ถ้าพบข้อผิดพลาดในเว็บไซด์ จะแนะนำและติชม หรือสอบถาม ติดต่อที่ WEBMASTER
 
VISITORS


     







Not logged in [Login ]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites  
[*] posted on 28/8/08 at 11:23 Reply With Quote

หลวงพ่อตอบปัญหา ออนไลน์ ตอน 2


« ตอนที่ 1« ตอนที่ 3 « ตอนที่ 4

(Update 28 ส.ค. 51)

๑๐๑. สร้างส้วมให้วัด


ผู้ถาม - กราบนมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง หลวงพ่อเจ้าขาไม่ถามมากหรอกค่ะ ถามนิดเดียวแต่เพียงว่า ผู้ที่เป็นเจ้าภาพห้องน้ำห้องส้วมห้องสุขาให้แก่วัด จะมีผลานิสงส์ เป็นประการใดเจ้าคะ

หลวงพ่อ - เกิดไปชาติหน้ามีแต่ส้วมไม่มีบ้านอยู่นอนในส้วม เขาเรียกว่าสุขาน่ะ แปลว่า บรรเทาความทุกข์คนอื่น ต่อไปเราก็มีแต่ความสุขไม่มีความทุกข์ ก็สนองกัน

หลวงพ่อ - เป็นทุกข์มาก ทุกข์ที่ขา เวลาปวดขึ้นมาต้องรีบเดิน



๑๐๒. จองสร้างส้วมแล้วไม่ทํา


ผู้ถาม - กระผมได้เคยมีศรัทธาเป็นเจ้าภาพ จองสร้างส้วม ไว้กับพระองค์หนึ่ง เมื่อ ๕๖ ปีที่แล้ว ต่อมาเกิดไม่ศรัทธา เพราะในปฏิปทาของท่านไม่เป็นที่สบอารมณ์ เลยไม่จ่ายสตางค์ ก็เลยมานั่งตรึกตรองว่า อารมณ์ชนิดนี้มันเป็นบุญหรือเป็นบาป รับปากแล้วไม่ทํา ครั้นจะทําก็ไม่สบายใจ

หลวงพ่อ - ก็ไม่เป็นไร เดิมทีเรารับจะทําเพราะปฏิปทาเป็นที่ชอบใจเรา มาตอนหลังมีปฏิปทาเป็นที่ไม่ชอบใจ ทําบุญแล้วมันก็ไม่เต็ม คนที่ทําบุญจะของดีก็ตาม ของเลวก็ตาม ถ้าทําแล้วมีอานิสงส์เลิศเหมือนกันหมด อย่างอนาถบิณฑิกเศรษฐี เขามีปลายข้าวต้มมีน้ำผักดองเป็นกับ ถวายพระพุทธเจ้ากับพระอรหันต์ ปรารภว่าทานของตนเศร้าหมองเสียแล้ว

ภายหลังพระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า การถวายทานด้วยของเลวก็ตาม ของดีก็ตาม ถ้าเจตนาครบ ๓ กาล คือ ก่อนจะถวายตั้งใจถวาย ขณะถวายก็เต็มใจถวาย ถวายแล้วก็ปลื้มใจ อย่างนี้มีอานิสงส์เลิศทั้งหมด ก็เป็นอันว่า ถ้ามีเจตนาครบ ๓ กาล มีอานิสงส์เลิศนะ ถ้าขาดจุดใดจุดหนึ่งก็พร่องไป



๑๐๓. จองสร้างโรงเรียนแล้วขอยกเลิก


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เมื่อปีประมาณ พ ศ ๒๕๓๓ ตั้งใจจะทําบุญสร้างโรงเรียน ในโครงการของสมเด็จพระสังฆราชแห่งหนึ่ง ลูกแจ้งความจํานงไว้ว่าทําบุญทั้งหมด ๕๐,๐๐๐ บาท คอยอยู่นานหายเงียบเลย ลูกก็เลยโทรศัพท์ไปขอยกเลิก เพื่อจะเอาเงินนั้นไปทําบุญการกุศลอย่างอื่นไป คิดว่าจะทํากลับกลอกอย่างนี้ จะมีโทษจะมีบาปกรรมหรือไม่ ถ้ามีโทษมีบาปกรรมอะไร หลวงพ่อก็ช่วยใช้วิธีแก้ไข ให้ลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ - ไม่มีอะไรเป็นบาปนะ เราตั้งใจจะให้แต่ท่านไม่มารับ อาจจะมีการนัดแนะกันละมั้ง

ผู้ถาม – มีนัดแนะแต่ไม่มารอรับ

หลวงพ่อ - ไม่มารับ เราก็ทําอย่างอื่น เราก็ได้บุญต่อไปอีก



๑๐๔. ซื้อโอ่งน้ำถวายวัด


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา ลูกเดี๋ยวนี้ทําบุญแบบใหม่คือว่า วัดไหนไม่มีโอ่งน้ำ ลูกก็ซื้อโอ่งน้ำถวาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ชอบสร้างแท็งค์น้ำ ขุดบ่อน้ำให้แก่วัดเป็นประจํา ทีนี้ก็มีอีกครั้ง ทําแป๊บน้ำท่อน้ำต่อเข้าวัด เมื่อต่อเข้าไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ปรากฏว่าลูกฝันว่าลูกไปที่วิมานของตัวเอง ปรากฏน้ำท่วมจมไปเลย ลูกก็หายใจไม่ออก ก็เลยมาปรึกษาหลวงพ่อว่า ที่ถวายไปนั้น ขอคืนได้ไหม ลูกอยู่วิมานหายใจไม่ออกเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ – หัวเราะ นี่ ประเดี๋ยวจะขอคืนน้ำแห้งอดน้ำตายนะ นั่นเขาทําให้ดูว่าการให้น้ำมันมากมายขนาดนี้ และความเป็นทิพย์ ถ้าเราไปจริง ๆ เป็นของพอดี ๆ ไม่น้ำท่วมตายหรอก

