|
|
|
posted on 9/4/08 at 06:40 |
|
(Update ภาคอีสาน 2548 ตอนจบ) หนังสือตามรอยพระพุทธบาท เล่ม 4 (ตอนที่ 2)
◄ll ย้อนอ่าน ตอนที่ 1 คลิกที่นี่
◄ll ย้อนอ่าน ตอนที่ 3 คลิกที่นี่
สารบัญ
(เลือก "คลิก" อ่านได้แต่ละตอน)
01. รอยพระพุทธบาทบ้านดานเม็ก
02. น้ำตกคำเตย
03. กาฬสินธุ์ - มุกดาหาร - นครพนม
04. ได้บูรณะพระธาตุพนมโดยบังเอิญ
05. นครพนม - คำม่วน (ประเทศลาว)
06. สกลนคร - ชัยภูมิ
ร้อยเอ็ด - มหาสารคาม - กาฬสินธุ์
เป็นอันว่าพวกเราได้สักการบูชา "พระพุทธรูปยืน" เก่าแก่มานานนับพันปีครบถ้วนทั้งสององค์แล้ว จึงได้ลาท่านสุรชัยออกเดินทาง
เพื่อค้นหารอยพระพุทธบาทที่ วัดพุทธสถานภูปอ ต.ภูปอ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ตามข้อมูลที่ พระถาวร (คำ) จ.สกลนคร
เป็นผู้แจ้งไว้ว่า พบรอยพระพุทธบาทอยู่ทางทิศตะวันออกของพระนอนองค์ใหญ่บนเขาภูปอ
แต่พอไปถึงจะต้องขึ้นเขาไปอีก จึงไม่มีเวลาพอต้องขอผ่านไปก่อน แล้วจึงเดินทางต่อไป ตามข้อมูลอีกแห่งหนึ่งที่มีอยู่แล้ว คือที่
บ้านดานเม็ก อ.สามชัย จ.กาฬสินธุ์ ด้วยการไปสอบถามโยมที่จะนำทางเข้าไป ท่านสุพจน์ เป็นผู้ให้ข้อมูล
จึงพาไปหาเจ้าของโรงน้ำแข็ง สอบถามทางแล้วได้ออกเดินทางเข้าไปทันที
(เจ้าของโรงน้ำแข็งกำลังเล่ารายละเอียด)...............................(แล้วให้คนนำทางเข้าไปในป่าลึก "บ้านดานเม็ก")
คนงานของเจ้าของโรงน้ำแข็งได้นำเข้าไปในป่าแห่งหนึ่งที่ บ้านดานเม็ก เป็นป่าที่ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่เลย
บริเวณนี้จะมีรอยพระพุทธบาทอยู่บนลานหินเป็นธรรมชาติ แต่เมื่อเข้าไปดูแล้วพบว่า ที่นี่ไม่เหมือนกับที่เคยเห็นมาก่อน คือมีลักษณะลวดลายเป็นอักขระโบราณ
และมีลายเป็นกรอบรูปคล้าย "พระสมเด็จนางพญา"
พวกเราทุกคนตื่นเต้นและดีใจ ที่ได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ แต่ก็มีรอยถูกสกัดไปบ้างเป็นบางแห่ง ตอนนี้ได้สำรวจไปทั่ว พบว่ามีรอยพระพุทธบาทเล็กๆ
คู่หนึ่ง รอยเฉพาะเบื้องซ้ายและขวา แต่อยู่ห่างกันใหญ่มาก
อีกรอยหนึ่งที่สำคัญไปกว่านี้ คือ รอยเบื้องซ้ายที่มีลายลักษณ์คล้ายกับที่ช่างศิลปเขาวาดหรือทำไว้ ที่เรียกว่า มงคล ๑๐๘ ประการ
