ตามรอยพระพุทธบาท

ภาพข่าว..งานพิธีฉลองพระพุทธพรชัยมงคลมุนี วันที่ 20 – 22 ธันวาคม 2551
praew - 27/1/09 at 10:25

บรรยายโดย..พระชัยวัฒน์ อชิโต
วันที่ 30 มกราคม 2552


ภาพข่าวงานนี้ตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว กว่าจะได้นำมาเล่าสู่กันฟัง ก็ต้องรอเวลาผ่านไปจนถึงปีนี้ ตามคำที่ว่า "มารไม่มี บารมีไม่เกิด" คงจะจริงดังว่า เพราะพระพุทธรูปใหญ่องค์นี้มีพระนามว่า "พระพุทธพรชัยมงคลมุนี" นับเป็นองค์ที่ 5 ตามที่คุณสุชัย (ท้ง) ชินบุตรานนท์ ได้เป็นเจ้าภาพจัดสร้างกับ หลวงน้าสุรพงษ์ เจ้าอาวาส วัดถ้ำรัตนบุปผา อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี

โดยเริ่มงานก่อสร้างตั้งแต่ปี 2550 หลังจากวางศิลาฤกษ์แล้ว ได้มีพวก "มารศาสนา" ต้มตุ๋นท่านอาจารย์สิงห์ วัดถ้ำป่าไผ่ จ.ลำพูน ไปล้านบาทเศษแล้ว พวกนี้ก็ได้เงินไปจากที่นี่อีกล้านบาทเศษอีกเช่นกัน นับเป็นที่เศร้าสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง พวกนี้ได้ทำลายความเลื่อมใสศรัทธาไปจนหมดสิ้น

แต่ก็ไม่สิ้นความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาไป คุณสุชัยและคณะโรงงานทำร่ม "ลีโอ" ต่างก็ระดมทุนกลับเข้ามาใหม่ แล้วก็สร้างไปจนสำเร็จลุล่วงด้วยดี หลังจากได้มีงานพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไปแล้ว จึงได้มีการจัดงานพิธีฉลองสมโภชกันอีกครั้งหนึ่ง โดยกำหนดงานในวันที่ 21 ธันวาคม 2551

ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนได้จึงออกเดินทางไปก่อนล่วงหน้า ตั้งแต่ วันที่ 20 ธันวาคม 2551โดยออกจากวัดตั้งแต่เช้า ระหว่างที่จะผ่านนครสวรรค์เห็นป้ายเขียนอยู่ข้างนอกบอกว่า ขอเชิญร่วมสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่สัมฤทธิ์ ขนาดหน้าตัก 18 ศอก ณ พุทธอุทธยานนครสวรรค์ (บึงบอระเพ็ด) จึงได้เลี้ยวรถเข้าไปทำบุญทันที เพราะจะใช้ทำบุญเอาฤกษ์เอาชัยกันก่อนเดินทางต่อไป

วันเสาร์ที่ 20 ธันวาคม 2551

1. พุทธอุทธยานนครสวรรค์ ต.นครสวรรค์นอก อ.เมือง จ.นครสวรรค์



ร่วมสร้างพระใหญ่ หน้าตัก 18 ศอก จำนวนเงิน 2,000 บาท และถวายหนังสือตามรอย 1 ชุด ให้แก่เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร ในขณะที่ไปถึงนั้น พระนิสิตนักศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย กำลังร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรมพอดี ในบริเวณนี้มีโครงการเนื้อที่ประมาณ 327 ไร่ ที่จะทำเป็นพุทธอุทธยานนครสวรรค์



2. วัดห้วยน้ำโจน หมู่ 8 ต.ห้วยร่วม อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร


