจะทำการสวดพระอภิธรรมศพของน้องชายตั้งแต่วันที่ 21 23 ก.ค.52 และถ้าน้องชายไม่ฟื้นก็จะทำการเผาศพทันทีนางนมเนยกล่าว
ภาณุ สุพรรณ / ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี
ฮือฮา! สาวใหญ่เมืองน้ำดำป่วยตายแล้วฟื้น
เมื่อวันที่ 3 ก.ค. 52 ผู้สื่อข่าว จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเรื่องราวสุดเหลือเชื่อ สาวใหญ่วัย 40 ปี ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์
ป่วยด้วยโรคประจำตัวจนมีอาการทรุดหนัก ญาตินำส่งโรงพยาบาลประจำจังหวัด และสิ้นใจในเวลาต่อมา ญาติทางบ้านเตรียมจัดงานฌาปนกิจตามประเพณี
แต่กลับฟื้นคืนชีพขึ้นมาหลังสิ้นลมหายใจไปนานกว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนเชิญหมอรำทรงประกอบพิธีบวงสรวงผีบรรพบุรุษและสืบชะตาตามความเชื่อ
หลังทราบเรื่องจึงเดินทางไปยังบ้านเลขที่ 6 ม.5 บ้านเหล่า ต.บัวบาน อ.ยางตลาด ซึ่งเป็นบ้านของนางงาม ธารบุญ อายุ 40 ปี
พบบรรดาญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านกำลังทำพิธีผูกข้อต่อแขนเรียกขวัญและแก้บนให้กลับนางงาม โดยเชิญหมอธรรมหรือร่างทรงมาประกอบพิธี
โดยทุกคนเชื่อว่าสาเหตุที่นางงามฟื้นขึ้นมา ก็เพราะว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยคุ้มครอง
นายทรงธรรม ธารบุญ อายุ 43 ปี สามีนางงาม เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้นางงามป่วยเป็นโรคเบาหวานมาเกือบ 10 ปี
ต้องไปตรวจสุขภาพและรับยาจากโรงพยาบาลมากินเป็นประจำ ก่อนที่จะอาการทรุดหนักและนำส่งโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ โดยหมอบอกให้ทำใจ และเสียชีวิตไปประมาณ 30 นาที
ตนและญาติพี่น้องทุกคนทั้งตกใจและเสียใจจนทำอะไรไม่ถูก
แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้น ก่อนที่จะนำร่างของนางงามกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่บ้าน นางงามก็ได้ฟื้นขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ
ทำให้ตนรวมทั้งญาติประหลาดใจและดีใจมาก การตายแล้วฟื้นของนางงามผู้เป็นภรรยา จึงเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อและสร้างความฮือฮาให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก
หลังจากนั้นจึงได้เชิญหมอรำทรงมาทำพิธี มีการรำบวงสรวงผีสางเทวดา เจ้าที่เจ้าทาง วิญญาณบรรพบุรุษ เจ้ากรรมนายเวร เพื่อสืบชะตา และมีการผูกข้อต่อแขน
บำรุงขวัญกำลังใจ และเพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับนางงามด้วย
ด้าน นพ.สมปอง เจริญวัฒน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์กล่าวว่า ลักษณะอาการที่เกิดขึ้นกับคนไข้รายดังกล่าว
เรียกว่าเป็นอาการช็อกหรือหมดสติไปชั่วขณะ ซึ่งหากได้รับการปฐมพยาบาลที่ถูกต้องและทันท่วงที ก็จะทำให้คนไข้กลับมามีสติอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม
สำหรับประชาชนที่มีอาการเป็นโรคเบาหวาน ควรที่รักษาสุขภาพให้ดี ปฏิบัติตนและหมั่นตรวจสุขภาพตามที่หมอแนะนำ
แล้วจะสามารถดำเนินชีวิตยู่ได้ตามปกติเหมือนบุคคลทั่วไป
โดย : ไทยรัฐออนไลน์