อยู่เต็มฝ่าพระบาท นับเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวที่ได้พบ มองเห็นนิ้วเท้าพอจะรู้ว่าเป็นรอยพระบาทด้านซ้าย อย่างไม่ต้องสงสัยเลย
แต่ถ้ายังมีคนสงสัยอีก ว่าจะเป็นรอยที่เกิดจินตนาการเอาเองหรือเปล่า แหม..ถ้าเจอคนประเภทนี้บ่อยๆ คงจะปวดหัวน่าดู คงไม่รำคาญนะ
เพราะอยากจะอธิบายให้เข้าใจว่า สถานที่แต่ละแห่งที่ไปนี้ ไม่ใช่ผู้เขียนไปทึกทักเอาเป็นรอยพระพุทธบาทไปเสียทุกแห่ง แต่นี้ มีชาวบ้านเขานับถือกันอยู่แล้ว
โดยเฉพาะที่นี่เจ้าของโรงน้ำแข็งเขาก็เข้าไปกราบไหว้อยู่เสมอ ดังที่ได้เห็นศาลพระภูมิตั้งอยู่ในบริเวณนั้น
เอาละ..คงอธิบายเพียงแค่นี้ จะเสียเวลาคนที่เข้าใจดีอยู่แล้ว จะหาว่าทำให้เปลืองหน้ากระดาษเปล่าๆ ต่อไปนี้จะไม่พูดอีกแล้ว คงจะเล่าต่อไปอีกว่า
ยังมีเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นอีก คือหลังจากออกจากดานเม็กแล้ว พระที่นำทางได้พาไปค้างคืนที่ วัดถ้ำเงิน บ.คำบก ต. แซงบาดาล
อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์
ขณะพักแรมกันในศาลา ผู้เขียนได้เดินออกมา เห็นโขดหินใหญ่อยู่หน้าศาลา จึงได้ลองเดินขึ้นไปดู ปรากฏว่าพบรอยพระพุทธบาทอีกแห่งหนึ่งโดยไม่ตั้งใจ
คือไม่รู้กันมาก่อนนั่นเอง แม้แต่พระในวัดนี้ก็ตาม พบว่ามีพระพุทธบาทหลายรอยทั้งซ้ายและขวา
ในคืนนั้นก็ได้ทำบุญกับพระหลายรูป อันมี พระจำนงค์ เจ้าอาวาสวัดถ้ำเงิน และ พระยงยุทธ
ที่จะนำไปในวันพรุ่งนี้ด้วย รวมเป็นเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท พร้อมสังฆทาน ตอนเช้าวันที่ ๑๗ มี.ค. ๔๘ ชาวบ้านได้หุงข้าวต้มมาถวายพระ
แล้วเล่าว่าตนเองอยู่ที่นี่มาหลายสิบปีแล้ว เคยเห็นดวงไฟลอยขึ้นเป็นสีเขียวๆ ด้วย
ส่วนเจ้าอาวาสก็เล่าว่า มีพระบางรูปจะมาปักกลดใกล้ๆ ถ้ำเงินไม่ได้ จะต้องมีการย้ายออกมาไปคืนนั้นทันที คิดว่าบริเวณนี้คงเป็นที่สำคัญ
จึงได้เดินไปที่ถ้ำเงินเห็นเป็นรูเล็กๆ ที่ทะลุเข้าไปในโขดหินใหญ่ ปากถ้ำมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ ๑ คืบ ลึก ๑ ฟุต
แล้วยังมีรอยพระหัตถ์ประทับอยู่บนหินถ้ำเงินอีกด้วย
หลังจากทำพิธีบวงสรวงบายศรีกันแล้ว พระยงยุทธได้นำไปที่ ห้วยสังเคียบ (ตาดน้ำย้อย) บ.เหล่าภูพาน ต.แซงบาดาล อ.สมเด็จ