หลังจากทำบุญสร้างพระใหญ่ โดยมิได้เตรียมการล่วงหน้ามาก่อน นับว่าเป็นโชคดีที่เริ่มออกเดินทาง ก็ได้ทำบุญกันเป็นที่สบายใจแล้ว จึงได้ออกเดินทางต่อไป ในระหว่างทาง เห็นป้ายเชิญชวนร่วมงานผูกพัทธสีมา ฝังลูกนิมิต จึงบอกให้เลี้ยวรถเข้าไปที่ วัดห้วยน้ำโจน เพื่อไปร่วมบุญกันสักหน่อย ทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกันมาก่อนอีกเช่นเคย ขณะที่ไปถึงนั้น เป็นการเริ่มงานในวันแรกพอดี

ปรากฏว่า ลูกนิมิตในโบสถ์ (หลุมกลาง) ทำจากหยก จึงได้มีโอกาสปิดทองฝังลูกนิมิต เห็นพระอุโบสถยังไม่เสร็จ จึงได้ร่วมทำบุญเป็น จำนวนเงิน 2,000 บาท ด้วยอาศัยปัจจัยจากญาติโยมที่ใส่ย่ามไว้นี่แหละ โดยเฉพาะ คุณนิภา ในเมือง โอนเงินมาทำบุญมาจากอิตาลี 25,000 บาท จึงไปที่ไหนก็แวะทำบุญไปเรื่อยๆ ตามเคย จนกระทั่งหลงทางออกไปจุดที่ 3 โดยไม่ตั้งใจ



3. วัดหนองสนวน ต.ห้วยร่วม อ.ดงเจริญ จ.พิจิตร


ท่านผู้อ่านคงจะแปลกใจ ทำไมถึงแวะเข้าไปอีกละ อ้าว..ก็ขณะนั้นนะ มองเข้าไปในวัด เห็นกำลังสร้างพระนอนและพระนั่งองค์ใหญ่ไงละ หน้าตักเท่าไรจำไม่ได้ จึงร่วมทำบุญสร้างพระนอนและพระนั่งกับเจ้าอาวาส จำนวนเงิน 780 บาท

หลังจากนั้นก็หลงไปทางไปที่ 4. อุทธยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ อ.ศรีเทพ จ.เพชรบูรณ์ ขับรถวนชมโบราณสถานต่างๆ แล้วก็ออกเดินทางต่อไป



วันอาทิตย์ที่ 21 ธันวาคม 2551

5. งานพิธีฉลองสมโภช ณ สำนักสงฆ์ถ้ำรัตนบุปผา อ.หมวกเหล็ก จ.สระบุรี


พระพุทธรูปองค์ใหญ่ "พระพุทธพรชัยมงคลมุนี" นับเป็นพระพุทธรูปใหญ่ องค์ที่ 5 ณ สำนักสงฆ์ถ้ำรัตนบุปผา จ.สระบุรี โดยเจ้าภาพมีความประสงค์จะให้มีพระนามเช่นเดียวกัน คือ องค์ที่ 1 - 4 ที่ประดิษฐานอยู่ในประเทศมีดังนี้

ทิศเหนือ อยู่ที่ วัดสิริเขตคีรี (วัดพระร่วง) อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย
ทิศใต้ อยู่ที่ วัดแหลมสน ต.ปากน้ำ อ.หลังสวน จ.ชุมพร
ทิศตะวันตก อยู่ที่ วัดเขาดินเหนือ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี
ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่ที่ วัดบ้านหลักศิลา อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ



เจ้าหน้าที่จำหน่ายแผ่นทองที่ด้านหน้าบันไดนาค เพื่อให้ผู้ร่วมงานนำไปหล่อหลวงปู่ปาน หลวงพ่อพระราชพรหมยาน และ หลวงพ่อคง วัดเขาสมโภชน์ จ.ลพบุรี


เวลา 09.30 น. เริ่มทำพิธีบวงสรวง ณ มณฑลพิธี โดยมีญาติโยมเดินทางมาร่วมพิธีนับร้อยคน บางคนมาไกลถึงจังหวัดภูเก็ต



หลังจากเสียงพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยานบวงสรวงแล้ว จึงได้สรงน้ำและโปรยดอกไม้ พร้อมทั้งฉัตรที่เพิ่งนำมาบูชาไว้ทั้งสี่ทิศ


