ตามรอยพระพุทธบาท

เดินทางไป "สุพรรณบุรี - กาญจนบุรี" วันที่ 6-9 พฤศจิกายน 2552
webmaster - 12/4/10 at 15:00

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2552 (นครสวรรค์ - สุพรรณบุรี - กาญจนบุรี)

1. วัดหัวตะพาน ตำบลแพรกศรีราชา อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท



หลังจากร่วมปรึกษาหารือเรื่องการปรับพื้นที่และซ่อมแซม "ศาลเจ้าแม่จันทร์เทวี" ณ วัดคลองมะม่วงเตี้ย บ้านตะคร้อ อ.ไพศาลี จ.นครสวรรค์ แล้วจึงได้ออกเดินทางย้อนกลับทางสุพรรณบุรี เพื่อไปงานร่วมเททองหล่อพระที่ วัดทุ่งแสงสว่างเจริญธรรม ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี


ในขณะที่รถวิ่งผ่าน วัดหัวตะพาน อำเภอสรรคบุรี จังหวัดชัยนาท หลวงพี่ชัยวัฒน์เห็นมีการก่อสร้าง จึงบอกให้ขับรถเข้าไปภายในวัด เพื่อร่วมสร้าง หลวงปู่ศุข กรมหลวงชุมพร และพระพุทธรูปยืนปางวันอาทิตย์ จำนวนเงิน 1,000 บาท เพื่อประดิษฐานไว้ในมหาวิหารที่กำลังก่อสร้างอยู่เช่นกัน

2. วัดเขานางบวช (วัดพระอาจารย์ธรรมโชติ) ต.นางบวช อ.เดิมบางนางบวช จ.สุพรรณบุรี
ร่วมสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทจำลอง 2,000 บาท


หลังจากได้ร่วมทำบุญสร้างพระและวิหารทานแล้ว จึงออกเดินทางจากชัยนาทต่อไป ในระหว่างที่รถวิ่งไปทางสุพรรณบุรี หลวงพี่เห็นป้ายสร้างมณฑปทรงพระเจดีย์ครอบรอยพระพุทธบาทจำลอง จึงได้แวะเข้าไปทำบุญกันอีก โดยต้องขับรถวิ่งขึ้นไปบนเขาที่ไม่สูงมากนัก


บนยอดเขานางบวชนี้มีพื้นที่ไม่มากนัก แต่มีการจัดสร้างที่มีระเบียบสวยงามพอสมควร เจ้าอาวาสได้เล่าว่า วัดเขานางบวช (วัดพระอาจารย์ธรรมโชติ) หรือวัดเขาขึ้น บริเวณวัดตั้งอยู่บนเขานางบวชมีทั้งทางราดยางและบันได 249 ขั้น ขึ้นไปจนถึงยอดเขา เป็นวัดของพระอาจารย์ ธรรมโชติ ผู้ทรงคุณวุฒิ เครื่องรางของขลังสมัยศึกบางระจัน ชาวบ้านบางระจัน ได้นิมนต์ไปเป็นกำลังใจในการสู้รบกับพม่า มีรอยพระพุทธบาทอยู่ในวิหารพระอาจารย์ธรรมโชติ ด้านหลังเป็นเจดีย์แผ่นหิน รูปปั้นอาจารย์ธรรมโชติ เมื่อยืนอยู่บนเขาสามารถชมทิวทัศน์อันสวยงามของอำเภอเดิมบางนางบวชได้อย่างทั่วถึง

ตามประวัตินามเดิมของท่านชื่อ "โชติ" เมื่อบวชแล้วจึงได้นามว่า "ธรรมโชติรังษี" เกิดวันพฤหัสบดี ปีมะโรง เดือน ๗ พ.ศ.๒๒๔๓ ในแผ่นดินสมเด็จพระเพทราชา ที่เมืองนครพนม บิดาเป็นเชื้อสายเจ้าผู้ครองนครจำปาศักดิ์ นามสมเด็จเจ้าภิรมย์ เมื่อท่านอายุได้ ๙ ขวบ บิดาได้อพยพมาอยู่ที่บ้านเดิมบาง อันเป็นภูมิลำเนาเดิมของมารดา ท่านชอบยิงนก ตกปลา เข้าป่าล่าสัตว์ เรียนเพลงอาวุธ เวทย์มนต์คาถาจากบิดาของท่าน และจากพระอาจารย์เขมร