จ.กาฬสินธุ์ ต้องเดินไปตามริมห้วยบ้าง ไหล่เขาบ้าง ลัดเลาะไปตามอ่างเก็บน้ำ เดินประมาณ ๑ ชั่วโมง จึงจะถึงบริเวณที่เรียกว่า ตาดเมย
ชาวบ้านที่นำทางมาด้วยบอกว่า แถวนี้มีรอยเมย หรือรอยกระทิงอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ในระหว่างที่ค้นหากันอยู่นั้น แทนที่จะได้พบรอยเมยอย่างเดียว
กลับได้พบรอยพระพุทธบาทเกือกแก้วเบื้องซ้ายโดยบังเอิญ พอจะหายเหนื่อยกันบ้าง เพราะเดินถือเครื่องบูชากันไปด้วยความลำบาก คงไม่เสียเวลาเปล่านะ
จึงพอมีเรี่ยวแรงเดินกลับไป
ในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์ยังมีรอยพระพุทธบาทอีกหลายแห่ง ตามบัญชีที่ ท่านประทักษ์ ส่งมาให้ แล้วก็มีรายการของ
ท่านสุพจน์ อีกด้วย จึงช่วยให้พบรอยพระพุทธบาทเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อรวมกับข้อมูลจากในหนังสือพิมพ์ ข้อมูลจาก คุณซ้ง -
ปุ้ย ที่พบจากห้องข่าวช่อง ๕ และจากในอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
นับตั้งแต่ปี ๒๕๓๖ - ๒๕๔๙ เป็นเวลาสิบกว่าปีนี้ ในขณะนี้นับจำนวนพระธาตุ ๖๐๐ กว่าแห่ง ส่วนรอยพระพุทธบาทได้ ๔๐๐ กว่าแห่ง
ผู้เขียนกำลังลุ้นจะให้ครบ ๕๐๐ แห่ง ในครั้งนี้ โดยเฉพาะทางภาคอีสานพบรอยพระพุทธบาทมากกว่าภาคอื่นๆ
(ขอพักเหนื่อยนั่งฉันเพลในกระต๊อบกันก่อน............................จากนั้นก็เดินหารอยพระพุทธบาทกันต่อ)
ฉะนั้นพอรถขึ้นไปถึงบนเทือกเขาภูพาน ในเขตอุทยานแห่งชาติภูพาน ท่านประทักษ์ก็นำเข้าไปที่ บ้านแก้งกะอาม ต.ผาเสด็จ อ.สมเด็จ
จ.กาฬสินธุ์ พอจอดรถแล้วเดินเลี้ยวซ้ายเข้าไปที่แก้งกะอาม พลันก็มีฝนโปรยลงมาเป็นเม็ดใหญ่ๆ ตกลงมากระทบใบไม้แห้งเสียงดังเหมาะแหมะๆ
แล้วก็โปรยลงมาเรื่อยๆ
ทั้งที่ขณะเริ่มเข้าหน้าร้อน แล้วก็ผ่านมาจากที่อื่นๆ ก็ไม่มีปรากฏการณ์เช่นนี้ ครั้นได้ลองนับลำดับรอยพระพุทธบาทที่ผ่านมาทั้งหมด ปรากฏว่าที่
แก้งกะอาม นับเป็นลำดับที่ ๕๐๐ แห่งพอดี มิน่าถึงได้มีฝนโปรยลงกระทันหัน คือเป็นจังหวะเดียวกับที่พวกเราเดินเข้าไป
เวลานั้นน้ำแห้งจึงได้พบรอยพระพุทธบาทเกือกแก้ว ทั้งซ้ายและขวาอยู่กลางลานหินหลายรอย จึงได้สักการบูชาแล้วเดินทางไปที่
ธุดงคสถานจ้อก้อ บ.สร้างแก้วน้อย ต.สร้างค้อ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ ต้องเดินขึ้นไปบนยอดเขา เดิมก้อนหินพระบาทอยู่ข้างล่าง