พนักงานโรงงานทำร่ม อาสาสมัครร่วมฟ้อนรำบวงสรวง พร้อมทั้งเด็กนักเรียนจากโรงเรียนมวกเหล็ก ร่วมฟ้อนรำถวายเป็นพุทธบูชาอีกด้วย



จากนั้นจึงมอบรางวัลให้แก่ผู้ฟ้อนรำทุกคน


ผู้ที่มาร่วมพิธีเททองหล่อหลวงปู่ป่าน, หลวงพ่อพระราชพรหมยาน และหลวงพ่อคง วัดเขาสมโภชน์ ก่อนเริ่มพิธีผู้เขียนได้สรงน้ำหอมและโปรยดอกไม้ที่เบ้าหลอม






หลังจากเสร็จพิธีเททองแล้ว หลวงน้าสุรพงษ์ เจ้าอาวาส สำนักสงฆ์ถ้ำรัตนบุปผา ถวายจตุปัจจัย เครื่องไทยทาน แก่พระภิกษุสงฆ์ที่มาร่วมพิธี หลังจากนั้นได้ร่วมกันถวายภัตตาหารเพล


ส่วนผู้ที่มาร่วมงานทุกคน ได้ร่วมกันทานอาหาร ซึ่งมีอาหารเลี้ยงฟรีตลอดงาน แล้วเดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ ฯ ส่วน "คณะตามรอยพระพุทธบาท" ได้ออกเดินทางต่อไป และขออนุโมทนาผู้ร่วมสร้างทุกคน สิ้นงบประมาณ 3 ล้านบาท



6. วัดหลวงปู่โต (สรพงศ์ ชาตรี) อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

ร่วมสร้างพระนอน 89 เมตร หล่อด้วยโลหะ 6,000 บาท และร่วมซื้อที่ดิน 3,000 บาท


การเดินทางออกจากวัดเที่ยวนี้โชคดีหลายอย่าง โดยเฉพาะได้มีโอกาสสร้างพระใหญ่หลายแห่ง ในวันนี้อีกเช่นกัน หลังจากเสร็จงานที่มวกเหล็ก จ.สระบุรี จึงได้เดินทางไปที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เนื่องจากก่อนการเดินทาง ระหว่างงานธุดงค์ที่วัดท่าซุง คุณภูษิตและคุณซิ้ม ภรรยา ได้แจ้งว่ามีรอยพระพุทธบาทปรากฏขึ้นบนดินที่ วัดใหม่สันติ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

ด้วยเหตุนี้ ผู้เขียนจึงได้มีโปรแกรมในการเดินทางไว้ล่วงหน้า จึงได้ออกเดินทางต่อไปทันที แต่มีเหตุเกิดขึ้นอีกนั่นแหละ ขณะที่มองหาทางเข้าวัดใหม่สันติ บังเอิญเลยทางแยกไปอีกหน่อย ระหว่างถอยหลังกลับรถ เห็นป้ายข้างถนนเขียนบอกว่า ขอเชิญร่วมสร้างพระนอนองค์ใหญ่ที่ หลวงปู่โตองค์ใหญ่ คุณสรพงศ์ ชาตรี เป็นผู้สร้างมานานหลายปีแล้ว


ผู้เขียนเห็นดังนั้น จึงบอกให้ขับรถเลยไปก่อน ขอไปร่วมทำบุญสร้างพระใหญ่ก่อน ขณะที่เข้าไปในมณฑปหลังใหญ่ ภายในบริเวณจัดสวนหย่อม มีโรงทานเลี้ยงอาหาร ผู้คนเดินทางกันมากมาย เพราะวันนั้นตรงกับวันอาทิตย์พอดี ขณะเดินเข้าไปก็ได้พบกับคุณยอดธง (ดาราตลก) และคุณสรพงศ์ ชาตรี พร้อมด้วยภรรยา ต่างก็ดีใจที่ได้พบกัน เพราะสมัยก่อนคุณสรพงศ์เคยไปกราบหลวงพ่อที่วัดท่าซุงมาหลายครั้งแล้ว

