ผีหัวขาดใน รพ. หลอกสาวอยุธยา..! (ข่าว 3 พฤษภาคม 2555)
webmaster - 9/1/12 at 08:22
ผีหัวขาดใน รพ. หลอกสาวอยุธยา
ขนหัวลุก..สาวใหญ่อ้างเจอ "ผีหัวขาด" จ้างวิน จยย.พาหนีจาก รพ.กลับบ้านกลางดึก
(ข่าวจาก มติชนออนไลน์ 3 พฤษภาคม 2555)
.......เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 2 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่มาจับจ่ายสินค้าในตลาดอำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่า
มีญาติคนไข้พาพี่สาวไปรักษาตาที่โรงพยาบาลเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่งที่อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยโรงพยาบาลแห่งนี้
มีความชำนาญในการผ่าตัดรักษาโรคต้อที่ดวงตา ซึ่งแพทย์ให้คนป่วยพร้อมญาตินอนพักฟื้นตึกใหญ่ชั้น 6 เพื่อเตรียมตัวรักษาในวันรุ่งขึ้น
แต่พอตกดึกเปิดประตูเข้าห้องน้ำต้องตกตะลึง เพราะพบผีหัวขาดสองผัวเมียยืนจังก้าในห้องน้ำ ทิ้งญาติที่รอผ่าตัดไว้บนเตียงคนไข้ โดยเร่งจ้าง จยย.หน้า
รพ.ในเขต อ.เสนา หนีกลับบ้านที่ อ.ภาชี กลางดึก ขณะนี้ญาติคนดังกล่าวหนีมาอยู่กับลูกหลานด้วยความกลัวอยู่ในซอย 8 หรือ ซอยบันเทิง หลังตลาดอำเภอภาชี ต.ภาชี
อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
ผู้สื่อข่าวจึงออกตามหาทันที ก็พบว่าปากซอยดังกล่าวอยู่ติดกับห้างโลตัส เอ็กซ์เพรส สาขาอำเภอภาชี ภายในซอยเป็นทางเดินแคบ ๆ พอสวนทางกันได้
มีเด็กจำนวนหลายคนกำลังจับกลุ่มรุมล้อมนางอำพรรณ สวรรณลังกา อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 179 ม. 5 ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
ซึ่งยังอยู่ในอาการหวาดผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตัวเองสดๆ ร้อน ๆ เมื่อกลางดึกคืนที่ผ่านมา
นางอำพรรณ สวรรณลังกา ยังอยู่ในอาการหวาดผวาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อวาน (วันที่ 1 พฤษภาคม ) ได้พานางพรรณี ศรีจันทร์ อายุ 79 ปี
พี่สาวไปลอกตาตามที่แพทย์ รพ.ศุภมิตรเสนา อ.เสนา นัดหมายไปถึงโรงพยาบาล เวลาประมาณ 12.00 น. แพทย์ได้ทำการตรวจรักษาในเบื้องต้น
เพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อจะทำการลอกตาในวันรุ่งขึ้น ( 2 พฤษภาคม ) แพทย์ได้สั่งให้นอนพักในโรงพยาบาล 1 คืน