พอมีการสร้างถนน จึงต้องสกัดแล้วยกขึ้นมาไว้บนนี้
สำหรับพระพุทธบาทรอยนี้ ในระหว่างเดินขึ้นเขาก็มีฝนโปรยลงมาอีกเหมือนกัน นับเป็นก้อนหินใหญ่พอสมควร มีรอยเดิมอยู่บ้าง แล้วมีการแต่งนิ้วเท้าภายหลัง
เป็นรอยเบื้องขวา กว้าง ๓๖ ซ.ม. ยาว ๘๒ ซ.ม. เด็กสองคนที่นำทางขึ้นมาเล่าว่า ข้างบนนี้ผีดุกลางคืนไม่กล้าขึ้นมา บางทีเห็นเป็นงูใหญ่ก็มี
แต่บนยอดเขาสูงนี้ก็ยังมีสำนักสงฆ์อยู่ด้วย
ในวันนั้นไม่พบพระรูปใดเลย จึงให้รางวัลเด็กนำทาง ๒ คน แล้วเดินลงมาประมาณ ๑๐ นาที จึงจะถึงที่จอดรถไว้
แล้วก็ดีใจที่ได้พิชิตยอดภูจ้อก้อเป็นผลสำเร็จ (ภูจ้อก้อแห่งนี้ เป็นคนละแห่งกับวัดภูจ้อก้อของ หลวงปู่หล้า) เพราะค้างตั้งแต่ปีที่แล้ว
ในปีนี้ใกล้จะปิดบัญชี จำต้องแข็งใจเก็บให้หมด
ขณะที่เขียนอยู่นี้เป็นช่วงเข้าพรรษาปี ๒๕๕๐ จะพยายามเรียบเรียงภายในประเทศให้หมด แล้วจะเขียนเรื่องที่ไปประเทศต่างๆ ต่อไป คิดว่า
หนังสือรวมเล่ม ๔ น่าจะเป็นเล่มจบ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่จบนะ ยังต้องไปอ่านต่ออาทิตย์หน้าตอนไปถึง น้ำตกคำเตย
บ.บ่อแก้ว อ.นาคู จ.กาฬสินธุ์
◄ll กลับสู่ด้านบน
|
|
|
|
Posts: 2041 |
Registered: 8/1/08 |
Member Is Offline |
|
|
|
posted on 18/4/08 at 15:49 |
|
(Update 18 เม.ย. 2551)
น้ำตกคำเตยอยู่ใกล้ถนน ห่างจาก "ภูจ้อก้อ" ไม่กี่กิโลเมตร ได้พบรอยพระพุทธบาทเกือกแก้วด้านขวา ๒ รอย อยู่ในลำธารข้างสะพาน
เดินข้ามต่อจากนั้นก็ไปที่ น้ำตกตาดทอง ต. หนองผือ อ.เขาวง จ.กาฬสินธิ์ ก่อนทางลงไป น้ำตกมีป้ายเขียนบอกว่า เต่าทอง ๓ พี่น้อง
| |
| |
ปรากฏว่าเป็นก้อนหินรูปเต่า ๓ ก้อนเรียงกัน จากนั้นก็เดินลงไปที่น้ำตก แต่ไม่เห็นมีน้ำตกสักหยด เพราะเป็นหน้าแล้ง น้ำจึงไม่ตกมาให้เห็นเลย
แต่ก็เป็นผลดีในการสำรวจ สามารถตรวจดูได้ทั่วลานหิน จึงพบรอยเกือกแก้วข้างซ้าย ๑ รอย ส่วนรอยอื่นๆ ก็ไม่ชัดเจน
| |
| | <
เมื่อกราบไหว้บูชากันแล้ว จึงกลับออกมาได้นิดหน่อยก็เข้าไปที่ วัดป่าศิลาอาสน์วนาราม ซึ่งอยู่ใกล้กับน้ำตกตาดทอง ด้านหน้าวัดมี
ศาลเจ้าพ่อตาดทอง อยู่ด้วย จึงเข้าไปถามพระที่อยู่ในวัดท่านบอกว่า บริเวณลานหินนี้เคยเป็นน้ำตกเก่า มีถ้ำอยู่ข้างล่าง
| |