ผู้ถาม - ถ้าความเป็นทิพย์จริง ๆ ทุกอย่างจะพอดีหมด

หลวงพ่อ - จะพอดีหมด ที่บ้านฉันเหมือนกันถ้าคนอื่นไปแล้ว เข้าไม่ได้ ตั้งแต่ในบ้านยันรั้วเข้าไม่ได้เลย เพราะซ้อนกันหลายชั้น เต็มหมดเลยถามพระพุทธเจ้าว่า ผมจะอยู่ไงนี่ ท่านบอก แกเสือกทําไว้มาก ท่านบอกเอาอย่างนี้ซิแกพอใจขนาดไหนนึกตามนั้น พอนึกตามพอใจมันหายหมด เหลือพอดีๆ นั่นเขาทําให้ดู



๑๐๕. สร้างศาลเจ้าหรือสร้างวิหารทานดี


ผู้ถาม - คุณแม่ของลูกชอบทําบุญตามแบบประสาคนจีน คือ ชอบไหว้เจ้าเผากระดาษ ที่ดีไปกว่านั้น ก็คือว่า ชอบตั้งทุนมูลนิธิ ชอบตั้งศาลเจ้าในที่หลาย ๆ แห่ง เป็นจํานวนพัน จํานวนหมื่น ลูกก็เลยมีความสงสัยว่า อานิสงส์ที่สร้างศาลเจ้า ตั้งมูลนิธิ กับอานิสงส์ที่ถวายเป็นวิหารทานกับหลวงพ่อ อันไหนจะมีผลานิสงส์มากน้อยกว่ากันเจ้าคะ

หลวงพ่อ – ไอ้นี่มันต่างกันนะ ต่างกันมาก คือว่าอานิสงส์ต่างกัน วิหารทานมีอานิสงส์สูงสุดนะ แต่ว่าตั้งศาลเจ้าก็ดี ตั้งมูลนิธิก็ตามอานิสงส์ยังไม่เท่าสังฆทาน แต่ทําก็ดีนะ ไม่ใช่ไม่ดีนะ อานิสงส์น่ะมี แต่ว่าเทียบสังฆทานไม่ได้ ก็เหมือนกับ อังกุระเทพบุตร ท่านให้ทานนอกพระศาสนากับคนที่มีศีลบ้าง ไม่มีศีลบ้าง ตายไปเป็นเทวดาหางแถวในดาวดึงส์ ส่วนอินทกะเทพบุตร ถวายสังฆทานครั้งเดียว ตายไปเป็นเทวดาหัวแถวชั้นดาวดึงส์ แต่ว่าอย่าไปค้านท่านนะ ท่านทําก็ดีแล้วนะ อย่าลืมว่าถึงแม้จะมีอานิสงส์น้อย ทําบ่อยๆ ก็มาก

ผู้ถาม - แต่ถ้าหากทําในเขตพระพุทธศาสนาได้ ก็ยิ่งดีมาก

หลวงพ่อ - ใช่ ๆ เอาทั้งสองอย่างเลยดีกว่าเผื่อว่าพระช่วยไม่ทัน เจ้าช่วยก่อน เจ้าเผลอ พระช่วย

ผู้ถาม - อย่างนี้เขาเรียกว่า ตอบแบบบัวไม่ช้ำ น้ำไม่ขุ่น

หลวงพ่อ - ใช่ ๆ เพราะว่า ไม่มีน้ำจะขุ่น หัวเราะ



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 3/9/08 at 13:11 Reply With Quote


(Update 3 ก.ย. 51)

๑๐๖. พระบอกให้สร้างเจดีย์


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกได้ทราบจากหลวงพ่อและครูบาอาจารย์ที่แนะนําว่า การเจริญพระกรรมฐานนั้น เป็นการอโหสิกรรมแก่เจ้ากรรมนายเวรที่ได้ทําไว้ แต่สําหรับตัวลูกเมื่อพบองค์สมเด็จฯ แล้วท่านบอกว่า กรรมของลูกนั้น ถ้าจะให้ดีต้องสร้างเจดีย์ถวายไว้ในพระพุทธศาสนา เรื่องการสร้างเจดีย์ลูกไม่ค่อยเข้าใจ อยากเรียนถามหลวงพ่อว่า วัดท่าซุงจะมีการสร้างเจดีย์ด้วยหรือเปล่า ถ้ามีเงินน้อยจะทําอย่างไหน เหมือนกับอานิสงส์สร้างเจดีย์เจ้าคะ

หลวงพ่อ – มี

ผู้ถาม – อะไรครับ

หลวงพ่อ – บริโภคเจดีย์ไงล่ะ

ผู้ถาม – เป็นยังไงครับ

หลวงพ่อ – บริโภคเจดีย์ ก็คือพระพุทธรูป

ผู้ถาม – อ๋อ ทําไมผมจึงโง่มากขนาดนี้

หลวงพ่อ - ไม่ใช่โง่มาก เง่าเท่านั้นเอง หัวเราะ

ผู้ถาม – หนักเข้าไปอีกนะ

หลวงพ่อ - เจดีย์มีหลายแบบหลายอย่าง ใช่ไหม ถ้าพระพุทธรูป เขาเรียก "บริโภคเจดีย์"