ท่านแต่งงานเมื่ออายุ ๑๙ ปี มีบุตร ๒ คน คนโตตายตั้งแต่คลอด คนเล็กตายในศึกบางระจัน ได้บวชเมื่ออายุ ๒๒ ปี ที่วัดยางอำเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง จำพรรษาอยู่ ๖ ปี ออกแสวงหาความวิเวก จึงไปอยู่ในถ้ำบนเขานางบวช ให้ชื่อว่า "เขาขึ้น" ก่อนหน้านั้นในสมัยสุโขทัย "ชบา" นางสนมของ พระร่วงเจ้า ได้เบื่อหน่ายในเพศ ฆราวาสได้มาบวชจำพรรษาอยู่ในถ้ำแห่งนี้ จึงเรียกกันต่อมาว่า เขานางบวช

กิจวัตรที่พระอาจารย์ธรรมโชติปฎิบัติหลังออกพรรษา นับตั้งแต่เดือน ๓ ของทุกปี ท่านจะออกธุดงค์ไปเพื่อนมัสการปูชนียสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา บุกป่าผ่าดง พักตามป่า ตามเขา ตามถ้ำทั้งในประเทศ และประเทศใกล้เคียง เช่น ไปนมัสการพระนอนจักรสีห์ ไปพระพุทธบาท พระพุทธฉาย พระธาตุพนม หลวงพระบาง แล้วมาจำปาศักดิ์ มาเยี่ยมญาติของท่านซึ่งเป็นดินแดนแห่งปิตุภูมิ ท่านผ่านไปทางไหนก็ถือโอกาสเผยแพร่พระธรรม ไปด้วยจนได้นามว่า "ผู้พิทักษ์ธรรม" และสำเร็จวิชากสิณชั้นสูง มีลูกศิษย์ ลูกหามากมาย

เมื่อชาวค่ายบางระจัน มาอาราธนาท่านไปอยู่ วัดโพธิ์เก้าต้น ท่านจึงลงผ้าประเจียด ตะกรุด พิศมร แจกจ่ายนักรบค่ายบางระจัน ให้เกิดความฮึกเหิมเกล้าเข้ารบ ไม่กลัวตาย เมื่อค่ายบางระจันแตก เข้าใจว่าท่านใช้วิชากสิณชั้นสูง กลับไปวัดเขานางบวชแล้วหลบซ่อนอยู่ในอุโมงค์ใต้วิหาร เป็นอุโมงค์ที่กว้างพอจะเข้าไปอยู่ได้สัก ๕ - ๖ คน


จากหนังสือ พระปรีชาญาณของ ร.๕ (หน้า ๒๘ - ๒๙) ได้บันทึกไว้ว่า "พระพุทธเจ้าหลวงเสด็จประพาส" วัดเขานางบวช โดยที่ทรงพระประสงค์ เสด็จประพาสแม่น้ำมะขามเฒ่า (น่าจะเป็นแม่น้ำท่าจีน ที่เริ่มแยกจากแม่น้ำเจ้าพระยาที่ปากคลองวัดมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท) ได้เสด็จประพาสแม่น้ำมะขามเฒ่า เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๑

ท่านเจ้าอาวาสเล่าว่าสมัยก่อนเคยมีคนเคยเห็นดวงไฟลอยบนยอดเขาในวันพระ และบางครั้งมีคนได้ยินเสียงปี่พาทย์มโหรีอีกด้วย แต่ก่อนมีถ้ำอยู่ภายในเขาลูกนี้ แต่ปัจจุบันได้ถูกปิดไปแล้ว


เมื่อหลวงพี่ได้ร่วมสร้างมณฑปครอบรอยพระพุทธบาทจำลอง เป็นเงิน 2,000 บาท แล้วได้เข้าไปกราบนมัสการลาพระประธานออกเดินทางต่อไป.