พวกเราทั้งพระและฆราวาส จึงช่วยกันสำรวจทั้งที่ไม่มีข้อมูลมาก่อน คือไม่มีรายการเดินทางสำหรับสถานที่นี้ แต่ที่แวะเข้ามาเพราะชื่อแปลกดี
แล้วก็เห็นมีศาลเจ้าพ่ออยู่ด้วย จึงทำให้สงสัยว่าจะมีรอยพระพุทธบาทหรือไม่ ปรากฏว่าพบได้จริงๆ พระที่วัดบอกนึกว่าเป็นหลุมธรรมดาจึงไม่ได้สนใจ
ผู้เขียนจึงอธิบายลักษณะพระพุทธบาทเกือกแก้วให้ท่านเข้าใจ เป็นรอยเบื้องขวาขนาดใหญ่ กว้าง ๔๕ ซ.ม. ยาว ๑๑๕ ซ.ม. พระรูปนี้เป็นชาวจันทบุรีได้บอกอีกว่า
ข้างบนเขานี้ยังมีรอยพระพุทธบาทอีก แต่ต้องเดินข้ามเขาไปเป็นกิโล อีกทั้งยังเคยเห็นดวงไฟลอยไปมาในบริเวณนี้ด้วย
ความจริงรอยพระพุทธบาทแห่งนี้เกือบตกสำรวจไปแล้ว จึงถือว่าโชคดีที่จะได้บันทึก เข้าไว้ในทำเนียบรอยพระพุทธบาททั่วชมพูทวีปต่อไป ตอนนี้ก็เกิน ๕๐๐
แห่งไปแล้ว คงจะไม่หมดเพียงแค่นี้ เพราะยังมีต่อที่อยู่ริมลำห้วยข้างร้าน สวนอาหารริมธาร บ้านกุดตูม อ.เขาวง สถานที่นี้
ท่านถาวร (คำ) เป็นผู้พบ
| |
รอยพระพุทธบาทอยู่ในลำห้วยเล็กๆ มีชื่อว่า ห้วยวังชุม โขดหินที่มีรอยพระบาทก็มี ลักษณะคล้ายหัวเต่า หน้าแล้งจะอยู่สูงเหนือน้ำ
เป็นรอยเกือกแก้วขวา กว้าง ๓๐ ซ.ม. ยาว ๗๘ ซ.ม. ลึก ๓๐ ซ.ม. ภรรยาเจ้าของร้านบอกว่า
สมัยก่อนตอนเด็กๆ ยายเคยเล่าให้ฟังว่า ได้ยินเสียงฆ้องกับเสียงกลองดังขึ้นในบริเวณนี้ และเวลาหน้าน้ำฝนจะมาแรง ก้อนหินจะมีเสียงดังเตือนขึ้นก่อน
หรือจะมีงูว่ายไปตามน้ำก่อนไม่เกิน ๒ วัน น้ำก็จะมามากจริงๆ
ต่อเมื่อถามว่า โยมไม่รู้หรือว่าก้อนหินนี้มีความสำคัญอย่างไร โยมก็บอกว่าไม่รู้ จึง ได้อธิบายให้เข้าใจกันว่า อย่าโยนสิ่งของลงไปข้างล่าง
เพราะเป็นรอยพระพุทธบาทเกือกแก้ว พยายามรักษาให้สอาดไว้เป็นที่เคารพกราบไหว้ แล้วจะมีแต่ความเจริญ หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปพักค้างคืนที่
วัดป่าภูน้อย ต.เหล่าไฮงาม อ.กุฉินารายณ์ จ. กาฬสินธุ์ ท่านจะเด็ด เป็นเจ้าอาวาส เคยอยู่ที่วัดท่าซุงมาก่อน
ได้พบรอยพระพุทธบาทใหม่ ไม่นานมานี่เอง คืนนั้นได้ร่วมทำบุญกับท่าน ๒,๐๐๐ บาท
รุ่งเช้าวันที่ ๑๘ มี.ค. ๔๘ จึงได้ไปที่รอยพระพุทธบาทที่อยู่ห่างจากวัดประมาณ ๑ กิโลเมตร อยู่บนเขาไม่สูงมากนัก เป็นรอยที่อยู่บนลานหินตามธรรมชาติ