ผู้ถาม - คนส่วนมากเขานึกว่า ไอ้แหลม ๆ นั่นคือเจดีย์

หลวงพ่อ - เจดีย์แหลม ๆ ก็มีอยู่แล้ว มณฑป หลวงพ่อสิวลี และ หลวงพ่อขนมจีน"

ผู้ถาม - อย่างสร้างพระพุทธรูปชําระหนี้สงฆ์ ก็เรียก เจดีย์โดยตรงเลยหรือครับ

หลวงพ่อ - เจดีย์โดยตรง เอาอย่างนี้ก็ได้นี่ สร้างพระพุทธชินราชในวิหาร ๑๐๐ เมตรน่ะ ร่วมสร้าง ไม่ต้องเอาทั้งองค์ ทั้งองค์แย่แน่

ผู้ถาม – แพงหรือครับ

หลวงพ่อ - ก็ไม่แพง แค่แสนสองแสนเท่านั้นเอง

หลวงพ่อ - เอาร่วมสร้างก็แล้วกัน ร่วมมากร่วมน้อยก็ถือว่าสร้าง ได้อานิสงส์ทั้งนั้น



๑๐๗. อานิสงส์สร้างพระเจดีย์


ผู้ถาม - ได้ทราบข่าวว่า หลวงพ่อจะสร้างเจดีย์พุดตานที่วัดท่าซุง เพื่อจะบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ลูกได้ร่วม บุญกับหลวงพ่อไปบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆอยากทราบว่าการบริจาค เพื่อสร้างเจดีย์นี้ มีอานิสงส์เป็นประการใดบ้างเจ้าคะ

หลวงพ่อ – เหมือนกับสร้างพระ

ผู้ถาม – เจดีย์นี่หรือครับ

หลวงพ่อ – ใช่ เขาเรียกพระเจดีย์ สร้างพระบรรจุของไม่ได้ แต่สร้างพระเจดีย์บรรจุของได้ มีทั้งพระพุทธรูป มีทั้งพระบรมธาตุ ได้หมด ที่ใส่เขาสวยมาก คือว่า คุณอภิชาต เขาสั่งมาจากฝรั่งเศส



๑๐๘. อานิสงส์การสร้างเมรุ


ผู้ถาม - ถ้ามีคนเขาสร้างเมรุถวายวัด อยากจะทราบว่า จะมีอานิสงส์อย่างไรครับ

หลวงพ่อ - อานิสงส์ถวายเมรุ พระพุทธเจ้าท่านเทศน์ไว้ที่ไหนก็ไม่รู้นึกไม่ออก แต่เมรุนี้เป็นเครื่องบําบัดความทุกข์ ของท่านผู้เป็นเจ้าภาพมาก แล้วถ้าเราถวายเมรุอานิสงส์ก็ได้ ๒ ประการ คือ ประการแรก ไปสวรรค์ ประการที่สอง ไปนิพพาน อันนี้พูดจริง ๆ นะ แต่ว่าต้องใช้กําลังใจให้ถูก

ประการแรกที่ว่าไปสวรรค์ คือว่าได้กามาวจรสวรรค์น่ะนะ ทั้งนี้ก็เพราะว่าถ้าคนที่เขาจะต้องตายขึ้นมา และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เจ้าภาพนี่ มีภาระหนักที่สุด ไหนจะเรื่องเผาศพ ไหนจะเรื่องโลงใส่ศพ ฉะนั้น ถ้าหากว่าเราทําอะไรให้ความสะดวกแก่คนอื่น เขาก็จะได้รับความสะดวกและความสุข ใช่ไหม

แต่ว่าความจริงถวายเมรุแล้ว ก็ควรถวายโลงเผาศพด้วยนะ ไม่งั้นจะเผาได้ยังไงล่ะ ที่พูดนี่ดีไม่ดีเจ้าภาพโกรธ ซื้อโลงมาถวาย หลายลูกเลย การสร้างเมรุได้ต้องอาศัยเหตุ ๔ ประการนะ คือ

๑. มีเมตตา ความรัก เมรุนี่ไม่ใช่บาทสองบาท มันเป็นหมื่นเป็นแสนนะ เงินจํานวนนี้ กว่าเราจะหามาได้มันก็แสนยาก ใช่ไหม ทีนี้การจะเสียสละเงินเป็นหมื่นเป็นแสนได้นี่ จิตจะต้องประกอบด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างหนึ่ง และมีจิตเมตตา แก่บุคคลผู้ทุกข์ยากอย่างหนึ่ง

๒. ต้องมีกรุณา ความสงสาร ถ้าไม่สงสารก็สร้างเมรุให้ไม่ ได้ใช่ไหมเพราะต้องลงทุนมาก เพราะสงสารว่าเขาจะมีความทุกข์ คิดว่าเขาจะไปตั้งเมรุที่ไหนเดี๋ยวนี้ค่าเช่าเมรุพันสองพันเขาไม่เอาแล้ว เอาถึงหมื่นแล้ว ปัจจุบันเป็นแสน