คุณสรพงศ์ได้เล่าเรื่องโครงการก่อสร้างพระนอนองค์ใหญ่ จะต้องใช้งบประมาณห้าร้อยกว่าล้าน จึงได้ร่วมทำบุญสร้างองค์พระนอน 89 เมตร และสร้างพระมณฑปยอดแหลมครอบ พร้อมทั้งซื้อที่ดินออกไปอีกหลายร้อยไร่ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 9,000 บาท



7. วัดใหม่สันติ ต.มะเกลือใหม่ อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา


เมื่อไปถึงวัดใหม่สันติ คุณภูษิตและคุณซิ้มได้นำไปพบท่านพระครูเจ้าอาวาสแล้ว จึงได้เดินไปที่ศาลาหลังหนึ่ง ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางพระเจ้าจักรพรรดิ ด้านข้างศาลาได้พบเป็นรอยอยู่บนพื้นทราย เป็นรอยเล็ก ไม่ใหญ่มาก แต่ไม่มีนิ้วเท้า ลักษณะเป็นรอยเกือกแก้วมากกว่า หลังจากนั้นจึงบวงสรวงเทปหลวงพ่อ แล้วก็สรงน้ำโปรยดอกไม้ ปิดทอง


ในระหว่างนั้น เจ้าอาวาสได้เล่าว่า มีคนอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ฝันว่ามีคนมาบอกว่ามีรอยเท้าอยู่แถวนั้น หลังจากนั้นก็ได้มาค้นหา จนกระทั่งพบอยู่ตรงนี้ แม้ฝนตกก็ไม่ลบเลือนแต่อย่างใด ตอนแรกเจ้าอาวาสจะเห็นก่อน แต่ท่านไม่เชื่อ จึงได้นำวัสดุมาปิดครอบไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้ใครมาพบเห็น ครั้นมีคนที่อยู่นอกวัดฝันเห็นเช่นนี้ ท่านจึงได้เกิดความเชื่อถือยิ่งขึ้น


จากนั้นท่านก็เดินไปอีกด้านหนึ่ง ซึ่งภายในวัดแห่งนี้ นับว่าเป็นที่ร่มเย็น ต้นไม้ปกคลุมไปทั่ว แม้จะมีโขดหิน เพราะเป็นเนินเขาเล็กๆ แต่ก็สามารถเดินไปได้สะดวก เหมาะสำหรับการปฏิบัติธรรม และจะมีญาติโยมมาร่วมปฏิบัติธรรมกันอยู่เสมอ

ในระหว่างนั้น ทางวัดกำลังเตรียมทำความสะอาดพื้นที่ เพราะอีกไม่กี่วัน จะมีเจ้านายพระองค์หนึ่ง เดินทางพักค้างคืนที่นี่ ท่านได้ถวายพระพุทธรูปหน้าตัก 5 นิ้ว องค์หนึ่งเพื่อบรรจุไว้ในพระเจดีย์ที่กำลังสร้างค้างอยู่



ต่อจากนั้น จึงเดินขึ้นไปดูบนเนินเขา บนนี้เป็นลานกว้างกำลังสร้างพระเจดีย์องค์ใหญ่ จึงได้ปิดทองและสรงน้ำ แล้วเดินกลับลงมาชมพระบรมสารีริกธาตุบนศาลาหลังใหญ่ ภายในตกแต่งประดับประดาไว้อย่างสวยงาม