webmaster - 23/4/10 at 15:25

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2552

3. วัดทุ่งแสงสว่างเจริญธรรม ต.หนองบัว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี
(ร่วมพิธีหล่อสมเด็จองค์ปฐมทองคำ หน้าตัก 10 นิ้ว)

กำหนดการ

เวลา ๑๑.๐๐ น. ถวายภัตตาหารเพลแก่พระภิกษุ-สามเณร ๑๑๙ รูป
เวลา ๑๔.๐๐ น. พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ ๒๙ รูป เจริญชัยมงคลคาถา
เวลา ๑๕.๐๐ น. เททองหล่อพระพุทธปฎิมาทองคำ
เวลา ๑๖.๐๐ น. พระสงฆ์จำนวน ๒๙ รูป สวดทักษิณานุประทาน


ตามกำหนดการ จะมีพิธีเททองเวลา 15.00 น. แต่เนื่องจากหลวงพี่มีภารกิจที่จะเดินทางไป อ.สังขะ จ.กาญจนบุรี ท่านจึงได้ไปร่วมพิธีบวงสรวงในตอนเช้า ทางวัดได้จัดเตรียมบายศรีไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งอยู่ด้านข้างเบ้าหลอม


ขณะที่หลวงพี่เดินทางไปถึง ท่านได้เข้าไปนั่งในปะรำพิธี ท่านพระมหายุคลธรณ์ผู้นิมนต์หลวงพี่ได้เข้ามาหา หลวงพี่ได้มอบปัจจัยร่วมทำบุญหล่อ "สมเด็จองค์ปฐม" ทองคำ หน้าตัก 10 นิ้ว ประมาณ 5,000 บาท พร้อมกับทองคำที่มีญาติโยมถวายท่านไว้หนักประมาณ 2 บาท ส่วนพี่มายินได้ถวายกำไรทองคำ หนักประมาณ 2-3 บาท ร่วมหล่อด้วย


ในตอนนี้มีผู้มาร่วมงานกันมากมาย ผู้ที่รู้จักกับหลวงพี่ก็ได้เข้ามาร่วมทำบุญกันเรื่อยๆ หลวงพี่ก็ได้มอบเงินทั้งหมดให้แก่ทางวัด หลวงพี่มหาฯ ได้จัดรูปภาพครูบาอาจารย์ไว้บูชาด้วย


ภายในปะรำพิธีมีผู้ร่วมพิธีทยอยกันมาเรื่อยๆ ส่วนพวกเราก็เก็บภาพรูปครูอาจารย์และภาพสมเด็จองค์ปฐม



จนกระทั่งถึงเวลา 09.00 น. หลวงพี่พร้อมกับเจ้าภาพได้เดินไปที่โต๊ะบวงสรวง





หลังจากเปิดเสียงพระเดชพระคุณหลวงพ่อ "พระราชพรหมยาน" บวงสรวงแล้ว หลวงพี่ชัยวัฒน์ได้เดินไปโปรยข้าวตอกดอกไม้และสรงน้ำหอมที่เตาเบ้าหลอม





หลังจากนั้นก็ได้มีการฟ้อนรำบวงสรวง ก่อนที่จะกลับหลวงพี่ได้เดินทำบุญตามเต้นท์ต่างๆ สุดท้ายเป็น
การทำบุญค่าอาหารเลี้ยงปลา แล้วก็ออกเดินทางต่อไปหลังจากได้ชมเพชรประดับที่หน้าผากองค์พระ


webmaster - 23/4/10 at 16:28

4. พิสูจน์หมอดู "ฝาละมีหมุน" บ้านลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี


หลวงพี่ชัยวัฒน์ได้ทราบข่าวจากรายการ "บันทึกลึกลับ" ช่อง 5 ซึ่งได้ออกอากาศว่า “แหม่ม-มาลีอร” จะพาคุณผู้ชมไปร่วมบันทึกปริศนาของโหราศาสตร์ “หมอดูฝาหมุน” แม่นเหมือนตาเห็น ณ บ้านลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี


(ภาพจาก : thaipr.net)