๓. มุทิตา มีจิตอ่อนโยน คือไม่อิจฉาริษยาคนที่ใช้เมรุเผาศพ จะนึกว่ากูลงทุนมึงมาใช้เมรุกู ไม่ได้นึกอย่างนั้น พลอยยินดีในความดีของเขา ที่มีความกตัญญูต่อผู้ตาย

๔. อุเบกขา ถ้าบังเอิญเมรุมันจะชอกช้ำขึ้นมาบ้าง ก็ทําใจวางเฉย ไม่โกรธ

คนที่ทรงพรหมวิหาร ๔ อย่างนี้ ถ้ามีอารมณ์อย่างอ่อน พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ตายแล้วไปสวรรค์ ถ้ามีกําลังใจอย่างกลาง ตายจากความเป็นคนก็ไปเป็นพรหม

ทีนี้ถ้าใช้วิปัสสนาญาณควบคุมด้วยว่า คนที่ต้องมาถูกเผา ที่เมรุของเรา ก่อนนี้เขามีชีวิตเหมือนเรา เกิดมาแล้วเป็นเด็กเท่าเรา เป็นผู้ใหญ่เท่าเรา แล้วก็ตายเหมือนกัน ก็คิดว่าร่างกายของคน มันเป็น อนิจจัง หาความเที่ยงไม่ได้ ทุกขัง เมื่ออยู่ก็มีแต่ความทรมาน ในที่สุดร่างกายก็ตาย คนเราถ้าไม่เกิดมามีร่างกาย เมื่อไรมันก็ หมดทุกข์ ตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า "เตสัง วูปะสะโม สุโข..." ถ้ายังมีร่างกายอยู่ก็ทุกข์ จิตก็เลยตัดสุขส่วนที่เป็นโลกีย์วิสัย ตั้งใจไปนิพพานอย่างนี้ไปนิพพานเลยตัวอย่าง พระยส กับพวกไงล่ะ พระยสนี่ท่านเป็นสัปเหร่อสาธารณะท่านมีเพื่อน ๕๕ คน ก็เป็นสัปเหร่อสาธารณะเหมือนกัน หมายความว่าถ้าใครตายขึ้นมา ถ้าไม่มีทุนหรือไม่มีญาติ ท่านเป็นผู้จัดการเผาให้โดยไม่คิดเงิน คิดทองเป็นแบบนี้ตลอดมา



๑๐๙. อานิสงส์ช่วยสร้างวัด


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คุณพ่อมน อินตุ้ม ของลูกท่านตายไปเมื่ออายุ ๘๒ ปี สมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ ท่านเป็นช่างไม้เก่งมากเจ้าค่ะ ท่านเคยสร้างหอสวดมนต์ สร้างโรงเรียน สร้างส้วมให้แก่วัดโดยไม่ได้คิดเงินเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว บัดนี้ท่านก็ตายไปเรียบร้อยแล้ว ลูกขอถามว่า การที่ช่วยเหลือสร้างหอสวดมนต์ก็ดี กุฏิก็ดี ห้องส้วมก็ดี ผู้ที่ตายไปอย่างนี้ จะได้ผลานิสงส์อย่างไรประการใดเจ้าคะ

หลวงพ่อ - เขาถือว่าร่วมในการสร้าง วิหารทานก็แรงงานเขาไง แรงงานก็เหมือนเงิน ใช่ไหม ก็อย่างกับนายช่างของ ท่านมาฆะมานพนะ วิษณุกรรมเทพบุตรนะ นั่นนายช่างเขาตายไป แล้วเขามีวิมานอยู่ เป็นเทวดามีนามว่า วิษณุกรรมเทพบุตร แต่แค่ช้างช่วยลาก ช่วยหิ้ว ช้างหิ้วได้ไหมยกนะ หัวเราะ ยกแล้ว ก็หิ้วล่องแล่งๆ ไป ก็ไปเกิดเป็นเอราวัณเทพบุตรมีวิมาน

ผู้ถาม – เขาว่าเอราวัณนี่ ไปเกิดเป็นช้างหรือว่าไม่ใช่ครับ

หลวงพ่อ - เอราวัณไปเป็นเทวดา เวลาพระอินทร์ต้องการช้างก็แปลงเป็นช้าง สมัยที่อยู่เมืองมนุษย์เป็นช้างหัวเดียว พอเป็นเทวดาเป็นช้างสามหัว หัวงอก หัวเนรมิตไง สร้างเอาเอง และก็ในงาก็มีสระน้ำสระน้ำก็มีต้นบัวดอกบัว ดอกบัวก็มีหลายดอก แต่ละกลีบบานออกมา มีนางฟ้ากลีบละ ๗ องค์ ฟ้อนรํา แสดงว่าเป็นช้างตัวใหญ่มาก ถ้าตามบาลีว่าอย่างนั้นนะ เป็นเนรมิตนะ

ผู้ถาม - ถ้าอย่างนั้นพ่อเขาตาย คงจะมีอานิสงส์ไม่มีปัญหา



๑๑๐. อานิสงส์ขนทรายเข้าวัด


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกอยากจะทราบว่า การขนทรายเข้าวัด กับการสรงน้ำพระนั้น จะมีอานิสงส์เป็นประการใดเจ้าคะ

หลวงพ่อ – ต่างกันเยอะ

ผู้ถาม - มีอีกนิดนะครับ ถ้าลูกขนปูนขนเหล็กเข้าวัดบ้าง จะมีอานิสงส์เหมือนกับขนทรายหรือเปล่าเจ้าคะ