โดยอนุญาตให้คนที่จะผ่าตัดรักษาและญาติให้นอนที่ตึกใหญ่ชั้น 6 ในห้องคนไข้พิเศษรวม ภายในห้องพักมีคนไข้ รอการลอกตานอนเป็นเพื่อนอีก 2 เตียง รวมทั้งหมด 3
เตียง และมีคนในห้องแต่ทั้งหมดเป็นผู้หญิง ไม่มีผู้ชายแม้แต่คนเดียว
นางอำพรรณ เล่าว่า ระหว่างที่เฝ้าพี่สาวได้เข้าออกห้องน้ำตามปกติ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อนข้างเตียงล้วนแต่เป็นเด็กผู้หญิงทั้งหมด กระทั่งเกือบ 2 ทุ่ม
ได้ลุกจากเตียงไปเข้าห้องน้ำ แต่ครั้งนี้ทันทีที่เปิดประตูห้องน้ำเข้าไป ก็พบผู้ชายตัวรูปร่างผอม สูงพอประมาณ ใส่เสื้อคอกลมสีชมพู
ใส่กางเกงขายาวสีดำยืนจังก้า ทิ้งมือตรงอยู่ในห้องน้ำ ทีแรกไม่คิดว่าเป็นผี แต่ก็แปลกใจว่าภายในห้องทั้งหมดไม่มีผู้ชายเฝ้าไข้อยู่แม้แต่คนเดียว
เมื่อหันหลังมองไปที่เตียงคนไข้ ทุกคนอยู่อยู่กันตามปกติ
นางอำพรรณอ้างว่าพอหันกลับมามองในห้องน้ำก็ตกใจแทบช๊อค เพราะเห็นชายคนดังกล่าวยืนคู่กับหญิงสาวหัวขาดใส่เสื้อลายนุ่งผ้าถุง
มือขวาของชายคนดังกล่าวยังหิ้วหัวของหญิงสาวไว้ในลักษณะทิ้งแขนตรง
"พอตั้งสติได้ ไม่ถามใครทั้งสิ้นหันหลังวิ่งออกจากห้องพักคนไข้ ไปถามพยาบาลหน้าห้องว่ามีหญิงชายสองคนหัวขาดยืนอยู่ในห้องน้ำ
ซึ่งเจ้าหน้าที่พยาบาลรู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น และยกมือขวาชูขึ้น 2 นิ้ว บอกสั้นๆ ว่า มีคนเจอผีสองผัวเมียคู่นี้มา 2 รายแล้ว
เท่านั้นเองตนเชื่อว่าเป็นผีแน่นอน กดลิฟต์ทิ้งญาติไว้ในห้อง หนีลงมาอยู่ด้านล่าง และตรงเข้าว่าจ้างมอเตอร์ไซค์รับจ้างหน้า รพ.ดังกล่าว แม้จะเรียกราคา 300
บาท ตนเองก็ไม่ต่อสักบาทเดียว รีบนั่งรถจักรยานยนต์กลับบ้านที่อำเภอภาชีกลางดึกทันที ระหว่างทางที่ซ้อนจักรยานยนต์กลับบ้านก็พยายามตั้งสติสวดมนต์
ขออย่าให้ผีสองผัวเมียตามมาเลย เมื่อกลับมาถึงบ้านรีบเข้าห้องนอนโดยให้ลูกหลานมานอนเป็นเพื่อน ตื่นเช้าก็รีบซื้ออาหารหวานคาวตักบาตรไปให้ทันที" นางอำพรรณ
กล่าว
ผู้สื่อข่าวพยายามชวนให้นางอำพรรณเดินทางไปเยี่ยมญาติที่ยังนอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลดังกล่าวอีก
ปรากฏว่านางอำพรรณไม่ยอมไปพูดแต่เพียงสั้นๆว่า"กลัวจนหัวขนลุก ไม่ไปอีกแล้ว"
webmaster - 25/1/12 at 14:40
อึ้ง..หลวงพ่อโตร้องไห้เป็นลางบอกเหตุ..!