ที่แห่งนี้มีชาวบ้านร่ำลือกันว่ามีคุณลุงหมอดูคนหนึ่งที่ใช้ฝาหม้อดินธรรมดาทำนาย โดยการตั้งจิตอธิฐานเรื่องที่อยากถามกับฝาหม้อดิน ถ้าสมหวังฝาก็จะหมุนไปรอบๆ ถ้าไม่ใช่ฝาก็จะไม่หมุน ซึ่งดาราสาว “แหม่ม-มาลีอร” จะขอพิสูจน์ความแม่นยำในครั้งนี้ด้วยตัวเอง


ด้วยเหตุนี้เอง การเดินทางไปเมืองกาญจน์ครั้งนี้ หลวงพี่จึงนำพาพวกเราไปพบกับเรื่องราวแปลกๆ ทั้งๆ ที่เจ้าของบ้านเกรงว่าเราจะไปจับผิด หลังจากได้อธิบายว่าพวกเราต้องการมาเพื่อศึกษาเท่านั้น ภรรยาของคุณลุงท่านนี้ จึงเดินเข้าไปหยิบตำราแพทย์แผนโบราณมาให้ชม


จากนั้นคุณลุงได้นำไปในห้องเล็กๆ ห้องหนึ่งภายในบ้าน ซึ่งอยู่ที่บ้านลุ่มสุ่ม อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี จากนั้นได้จุดธูปเทียนบูชาครู แล้วบอกกล่าวให้หลวงพี่อธิษฐานถาม แล้วฝาละมีก็หมุนแกว่งไปมา ซึ่งคุณลุงบอกว่าไม่ได้ใช้มือแกว่ง แต่ฝาละมีได้หมุนเองไปตามการอธิษฐานถาม


คุณลุงได้เล่าให้ฟังว่า ถ้าหากมีบางคนไม่ค่อยเชื่อถาม บางครั้งฝาละมีจะหมุนแรง จนหลุดออกจากเชือกที่ผูกแตกไปหลายอันแล้ว พวกเราคิดว่าคงไม่เป็นเรื่องหลอกลวง เพราะคุณลุงไม่ได้เรียกเงินเรียกทองแต่อย่างใด เพียงแต่ได้รับวิชา "หมอดูฝาละมีหมุน" มาแต่บิดานานแล้วเท่านั้นเอง



5. สำนักสงฆ์ถ้ำมรกต บ้านปรังกาสี ตำบลท่าขนุน อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
(ร่วมสร้างพระเจดีย์ทรงมอญ)



เมื่อได้ลาคุณลุงคุณป้า "หมอดูฝาระมีหมุน" ที่บ้านลุ่มสุ่มแล้ว จึงได้ออกเดินทางสู่ทองผาภูมิต่อไป เพราะหลวงพี่ได้แวะฉันอาหารกลางวันแถวนั้นแล้ว ระหว่างทางท่านได้เห็นป้าย "ถ้ำมรกต" จึงได้เลี้ยวเข้าไปทันที


รถวิ่งเข้าไปตามถนนพอสมควร จนถึงภูเขาลูกหนึ่งมองเห็นพระเจดีย์แต่ไกล จึงจอดรถแล้วเดินขึ้นไปเล็กน้อย ได้พบกับพระชาวมอญท่านเล่าว่า กำลังสร้างพระเจดีย์องค์ใหม่ พร้อมกับได้นำแบบแปลนพระเจดีย์ออกมาให้ชม


พวกเราจึงได้ร่วมทำบุญกับหลวงพี่อีกเช่นเคย รวบรวมเงินได้ประมาณ 2,000 บาท ถวายไว้
กับเจ้าอาวาส ซึ่งพระในวัดนี้เป็นชาวมอญทั้งนั้น ตามภาพจะเห็นว่ากำลังสร้างโครงรากฐานอยู่


webmaster - 23/4/10 at 16:59

วันที่ 8 พฤศจิกายน 2552 (กาญจนบุรี)

6. ด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี



พวกเราได้เดินทางไปถึงด่านเจดีย์สามองค์ จอดรถภายในวัดเจดีย์สามองค์แล้วได้เดินออกไปกราบไหว้พระเจดีย์ 3 องค์ ภายนอกวัดก่อน

7. พิสูจน์ "ก้อนหินเสี่ยงทาย" วัดเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี


จากนั้นได้เดินกลับเข้ามาภายในวัดเจดีย์สามองค์นี้อีก เพื่อเข้าไปหาเจ้าอาวาส เนื่องจากหลวงพี่ได้ทราบข่าวจากรายการ "บันทึกลึกลับ" ทางช่อง 5 ว่าท่านมีก้อนหินเสี่ยงทาย


หลวงพ่อเจ้าอาวาสได้เล่าว่า ท่านได้ก้อนหินนี้มาจาก "หลวงพ่ออุตตมะ" มานานแล้ว และให้อธิษฐานเสี่ยงทายกันเอง โดยมีผู้มาขอเสี่ยงทายกันมากมาย


หลังจากท่านได้นำก้อนหินออกมาให้ชมแล้ว หลวงพี่ชัยวัฒน์ได้ยกขึ้นมาอธิษฐาน จากนั้นได้วางลงบนพื้น แล้วท่านได้เอามือประกบก้อนหินไว้


จากนั้นหินได้เริ่มหมุนไปเรื่อยๆ อย่างช้าๆ จนหลวงพี่ต้องค่อยหมุนตัวตามไป นับว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดมาก


ต่อจากนั้นพวกเราก็ได้เข้าไปอธิษฐานกันบ้าง ก่อนจะกลับหลวงพี่ได้เข้าไปถวายปัจจัยกับท่านเจ้าอาวาส 1,000 บาท แล้วกราบลาท่านไปซื้อของที่ระลึกและฉันเพลที่ร้านอาหารแถวนั้นต่อไป

8. วัดวังก์วิเวการาม ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี



หลังจากได้กราบศพหลวงพ่ออุตตมะ ซึ่งท่านมรณภาพได้มา 3 ปี ที่วัดวังก์วิเวการามแล้ว พวกเราได้ร่วมทำบุญใส่ตู้ตามศรัทธาประมาณ 1,500 บาท


จากนั้นได้ขับรถออกมา เพื่อไปเวียนเทียนรอบ "พระเจดีย์พุทธคยา" ทำบุญใส่ตู้กันตามอัธยาศัย


หลังจากเดินชมร้านค้าโดยรอบ "พระเจดีย์พุทธคยา" แล้วจึงย้อน
กลับมาเดินข้ามสะพานของชาวมอญ ในตอนนี้กำลังทำการซ่อมแซม



ถือว่าเป็นสะพานโบราณที่เป็นความสามารถของชาวมอญที่อาศัยอยู่ในเขตนี้
เพื่อเป็นการร่นระยะทางจากตัวเมืองสังขละบุรีมาที่วัดหลวงพ่ออุตตมะ



9. วัดวังขยาย ต.ปรังเผล อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี (สร้างพระเจดีย์สูงประมาณ 35 เมตร 2,000 บาท)


หลังจากนั้นก็ได้ล่องกลับลงมาที่ทองผาภูมิ แต่ในระหว่างทาง หลวงพี่มองเห็นป้ายเชิญชวนสร้างพระเจดีย์สูงประมาณ 35 เมตร ท่านจึงได้บอกให้เข้าไปที่วัดวังขยายทันที


เมื่อเข้าไปถึงก็ได้พบเจ้าอาวาสพอดี ท่านมีความศรัทธาหลวงพ่อวัดท่าซุงเช่นกัน หลวงพี่จึงได้มอบหนังสือประวัติหลวงปู่ปาน จึงได้ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ 2,000 บาท แล้วเดินทางถ่ายรูปที่หน้าพระเจดีย์เป็นที่ระลึก


ก่อนจะกลับท่านเจ้าอาวาสได้ให้ข้อมูลรอยพระพุทธบาท พบอยู่ใน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ตำบลไล่โว่ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี (เข้าทาง "สำนักสงฆ์พุทโธภาวนา") หลวงพี่จึงได้ขอก๊อปปี้รูปภาพมาให้ชมกัน ซึ่งคงจะยากที่จะเข้าไปถึงสถานที่นี้ได้

รอยพระพุทธบาท "ทุ่งใหญ่นเรศวร" (ลำดับที่ 599)