หลวงพ่อ - ไม่เหมือน ๆ อ้าว ขนปูนขนเหล็กเข้าวัดท่าซุง มีอานิสงส์มาก

ผู้ถาม – งั้นทําบุญเรื่องอื่นก็ไม่ได้เรื่องซินี่

หลวงพ่อ - ฮ้า ได้เรื่อง ทําไมล่ะ

ผู้ถาม - เมื่อก่อนเห็นว่าขนทรายดียังงั้นได้ผลยังงี้ เอ้า คราวนี้มาเกิดขนเหล็กดีกว่า ขนปูนดีกว่า

หลวงพ่อ - ฉันไม่ได้บอกว่าดี ฉันบอกเฉพาะเข้าวัดท่าซุง เข้าวัดอื่นฉันไม่ได้ ก็มีอานิสงส์ทุกอย่างหมือนกัน เป็นวิหารทาน เหมือนกันนะ ทรายก็วิหารทาน เหล็กก็วิหารทาน ปูนก็วิหารทาน แต่ว่าเขาขาดอย่างไหน เราให้อย่างนั้นจะดีมาก

ผู้ถาม – ตกลงว่า อานิสงส์ได้ทั้งนั้นนะครับ

หลวงพ่อ - ใช่ๆ



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 13/9/08 at 10:05 Reply With Quote


(Update 13 ก.ย. 51)

๑๑๑. ไม่อยากให้หลวงพ่อสร้างวัดเสร็จ


ผู้ถาม - หลวงพ่อครับ กระผมได้ยินผู้เฒ่าผู้แก่บอกว่า เจ้าอาวาสวัดท่าซุงถ้าทําการก่อสร้างเสร็จเมื่อไหร่ ท่านต้องเสร็จทันที วัดอื่น ๆ เคยสังเกตมาหลายแห่งแล้ว พอสร้างเสร็จ ก็เสร็จทุกที

หลวงพ่อ – ไม่จริงหรอก ไม่จริง วัดหลวงปู่ธรรมชัยไม่ทันเสร็จ หลวงปู่ธรรมชัยเสร็จไปแล้ว หัวเราะ

ผู้ถาม – โอ้ จริงนะ มีตัวอย่างเลย

หลวงพ่อ - ใช่ ๆๆ หลวงพ่อปานสร้างวัดยังไม่ทันเสร็จ ก็เสร็จไปแล้ว เอามาจากไหน ไม่ต้องอ่านต่อไปหรอก

ผู้ถาม - นี่เขาเป็นห่วงหลวงพ่อ เขาบอกอยากจะให้หลวงพ่อ เว้นกระเบื้องไว้สักแผ่นหนึ่ง เพื่อจะได้ไม่เสร็จ

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้แล้วกัน เป็นหนี้เขาสัก๕๐ ล้าน จะได้ตาย ไม่ลงเจ้าหนี้บอกแช่งห้ามตาย ๆ กลัวไม่ได้สตางค์

ผู้ถาม - แต่จริง ๆ แล้วไม่เกี่ยวไม่เสร็จอะไร

หลวงพ่อ – ไม่เกี่ยวกัน

ผู้ถาม - จะตายไม่ตาย เกี่ยวกับอายุขัยหรืออะไรครับ

หลวงพ่อ - วาระมันเข้ามาถึง แต่พวกนี้ไม่ค่อยจะเป็นไปตามอายุขัยไขแล้วไม่ออก

ผู้ถาม – แล้วหลวงพ่อ

หลวงพ่อ - ฉันไขมานานแล้ว ไม่ยอมออก

ผู้ถาม - แต่ยังไงๆ หลวงพ่อต้องนึกถึงลูกหลานตาดําๆอุตส่าห์หาเงินหาทองมาถวายหลวงพ่อเสมอๆ ถ้าจะคิดจะไปขอให้

หลวงพ่อ - โอ้ย นี่เป็นเรื่องไม่ยาก ถ้าฉันไปนิพพานได้นะ ว่าง ๆ จะโปรยสตางค์มาให้เต็มโลกเลย ให้มันเข็ด นี่น่าจะตายนะ โรคคราวนี้หนักมาก เมื่อเดือนก่อนหมอมาเช็ค เขาบอกว่าหนักมากก็หนักใจ ที่ญาติโยมเห็นว่าฉันดี ๆ นี่ความจริงมันไม่ได้ดีหรอก นี่ สังขารุเปกขาญาณ อย่าลืมญาณนี้นะ ถ้าสังขารุเปกขาญาณช่วยไม่ได้ก็เจ๊ง ที่ยังพูดได้ยิ้มแย้มแจ่มใสได้ ก็เป็นเรื่องสังขารุเปกขาญาณเขา

ทีนี้มาเที่ยวนี้แกมาตรวจรู้สึกว่า ทุกอย่างมันเริ่มทํางานขึ้นมาอย่างกับไตเริ่มทํางานขึ้นมาบ้าง ลําไส้เริ่มทํางานขึ้นมาบ้าง แกก็ยิ้มได้ แกก็บอกว่า ทีแรกฉันหนักใจมาก ทีนี้เขาพูดกันเป็น ภาษากวางตุ้ง

ผู้ถาม – อ๋อ นี่หลวงพ่อปฏิบัติปฏิสัมภิทาญาณ

หลวงพ่อ – ไม่ใช่ ปฏิสัมตุ้ง เขาพูดเป็นภาษากวางตุ้งเขาคิด ว่าฉันไม่รู้ ไอ้ฉันน่ะพูดไม่ได้แต่เดาได้ แต่เดาตรง กับเขาเขาเล่าให้ฟัง บอกฉันเข้าใจแล้วที่คุณพูดวันนั้นน่ะ