ก่อนจะจากลาท่าน จึงได้ร่วมทำบุญ จำนวนเงิน 9,000 บาท เพื่อร่วมสร้างพระเจดีย์ที่ค้าอยู่ ทั้งที่เคยถวายปัจจัยร่วมสร้างมาก่อนนี้แล้ว และร่วมสร้างพระวิหารครอบรอยพระพุทธบาท (รอยเก่า) ที่จะก่อสร้างต่อไปอีก ขณะนั้นกำลังเริ่มสั่งเหล็กเส้นเข้ามาเตรียมไว้แล้ว


webmaster - 30/1/09 at 13:38

วันที่ 22 ธันวาคม 2551

8. เยี่ยมบ้านคุณอุไร (พึงพิศ) คิดบรรจง ในตัวเมืองชัยภูมิ


ภาพแรก : หลังจากโยมอุไร เสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว เจ้าของบ้าน คือลูกชายสองคน ได้แจ้งให้ลูกศิษย์หลวงพ่อฯ ในตัวเมืองชัยภูมิ ต่างก็มาร่วมทำบุญและถวายสังฆทาน พระพุทธรูป ฉัตร และน้ำดื่ม มากมายหลายคน มีคุณวินัย คิดบรรจง เป็นต้น พร้อมทั้งให้ผู้นำทางขับไปด้วย ภาพต่อมา : ร่วมทำบุญกับเจ้าอาวาสวัดเขาสระหงส์

9. วัดเขาสระหงส์ บ.นกเขาน้อย ต.นาฝาย อ.เมือง จ.ชัยภูมิ



เมื่อเจ้าของบ้านสองคน คือ คุณหมีและคุณใหม่ ทราบว่าพวกเราต้องการไปทำบุญสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ เนื่องจากบังเอิญเห็นป้ายโปสเตอร์ประกาศไว้ริมถนน จึงต้องปิดร้าน "คิดมงคล" แล้วร่วมเดินทางไปที่ วัดเขาสระหงส์

หลังจากผู้นำทางทั้งสามคนนำไปถึงวัดแล้ว จึงได้ร่วมทำบุญสร้างพระใหญ่สูง 199 เมตร ปางนั่งห้อยพระบาททั้งสองข้าง จำนวนเงิน 5,000 บาท และถวายส่วนองค์เจ้าอาวาสอีก 500 บาทแล้วจึงไปกราบรอยพระพุทธบาทกันต่อไป


สำหรับรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ เคยนำคนไปกราบมาหลายครั้งแล้ว ไปตอนนี้ปรากฏว่ามีคนเอาสีทองไปทา จึงได้บอกเจ้าอาวาสว่า น่าจะรักษาให้มีสภาพเดิมๆ ไว้ เพื่อป้องกันคนที่ไม่เชื่อถือ เขาจะว่าเราทำปลอมขึ้นมา จากนั้นได้ร่วมกันถวายฉัตรเล็กๆ แทนของเก่า 1 คู่


จากนั้นพวกเราก็ช่วยนำผ้าไสบทองบูชาไว้โดยรอบ แล้วก็สรงน้ำที่ยอดฉัตร เพื่ออนุโมทนาที่มีผู้นำมาถวาย เพราะแต่ก่อนนี้ยังไม่เห็นมี ขณะที่กราบไหว้อยู่นั้น ได้เห็นหลุมเล็กๆ ความจริงไปหลายครั้ง แต่ไม่เคยสังเกต น่าจะบ่อน้ำทิพย์ จึงได้สรงน้ำโปรยดอกไม้อีกเช่นกัน


ต่อจากนั้น เจ้าอาวาสได้นำขึ้นไปบนเขา เพื่อไปชมสถานที่ที่จะก่อสร้างพระใหญ่ชัยภูมิ ในขณะที่ไปก็ได้ทราบว่า ทางวัดไม่ได้เป็นผู้หาทุน งานนี้เป็นคนอีกกลุ่มหนึ่ง ที่คิดจะทำโครงการนี้ ถ้าดูตามรูปภาพภูมิทัศน์ จะเห็นเป็นโครงการใหญ่มาก จะต้องใช้งบประมาณหลายร้อยล้านบาท