ถ้าสังเกตขอบนอกของรอยพระพุทธบาท จะเห็นเป็นรอยเบื้องขวา แต่ถ้าจะมองรอยด้านในที่มีน้ำขัง จะเป็นรอยเบื้องซ้าย


เป็นรอยพระพุทธบาทที่เห็นรอยนิ้วไม่ชัดเจนอยู่กลางทุ่งใหญ่นเรศวร ยากจะที่จะเดินเข้าไปกราบไหว้ได้
จึงขอส่งกระแสจิตกราบไหว้ด้วยเศียรเกล้า นับเป็นรอยพระพุทธบาท ลำดับที่ 599 ของประเทศ


webmaster - 23/4/10 at 22:19

วันที่ 9 พฤศจิกายน 2552 (กาญจนบุรี - ราชบุรี - สมุทรสงคราม)

10. วัดโชคผาสุกิจ อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี

- ร่วมสร้างศาลาการเปรียญ 1,000 บาท


วันนี้เป็นวันสุดท้ายของการเดินทาง หลังออกเดินทางจากที่พักแล้ว พวกเราได้ทำบุญสร้างศาลาการเปรียญ 1,000 บาท กับท่านเจ้าอาวาสวัดโชคผาสุกิจ แล้วออกเดินทางกลับมาทางราชบุรี

11. พระมหาเจดีย์ตรีสุวรรณภูมิ สำนักแม่ชีไทยทัพโพธิ์ทอง ต.โพหัก อ.บางแพ จ.ราชบุรี
- ร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ 4,000 บาท


สำหรับสถานที่แห่งนี้มี คุณแม่ชีระเบียบ มาลี เป็นเจ้าสำนัก ซึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อวัดท่าซุงมานานแล้ว ได้นิมนต์หลวงพี่ชัยวัฒน์ไปเยี่ยมเยียน ท่านจึงได้กำหนดเดินทางในครั้งนี้ เพราะทราบข่าวว่าแม่ชีสร้างพระเจดีย์มาหลายปีแล้ว จึงอยากจะร่วมทำบุญด้วยตนเอง อีกทั้งหลวงพี่ได้เคยฝากเงินมาทำบุญมาบ้างแล้ว ขณะที่ไปถึงแม่ชีได้นิมนต์หลวงพี่ฉันเพลที่นี่


ต่อจากนั้นแม่ชีได้นำขึ้นไปชมด้านบนพระเจดีย์ ซึ่งภายในประดิษฐานพระประธาน แล้วถ่ายรูปภาพเป็นที่ระลึก



12. วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม อ.เมือง จ.ราชบุรี
- กำลังสร้างพระมหาเจดีย์สมเด็จฯ ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
- ร่วมทำบุญใส่ตู้ ประมาณ 1,200 บาท


หลังจากได้ลาคณะแม่ชีที่ได้ช่วยสงเคราะห์เลี้ยงอาหารกลางวันพวกเราแล้ว หลวงพี่จึงได้ออกเดินทางไปที่ วัดหลวงพ่อสดธรรมกายาราม เพราะมีป้ายบอกข่าวการสร้างพระมหาเจดีย์ จึงได้เข้าไปร่วมทำบุญและชมสถานที่ภายในวัดแห่งนี้ ซึ่งมีรูปปั้นหลวงพ่อสด วัดปากน้ำ อยู่ภายในวิหารแห่งนี้ด้วย


หลวงพี่ได้ร่วมทำบุญกับพวกเราร่วมสร้างพระมหาเจดีย์ จำนวนเงิน 4,000 บาท แล้วเดินชมพระบรมสารีริกธาตุและพระธาตุต่างๆ


บริเวณภายในศาลานี้กว้างใหญ่ ส่วนภายนอกก็ร่มรื่น มีสะพานเล็กๆ ข้ามคูน้ำ ตบแต่งได้สวยงามตามธรรมชาติ


ต่อจากนั้นก็ขับรถออกไปชมบริเวณสถานที่สร้างพระมหาเจดีย์ ซึ่งมีอาณาบริเวณกว้างใหญ่ พวกเราดีใจที่ได้ร่วมสร้าง