แต่ท่านจะเด็ดได้ ให้ช่างมาแต่งนิ้วเท้าและธรรมจักร เป็นรอยที่ใหญ่มาก กว้าง ๑๐๐ ซ.ม. ยาว ๒๐๐ ซ.ม. เป็นรอยเบื้องขวา
ด้านข้างมีพระพุทธรูปแกะสลักด้วยศิลาองค์หนึ่งอยู่ด้วย
ในเช้าวันนี้อากาศข้างบนแจ่มใสลมแรง จึงได้ออกเดินทางต่อไปที่ วัดถ้ำบ่หลบ ต.เหล่าไฮงาม อ.กุฉินารายณ์
เดิมสถานที่นี้ไม่มีอยู่ในโปรแกรม บังเอิญไปพักที่ถ้ำเงิน แล้วได้พบพระ รูปหนึ่งท่านบอกอยู่ที่นี่มีรอยพระพุทธบาท และมีรอยเท้าสัตว์มากมาย
ขณะที่ไปถึงไม่พบพระอยู่ภายในวัดเลย
จึงเดินขึ้นไปบนข้างผนังหินกันเอง ข้างหลังห้องน้ำพระเห็นรอยพระพุทธบาทเบื้องขวาใหญ่มาก ตะแคงอยู่ริมผา ลักษณะไม่มีรอยนิ้ว
แล้วได้เดินต่อไปอีกก็ได้พบเป็นรอยเกือกแก้วเบื้องซ้ายอีกรอยหนึ่ง และมีบ่อน้ำอยู่กลางลานหินหน้าวัด แต่ถ้ามองไกลไปอีก
จะเห็นก้อนหินก้อนหนึ่งวางเทินอยู่อีกก้อนหนึ่ง คล้ายที่ ภูพระบาท (บัวบก) อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี...
◄ll กลับสู่ด้านบน
|
|
|
|
Posts: 2041 |
Registered: 8/1/08 |
Member Is Offline |
|
|
|
posted on 12/5/08 at 23:17 |
|
|
|
|
Posts: 2041 |
Registered: 8/1/08 |
Member Is Offline |
|
|
|
posted on 26/5/08 at 12:05 |
|
|
|
|
Posts: 2041 |
Registered: 8/1/08 |
Member Is Offline |
|
|
|
|
|
"เว็บตามรอยพระพุทธบาท" ได้รับลิขสิทธิ์จาก พระอาจาย์ชัยวัฒน์ อชิโต เพื่อเผยแพร่รูปภาพและข้อมูล จาก "หนังสือตามรอยพระพุทธบาท" จึงขอสงวนลิขสิทธิ์ตาม พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.๒๕๓๗ และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐
ห้ามคัดลอกข้อมูล, ภาพ, เสียง ออกไปเผยแพร่ หรือนำไปโพสในเว็บใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเสียก่อน
เว็บไซต์นี้แสดงผลได้ดีกับโปรแกรม Internet Explorer, Window Media V.9, Flash Player
ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 768 pixels ความเร็วอินเตอร์เน็ต 1 Mbps. ขึ้นไป
ถ้าพบข้อผิดพลาดใดๆ หากจะแนะนำ หรือติชม และสอบถาม ติดต่อ "ทีมงานเว็บตามรอยพระพุทธบาท"
เริ่มเปิดเว็บไซด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551
Copyright @ 2008 tamroiphrabuddhabat.com All rights reserved
|
|
|
|