ผู้ถาม – อ๋อ เดาได้ถูกต้องเสียด้วย

หลวงพ่อ - ใช่ ๆๆ เคยหากินมานานแล้วเรื่องนี้ วิชาเดา



๑๑๒. ทําบุญวันเกิดหลวงพ่อ


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าคะ ในวาระที่จะเป็นวันเกิดของหลวงพ่อ ลูกควรจะถวายอะไร ทําบุญแบบไหน และจะสงเคราะห์หลวงพ่ออย่างไร ๑ให้หายป่วย ๒ให้อายุยืน ๓ให้หลวงพ่อยิ้มตลอดกาลเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ - แย่ ไอ้สองข้อหลังนี่แย่ อายุยืน ยิ้มตลอดกาล เมื่อยตายเลยหัวเราะ นั่งเนิ่งไม่ได้ ยืนอย่างเดียว โอยพ่อคุณเอ๊ย พรนี้ไม่เอาแล้ว หนอยไอ้เราขายิ่งแข็งก้าวไม่ค่อยไหวแล้วให้ยืนต่อหัวเราะ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ทําบุญตามใจชอบ ถ้าชอบอย่างไหนทําแบบนั้นนะ ผู้ถาม หมายความว่าชอบใจผู้ถวายเป็นเกณฑ์อย่างนั้นหรือครับ

หลวงพ่อ – ใช่ ให้ทําบุญตามใจชอบว่า เวลาที่เราจะไปได้จะได้ ตามใจชอบ หากว่าเราทําบุญฝืน ไอ้การทําบุญให้ทานนี่มันมีทานบารมีนะ ๑ ทาสทาน ๒ สหายทาน ๓ สามีทาน ทานนี่แปลว่าการให้ ทาสทาน ให้ของที่เลวกว่าที่เรากิน เราใช้ สหายทาน ให้ของเสมอกับของที่เรากินเราใช้ สามีทาน ยกผัวให้เขาไป หัวเราะ

ผู้ถาม – ความจริงแปลอย่างนั้นหรือครับ

หลวงพ่อ - ไม่ใช่แปลอย่างนั้น แปลส่งเดช ไอ้สามีนี่เขาแปลว่านาย เขาไม่ได้แปลว่า ผัว คือของที่ดีกว่ากินดีกว่าใช้ เราใช้ของราคา ๑๐ บาท ให้ทานราคา ๒๐ บาท นี้เป็นต้นนะ เรียกว่า สามีทาน สามีนี่เรียกผัวไม่ถูก ผัวนี่ศัพท์ บาลีเขา ปติ นี่แปลว่า ผัว เข้าใจผิดนะ สามีแปลว่านาย ฉันเห็นเป็นขี้ข้าทุกรายหัวเราะ เจ้าบ่าว เจ้าผู้เป็นบ่าว หัวเราะ

ผู้ถาม – หลวงพ่อนี่โชคดีนะครับ รอดพ้นจากคําว่าเจ้าบ่าวไปได้

หลวงพ่อ - ใช่ ๆๆ ความจริงฉันแต่งงานหลายครั้งนะ จริง ๆๆ

ผู้ถาม - ไหนว่าบวชตั้งแต่สมัยหลวงพ่อปาน จนกระทั่งปฏิบัติ

หลวงพ่อ - นั่นแหละ แต่งงานบ่อย เขานิมนต์ไปในงาน แต่งงานนะ หัวเราะ

ผู้ถาม – อ๋อ ไม่ได้ซักละเอียดลออ

หลวงพ่อ – ไม่ใช้พระนิมนต์พระ แหม แต่ว่าไปงานไหนไม่สําคัญไปงานแต่งงานนะ กว่าจะกินได้ โอ้โฮ คอยเจ้าบ่าว เจ้าบ่าวไม่มามันก็ให้กินไม่ได้ ไอ้เราก็โทรมซิ ตั้ง ๔ โมงเช้าพระครูโว วัดดาวดึงส์ เป็นหัวหน้า ท่านเสียงดังใช่ไหม พอไปถึงปั๊บ นั่งเดี๋ยว เฮ้ย กูหิวโว้ย เอาข้าวมาเลี้ยงพระ โคตรพ่อโคตรแม่มึง ตายห่าแล้ว มึงมัวคอยเจ้าบ่าวพระหิวตกนรกตายห่า ทรมานพระ จริงของท่าน ความจริงนั่นเรื่องจริง ๆ เจ้าภาพลงนรกแน่ ให้พระหิว ทรมานพระ เวลาเขามีอยู่ หลังจากนั้นมาไม่ต้องห่วง ทุกงาน พอไปปั๊บข้าวราดแกงมาแล้ว ไม่ต้องพูดอีก แหม ได้ผล

อนึ่ง ทายกบางคนกล่าวถวายทานนานเกินไป หลวงพ่อ จึงให้ข้อคิดในเรื่องนี้ไว้ว่า การทําบุญแล้วไม่ได้บุญ

