ตามรอยพระพุทธบาท

ผู้เชี่ยวชาญ 'อนามัยโลก' เห็นพ้องใช้มือถือเพิ่มโอกาส..มะเร็งสมอง
webmaster - 3/6/11 at 13:01

เอเอฟพี - คณะผู้เชี่ยวชาญจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้มีความเป็นไปได้ที่ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือเสี่ยงโรคมะเร็งสมองเพิ่ม แม้จะยังต้องทำการศึกษาวิจัยเพิ่มเติมต่อไปอีก พร้อมกันนั้นก็แนะนำให้ใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีและวิธีรับ-ส่งข้อความสั้นกัน เพื่อลดความเสี่ยง



รายงานล่าสุดจากผู้เชี่ยวชาญนานาชาติระบุโทรศัพท์มือถืออาจเพิ่มความเสี่ยงมะเร็งสมอง


.......สำนักงานเพื่อการวิจัยมะเร็งระหว่างประเทศ (ไอเออาร์ซี) ของ WHO แถลงหลังเสร็จสิ้นการประชุม 8 วันที่เมืองลียอง, ฝรั่งเศส เมื่อวันอังคาร (31 พ.ค.) ว่า ได้กำหนดให้สนามแม่เหล็กไฟฟ้าของความถี่วิทยุที่แพร่ออกมาจากโทรศัพท์มือถือ อยู่ในประเภท ‘มีความเป็นไปได้ว่าเป็นสารก่อมะเร็งสำหรับมนุษย์’

โจนาธาน ซาเม็ต ประธานคณะทำงานชุดนี้ระบุว่า บรรดาผู้เชี่ยวชาญมีมติจัดให้โทรศัพท์มือถืออยู่ในประเภทดังกล่าว หลังจากทบทวนหลักฐานจากการศึกษาด้านระบาดวิทยา ซึ่งบ่งชี้ว่าพบผู้ป่วยโรคเนื้องอกในสมองชนิดกลีโอมา (Glioma) มากขึ้น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษา 2 ฉบับ ซึ่งครอบคลุมกลุ่มตัวอย่างมากที่สุดในรอบทศวรรษที่ผ่านมานั้น แสดงให้เห็นว่ามีความเสี่ยงมากขึ้นสำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์มือถือบ่อยที่สุด

กลุ่มตัวอย่างบางคนใช้โทรศัพท์มือถือเฉลี่ยวันละ 30 นาทีในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา

“เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราใช้โทรศัพท์มือถือในระยะเวลานานกว่านั้นหรือตลอดชีวิต”

ปัจจุบัน มีผู้จดทะเบียนใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลกราว 5,000 ล้านราย โดยที่ทั้งจำนวนโทรศัพท์และเวลาที่ใช้โดยเฉลี่ยก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ด้านสมาคมอุปกรณ์ไร้สายตอบโต้รายงานดังกล่าว โดยระบุว่าหน่วยงานของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ทำการตรวจสอบมาหลายครั้ง และพบว่าโทรศัพท์มือถือมีความเสี่ยงในเรื่องนี้พอๆ กับผักดองและกาแฟเท่านั้น และว่าการจัดประเภทครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าโทรศัพท์มือถือเป็นสาเหตุของมะเร็ง พร้อมตั้งข้อสังเกตว่า ผลการวิจัยอาจมาจากหลักฐานที่จำกัดซึ่งได้มาจากการศึกษาเชิงสถิติที่อาจมีอคติและข้อบกพร่อง

ด้านไอเออาร์ซีออกตัวว่า หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ปัจจุบันแสดงความเชื่อมโยงที่เป็นไปได้ระหว่างอุปกรณ์มือถือกับมะเร็ง แต่ยังไม่ใช่ข้อพิสูจน์อันชัดเจน

“มีหลักฐานบางอย่างที่บ่งชี้ความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของกลีโอมาและเนื้อร้ายที่ไม่เป็นอันตรายอื่นๆ ที่เรียกว่าอะคูสติก นูโรมา

“แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า การใช้โทรศัพท์มือถือทำให้เกิดมะเร็งในมนุษย์จริง” เคิร์ต สเตรฟ นักวิจัยที่ทำหน้าที่แก้ไขและเรียบเรียงรายงานของไอเออาร์ซีว่าด้วยแนวโน้มสารก่อมะเร็ง อธิบาย

แม้ไอเออาร์ซีไม่ได้ออกข้อแนะนำอย่างเป็นทางการ แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่ามีวิธีการต่างๆ ที่ผู้ใช้สามารถลดความเสี่ยงได้ เช่น การใช้อุปกรณ์แฮนด์ฟรีและการรับ-ส่งข้อความสั้น

ปีที่แล้ว ไอเออาร์ซีเคยสรุปว่า ไม่พบความเชื่อมโยงระหว่างโทรศัพท์มือถือกับมะเร็งสมอง ทว่า รายงานฉบับดังกล่าวถูกวิจารณ์ว่าอิงกับข้อมูลล้าสมัย


(ภาพจาก websorb.net)

สำหรับรายงานฉบับล่าสุดออกมาโดยเป็นผลการประชุมที่ลียองของคณะนักวิจัย 31 คนจาก 14 ประเทศ ซึ่งต่างมีความเห็นแบบ 'ฉันทามติ'

โรเบิร์ต บาน ผู้รับผิดชอบการเขียนรายงานฉบับนี้ กล่าวว่า นี่เป็นการประเมินทางวิทยาศาสตร์ครั้งแรกสำหรับงานวิจัยทั้งหมดในหัวข้อเกี่ยวกับความเสี่ยงมะเร็งที่เพิ่มขึ้น

กระนั้น คณะนักวิจัยย้ำว่า จำเป็นต้องวิจัยเพิ่มเติมเนื่องจากความไม่สมบูรณ์ของข้อมูล วิวัฒนาการทางเทคโนโลยี และพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงของผู้บริโภค

“เทคโนโลยีมีการปรับปรุงในแง่การลดการแพร่กระจาย แต่ขณะเดียวกัน เราพบว่ามีการใช้โทรศัพท์มือถือมากขึ้น ดังนั้น จึงยากที่จะรู้ได้ว่าสองส่วนนี้จะสมดุลกันหรือไม่อย่างไร” บานตั้งข้อสังเกต

ทั้งนี้ การจำแนกประเภทเกี่ยวกับสารก่อมะเร็งของไอเออาร์ซีนั้น แบ่งออกเป็นประเภทต่างๆ ดังนี้ เป็นสารก่อมะเร็ง, เป็นไปได้มากว่าเป็นสารก่อมะเร็ง. มีความเป็นไปได้ว่าเป็นสารก่อมะเร็ง, เป็นไปได้มากว่าไม่ได้เป็นสารก่อมะเร็ง, และยังไม่สามารถจำแนกประเภทได้

ตัวอย่างเช่น บุหรี่, ตู้อบปรับสีผิวให้เข้มขึ้น, และแร่ใยหินจัดอยู่ในประเภท เป็นสารก่อมะเร็ง

สำหรับโทรศัพท์มือถือ อยู่ประเภทมีความเป็นไปได้ว่าเป็นสารก่อมะเร็ง เช่นเดียวกับตะกั่ว, สารโครโรฟอร์ม, ควันเสียจากการเผาผลาญน้ำมันเบนซิน ตลอดจนถึงกาแฟ..!!!


รายงานข่าว โดย ASTV ผู้จัดการออนไลน์ 1 มิถุนายน 2554 21:29 น.