13. วัดโคกบำรุงราษฎร์ ต.ดอนกรวย อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี
- พระมหาเจดีย์ และ พระอุโบสถ ร่วมทำบุญประมาณ 1,200 บาท


การเดินทางคราวนี้ถือว่าโชคดีมากๆ เพราะได้มีโอกาสร่วมทำบุญสร้างวิหารและพระเจดีย์หลายแห่ง ในตอนนี้
ก็เช่นกัน ในระหว่างทางมองเห็นพระพุทธชินราชองค์ใหญ่อยู่หน้าวัด ด้านข้างมีการสร้างพระอุโบสถยังค้างอยู่


ส่วนป้ายก็มีบอกเชิญชวนร่วมสร้าง หลวงพี่จึงบอกให้เลี้ยวรถเข้าไปทันที
เพื่อร่วมสร้างพระมหาเจดีย์ และพระอุโบสถ เป็นจำนวนเงิน 1,200 บาท


14. วัดจุฬามณี ต.บางช้าง อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
- ร่วมสร้างพระมหาเจดีย์จุฬามณี ร่วมทำบุญ 2,000 บาท
- กราบศพ หลวงพ่อเนื่อง โกวิโท สังขารไม่เน่า


พวกเราออกเดินทางไปแวะชมตลาดน้ำดำเนินสะดวก หลังจากซื้ออาหารและผลไม้เพื่อไว้ถวายหลวงพี่แล้ว จึงได้ออกเดินทางต่อไป ระหว่างทางโชคดีอีกแล้ว หลวงพี่ได้มองเห็นยอดพระเจดีย์ที่กำลังสร้างแต่ไกล สายตาท่านว่องไวมาก ท่านบอกให้ลองขับรถเข้าไปที่ตำแหน่งตรงนั้น ต้องใช้เวลาหาทางเข้าอยู่นานจนกระทั่งเจอ


จากนั้นได้เข้าไปกราบศพหลวงพ่อเนื่อง ซึ่งได้มรณภาพมานานแล้ว
ทางวัดกำลังตกแต่งจัดเตรียมสถานที่เพื่อบำเพ็ญกุศลครบรอบ 22 ปี


สมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่นั้น หลวงพ่อให้หวยแม่นจนเป็นที่ยอมรับถือทั่วไป หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
บอกว่า หลวงพ่อเนื่องมรณภาพแล้วไปอยู่ที่บ้านสุดท้ายแล้ว หมายถึงหลวงพ่อเนื่องไปนิพพานแล้วนั่นเอง
ภายหลังคณะศิษย์ดำริที่จะสร้างพระเจดีย์ด้านหลังของวัด แต่มองเห็นได้จากริมถนน ตามแบบแปลนตามที่เห็นนี้


หลังจากร่วมทำบุญสร้างพระเจดีย์ 2,000 บาทแล้ว จึงได้ไปชมสถานที่ที่กำลังสร้างพระเจดีย์


15. วัดเพชรสมุทรวรวิหาร ต.แม่กลอง อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม
- ปิดทอง "หลวงพ่อวัดบ้านแหลม"
- ทำบุญใส่ตู้ 1,000 บาท


พวกเราเดินทางมาถึงสถานที่นี้เป็นจุดสุดท้าย โดยได้แวะเข้าไปที่วัดเพชรสมุทรวรวิหาร


หลวงพี่ได้เข้าไปปิดทอง "หลวงพ่อวัดบ้านแหลม" และทำบุญใส่ตู้ตามอัธยาศัย


สรุปการเดินทางระหว่างวันที่ 6 - 9 พฤศจิกายน 2552

1. สร้างพระมหาเจดีย์, มหาวิหาร, พระอุโบสถ, มณฑปครอบรอยพระพุทธบาท รวมทั้งหมด 8 แห่ง
2. ยอดเงินทำบุญรวมทั้งสิ้น 29,200 บาท
3. ถวายทองคำหล่อพระร่วมกัน น้ำหนักประมาณ 5 บาท

จึงขอเชิญชวนญาติธรรมทั้งหลาย ร่วมอนุโมทนาด้วยกัน..สวัสดีค่ะ


webmaster - 24/4/10 at 06:55

(Update 24-04-53)