มีทายกคนหนึ่งแกกล่าวถวายทานชั่วโมงกว่านะ พระสวดเสร็จกว่าจะให้ฉันน่ะ

"อิเมหิ สักกาเรหิ..."คําอธิษฐานเป็นบาลี ยาวเหยียด ตั้งนาฬิกาไว้ครึ่งชั่วโมงกว่าแล้วก็วันนั้นหลวงพ่อ วัดชัยนาทท่านไปฉันด้วย ท่านก็หิวซิ กว่าจะลงมือสวดได้ก็สายแล้วใช่ไหม อีตาสุ่มก็ถวายเสร็จก็พรรณนาอธิษฐานต่าง ๆ ท่านก็หิวซิ ท่านก็ด่า ไอ้แม่สุ่มพรรณนาโคตรพ่อโคตรแม่ พระหิวมึงตกนรก มึงว่านิดหน่อยก็พอแล้ว หรือให้ประเคนเฉย ๆ ก็ได้

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาตาสุ่มสั้นจี๋ หัวเราะ แหม แก้ไขได้องค์เดียว ก็ไม่ได้นึกถึงความจริง พระไปฉันตามบ้านน่ะ ไม่ตรง ตามเวลาอยู่แล้ว พอไปถึงถ้าชาวบ้านไม่ดีนี่ บาป ไม่ใช่ได้บุญหรอก พอถึงพระสวดกว่าจะจบก็สายแล้ว ดีไม่ดีก็คอยคนแก่อีกคนสองคนยังไม่มาถวายของไม่ได้ ไอ้นี่ลงนรกแหงๆ พระนั่งหิวไป แน่ คุณไม่ต้องห่วง ฉันขอยืนยัน



๑๑๓. ทานบารมีเต็ม


ผู้ถาม – หลวงพ่อครับ ฆราวาสนี่มีทางทําให้ทานบารมีเต็มไหมครับ

หลวงพ่อ – มี ก็พระพุทธเจ้าท่านเคยเป็นฆราวาสมาก่อน ฆราวาสที่เขาฟังเทศน์จบเดียวเป็นอรหันต์น่ะ เขาเต็มทุกอย่างทั้ง๑๐ อย่างเต็มหมดแล้ว แต่ว่าคําว่า สาวก เขาแปลว่า ผู้รับฟัง ถ้าไม่รับฟังคําสอนนี่บรรลุอรหันต์ไม่ได้เหมือนกับน้ำที่เต็มตุ่มแล้ว แต่เจ้าของไม่รู้จักเปิดฝา

ผู้ถาม – ฉะนั้นที่ไม่สามารถจะบรรลุได้ อยู่ที่ว่าไม่ได้เปิด

หลวงพ่อ - ยังไม่ได้ฟัง สาวกภูมิ สาวกะ แปลว่า ฟัง ไงล่ะ

ผู้ถาม – ทีนี้ว่าจะทําบุญแบบไหน จึงจะไปเจอพระที่เปิดฝา ถูกใจและได้ผลเร็วครับ

หลวงพ่อ - ก็ทําบุญกับฉันซิ หัวเราะ เอาย่ามเปิดไว้เสมอ

อย่างถามเมื่อกี้น่ะ มันมีเหตุมีผลการรับฟังนี่ ต้องเฉพาะบุคคลที่เคยเนื่องกันมาแม้แต่พระพุทธเจ้าก็เช่นเดียวกัน ท่านไม่ใช่จะโปรดคนได้ทุกคน สังเกตไหมว่าเวลาที่จะตรวจอุปนิสัยของสัตว์ ตอนหัวค่ำน่ะ ตรวจไกลเข้ามาหาใกล้ ถ้าตอนเช้ามืดตรวจใกล้ไปหาไกล หมายความถึงว่า ตรวจตั้งแต่ใกล้ที่กุฏิยาว ไปทั่วจักรวาล ถ้าไกลเข้าหาใกล้หมายถึงว่า จากจักรวาลไปหากุฏิว่า วันนี้ใครจะบรรลุมรรคผลบ้าง ใครตกในข่ายพระญาณบ้าง ใช่ไหม

ในเมื่อพระพุทธเจ้าตรวจอุปนิสัย ทุกวันต้องพบว่าคนนั้น คนนี้ต้องบรรลุมรรคผลอยู่ที่ไหน ชื่ออะไร บุญเก่าทําอะไรไว้ จะไปพูดว่ายังไง จึงบรรลุมรรคผล นี่รู้หมด แต่ทว่าถ้าตรวจอีกครั้งอีก จุดว่าเราจะไปก่อนเองดีหรือให้ใครไปก่อน คนนี้เคยเนื่องกับเราหรือเปล่า ถ้าเคยเนื่องกับพระองค์ก็โปรดเอง ถ้าไม่เคยเนื่องกับพระองค์ พระองค์ก็ทรงดูก่อนว่า พระอยู่กับท่านมีใครบ้างไหมที่เคยทําบุญร่วมกับคนนี้มาก่อน

ถ้ารู้ว่าองค์นั้นเคยทําบุญร่วมกันมาก่อน ใช้องค์นั้นไปก่อน เขาจะพูดกันรู้เรื่องง่าย ในเมื่อองค์นั้นไปแล้วเรียกว่าทะเลาะกันก่อน ไม่ใช่ดีกันนะ โต้กันไปเถียงกันมาเถียงไปเถียงมา แพ้ แพ้พระใช่ไหม