ผู้เขียนก็ยินดีด้วย แต่ไม่ทราบว่าเขาจะทำอย่างไรกับรอยพระพุทธบาท ไม่อยากให้เขาทำลายหรือรื้อทิ้ง เพราะเป็นรอยจริงตามธรรมชาติ หวังว่าคงจะไม่เน้นเอาแต่ความสวยงาม หรือมุ่งศิลปะจนเกินไป เหมือนกับที่พระธาตุดอยตุง ปรับปรุงภูมิทัศน์ดีเกินไป ขุดลึกลงไปถึงฐานล่าง แม้รอยพระบาทที่อยู่ข้าง ๆ พระธาตุก็ย้ายออกไปหมดสิ้น และโบราณวัตถุสิ่งของที่เขาถวายไว้ บางอย่างก็นำไปตากแดดอยู่กลางแจ้ง



10. สำนักสงฆ์ผาผึ้ง บ.ตลาดแร้ง อ.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ


สำหรับสถานที่นี้ ได้ทราบเรื่องทางเว็บไซด์นี้ จาก "คนเมืองพริบพลี" ไว้นานแล้ว แจ้งว่ามีรอยพระพุทธบาทที่ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ จึงได้ไปสืบค้นหาตามข้อมูล แต่ก็ได้ไปที่พระเจดีย์ที่กำลังก่อสร้างก่อน


แล้วกลับมาทำบุญกับเจ้าอาวาส จำนวนเงิน 3,000 บาท มอบให้ช่างอีก 1,100 บาท และถวายส่วนองค์ 500 บาท รวมเป็น 4,600 บาท พร้อมกับถวายฆ้องอีก 1 ใบ ซึ่งเป็นฆ้องที่ร้านคิดมงคลถวายมา


ต่อจากนั้น พวกก็เดินไปดูรอยพระพุทธบาท ที่อยู่บนผลาญหินกว้างใหญ่ เจ้าอาวาสได้เดินนำไป พบว่าเป็นรอยเล็กๆ ขนาดไม่เกิน 1 คืบ แต่ไม่เห็นเป็นรอยนิ้วเท้า ซึ่งแล้วแต่ใครจะเชื่อหรือไม่ ส่วนเจ้าอาวาสเองท่านก็ไม่แน่ใจเท่าใดนัก ฉะนั้น เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องลำบาก ที่จะบอกว่าใช่หรือไม่ หากมีสภาพไม่ถึง 80 % ยากที่คนจะเชื่อถือ เพราะบางคนคิดว่าอาจจะเป็นรอยธรรมชาติก็เป็นได้





11. กู่แดง บ.กุดยาว ต.ตลาดแร้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ



ก่อนจะเดินทางกลับ เห็นมีป้ายบอก "กู่แดง" จึงได้เลี้ยวรถเข้าไป พบเป็นซากเจดีย์เก่า อยู่ภายในวัดกู่แดง จึงได้บวงสรวง สรงน้ำ ปิดทอง และนำผ้าห่มสไบที่เหลือเป็นชิ้นสุดท้ายขึ้นห่มบูชา แล้วทำบุญใส่ตู้ 100 บาท จากนั้นก็ลาคณะชัยภูมิ 3 คน ที่อุตส่าห์ช่วยนำทางไปทุกแห่ง แล้วก็ถวายอาหารเพลและจัดเลี้ยงพวกเราทุกคน

จึงต้องขอขอบคุณและอนุโมทนา คุณหมี คุณใหม่ และเพื่อน ตลอดถึงคณะชัยภูมิทุกคน ที่ได้เป็นเจ้าภาพในครั้งนี้ ปัจจัยที่ร่วมทำบุญ ตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง จนถึงสถานที่สุดท้าย ถือว่าเป็นบุญลาภ มักจะพบป้ายบอกบุญสร้างพระองค์ใหญ่ไว้หลายแห่ง บางแห่งก็หลงทางไปเจอโดยบังเอิญ

เป็นอันว่า การเดินทางไปงานฉลองพระพุทธพรชัยมงคลมุนี โชคดีหลายอย่าง เพราะได้สร้างพระก่อนจะไปและหลังจากเสร็จงานแล้ว สรุปยอดเงินทำบุญทุกแห่ง เป็นจำนวนเงิน 51,980 บาท ขอให้ทุกท่านตั้งจิตอนุโมทนาร่วมกันเทอญ ฯ

**************************