.....เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 ม.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายเสกสม แจ้งจิต อายุ 36 ปี
นักท่องเที่ยวว่าพบเหตุการณ์ประหลาดกับ"พระมหาพุทธพิมพ์" หรือ "หลวงพ่อโต" วัดไชโยวรวิหาร โดยมีคราบคล้ายคราบน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาทั้ง 2 ข้าง
ซึ่งตอนนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากกำลังจับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์สิ่งที่เกิดขึ้น
หลังจากได้รับแจ้งจึงไปตรวจสอบที่วัดไชโยวรวิหาร ต.ไชโย อ.ไชโย จ.อ่างทอง พบว่าบริเวณวัดไชโยมีนักท่องเที่ยวเข้ามากราบไหว้ขอพรเป็นจำนวนมาก
โดยเฉพาะภายในพระอุโบสถสถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อโต มีประชาชนต่างยืนดูบริเวณพระพักตร์ของหลวงพ่อโตและพูดคุยพร้อมถ่ายรูป บ้างก็นั่งกราบไหว้ขอพร
สำหรับพระพักตร์ของหลวงพ่อโตที่นักท่องเที่ยวต่างจับกลุ่มวิพากษ์กันว่าหลวงพ่อโตร้องไห้ เนื่องจากมีคราบคล้ายคราบน้ำได้ไหลออกมาจากดวงตาทั้ง 2 ข้าง
ที่สำคัญคราบน้ำดังกล่าวไหลออกมาจากขอบตาดำเหมือนกันทั้ง 2 ข้าง และไหลลงมาหยุดอยู่ที่เหนือริมฝีปากทำให้นักท่องเที่ยวต่างเชื่อว่าหลวงพ่อโต
ร้องไห้ออกมาและอาจจะเกิดอาเพศเหตุร้ายอะไรกับบ้านเมืองก็ได้
นายเสกสม กล่าวว่าเมื่อช่วงบ่ายได้พาครอบครัวไปกราบไหว้เพื่อจะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิเนื่องในปีใหม่
แต่พอเข้าไปกราบไหว้หลวงพ่อโตก็เห็นนักท่องเที่ยวจับกลุ่มพูดคุยว่าหลวงพ่อโตร้องไห้
ตนจึงสังเกตที่พระพักตร์พบว่าเป็นจริงเมื่อมีคราบน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาทั้งสอง
เหมือนกับกำลังร้องไห้ตนจึงเดินดูรอบๆองค์หลวงพ่อโตแต่ไม่พบคราบดังกล่าวที่อื่น ส่วนจะเป็นคราบอะไรนั้นไม่แน่ใจ
แต่ที่เห็นๆไหลออกมาจากดวงตาและออกมาจากตาดำเหมือนกัน หากเป็นจริงหลวงพ่อโตอาจจะบอกอะไรให้กับประชาชนบางอย่าง หรืออาจจะเกิดลางร้ายกับประเทศไทย
ทางด้านพระปลัดฟัก อภินันโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไชโยวรวิหาร กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวตนก็แปลกใจ เพราะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนและคราบที่เห็น
ไม่รู้ว่าเป็นคราบอะไรและที่นักท่องเที่ยวบอกว่าหลวงพ่อร้องไห้เพราะอาจจะเกิดอาเพศ ตนคงไม่เชื่อ เพราะอาจจะเป็นมูลของนกก็เป็นไปได้
แต่ที่แปลกคือไหลออกจากดวงตาทั้งสองข้างเท่านั้น ขณะที่นายนริศ เฟื่องฟู ศูนย์พระเครื่องโพธิ์ทอง กล่าวว่า คนสมัยโบราณได้เล่าต่อให้ลูกหลานว่า
ถ้าน้ำตาพระพุทธรูปไหลออกมา เป็นลางบอกเหตุอาจเกิดได้ทั้งเหตุร้ายและเหตุดี ซึ่งประเทศไทยเหตุร้ายก็ได้ผ่านไปแล้วที่น้ำท่วมหนัก
สร้างความเสียหายไว้มากมาย คงเหลือแต่เหตุดีแล้วที่จะเกิดกับเมืองไทย แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นอะไรคาดเดาไม่ถูก
สำหรับประวัติ พระมหาพุทธพิมพ์ (หลวงพ่อโต) วัดไชโยวรวิหารแห่งวัดไชโย เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวอ่างทองและจังหวัดใกล้เคียง
ให้ความเลื่อมใสศรัทธามาก พระมหาพุทธพิมพ์ประดิษฐานในวิหารวัดไชโยวรวิหาร มีพุทธลักษณะ เป็นศิลปะรัตนโกสินทร์ ปางสมาธิ ขัดสมาธิราบ ขนาดหน้าตัก 8 วา 7 นิ้ว
ก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง ด้วยเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นโดยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆสิตาราม
ที่มา - เดลินิวส์
webmaster - 3/5/12 at 14:45
วิญญาณเฮี้ยนถ่ายรูปมีเด็กโผล่
(ข่าว 25 มกราคม 2555)