ทีนี้พระพุทธเจ้าก็เสด็จเหาะไปเลย เหาะไปเดี๋ยวนั้นเลย เหาะไปแล้วก็ลงไปนั่งข้าง ๆ พระองค์นั้นก็เข้าไปกราบว่านี่คือ อาจารย์ของเราพราหมณ์นั้นเลยนึกว่า ลูกศิษย์เก่งขนาดนี้ อาจารย์จะเก่งมากกว่านี้ เลยรับฟังเทศน์ พอเทศน์จบก็เป็น พระอรหันต์ฉะนั้นการรับฟังการแนะนําก็เหมือนกัน เวลานี้เวลานั้นก็เหมือนกัน คนต้องเนื่องกันมาในชาติก่อน ถ้าไม่เนื่องกันมาไม่มีทางรู้เรื่อง

ผู้ถาม – ก็แสดงว่า ลูกหลานทั้งหมดที่นั่งกันประจ๋อประแจ๋นี่ ก็ทั้งเนื่องทั้งเกี่ยวกันมานะครับ

หลวงพ่อ – ก็ไม่แน่ ประเภทลองมาดูก็มี รู้ทุกวันแหละใครนั่งตรงไหนก็รู้หมด



๑๑๔. ขอวิธีวางกําลังใจเวลาทําบุญ


ผู้ถาม – อยากจะขอคําแนะนําในการวางกําลังใจเวลาทําบุญ ทุกครั้งครับ

หลวงพ่อ - ก็ตั้งใจไว้ อั๊วจะทําบุญๆ

ผู้ถาม – นี่หลวงพ่อพูดพระไตรปิฎกฉบับจีน

หลวงพ่อ - ใช่ๆๆ มันใกล้ประเทศไทย ประเทศจีนมันติดกัน

ผู้ถาม – อ๋อ ตั้งใจล่วงหน้าไว้ก่อนว่าจะทํา ๆๆ

หลวงพ่อ - ทําด้วยจิตบริสุทธิ์อานิสงส์มันสูง ทําด้วยความจําใจได้เหมือนกัน แต่ผลมันต่างกัน บุญเท่ากันเป็นเทวดาได้เหมือนกัน เป็นนางฟ้าได้เหมือนกัน แต่หน้ายู่ความเป็นทิพย์เศร้าหมองไม่เหมือนกัน มันอยู่ที่จิตนะ

ผู้ถาม – หลวงพ่อคะ ที่หลวงพ่อบอกว่าที่สมเด็จบอกว่า จะเอาของทั้งหลายทั้งโลกทําให้บารมีเต็ม แสดงว่าการทําบารมีให้เต็มนี่ ขึ้นอยู่กับของที่ถวายใช่ไหมคะ

หลวงพ่อ - ไม่ใช่ แต่ว่ามันขึ้นกับของเหมือนกัน แต่ของก็เนื่องด้วยกําลังใจ ถ้าไม่มีของให้ก็ไม่ถือว่า ทานบารมี แต่ของไม่เต็มโลก ให้กําลังใจมันเต็ม จิตพร้อมที่จะให้อยู่เสมอแต่จิตไม่คิดจะขโมยใคร ไม่อยากจะลักของใคร

ผู้ถาม – คําว่าเวลาทําบุญอย่างเรา ทําบุญด้วยปัญญาว่า ทำบุญให้ฉลาดให้บารมีเพิ่มพูนด้วย

หลวงพ่อ - คําว่าบุญ เขาแปลว่าดี ทําบุญคือทําความดีใช่ไหม บาป เขาแปลว่าชั่ว ทําบาป คือทําความชั่ว

ผู้ถาม – ทุกวันนี้นะคะ ศีลก็รักษา บุญก็ทํา แต่ทําไมยังไม่ ก้าวหน้าเรื่องธรรมะเลย พอหลวงพ่อไม่อยู่ก็ฟุ้งซ่าน

หลวงพ่อ - ก็ก้าวหน้าทุกวันหมดเรื่องหมดราวใครเขาถอยหลัง ไม่มีใครเขาเดินถอยหลัง บางครั้งบางคราวนานๆ จะเดินถอยหลังสักครั้งหนึ่งมันก้าวหน้าทุกวันเรื่อย ๆ มันแก่ทุกวัน

ผู้ถาม – พอหลวงพ่อไม่อยู่นิวรณ์ก็ครอบ เป็นคนขี้โมโห

หลวงพ่อ – ดี ไอ้นั่นดีมาก เป็นการพิสูจน์กําลังของตัว ต้องมีประสบการณ์ "เขาทราย" เมื่อคืนนี้ถ้าไม่ชกกันไม่รู้ว่าเก่ง เห็นไหม

ผู้ถาม – อ้อ ถ้าไม่ขึ้นซ้อมก็ไม่รู้

หลวงพ่อ – ใช่ ขึ้นซ้อมก็ยังไม่แน่ต้องขึ้นชกจริง นี่กรรมเก่าเข้ามาสนองจริง ๆ เราแพ้หรือชนะ มันก็ต้องชนะ บ้างแพ้บ้างเป็นของธรรมดา เพราะยังไม่หมดกิเลส

ผู้ถาม – แล้วประเภทแพ้ตลอดล่ะครับ

หลวงพ่อ - แพ้ตลอดน่ะดีมาก อ้าว ไม่ต้องนับไงเล่า หัวเราะ พอขึ้นไปก็แพ้เลย ไม่ต้องเสียเวลาซ้อม

ผู้ถาม – ข้อเท็จจริงก็มีอยู่ว่า การปฏิบัติยังขาดตกบกพร่องอย่างไรบ้าง จะได้พัฒนาขึ้นบ้างคะ

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ขาดตกบกพร่องทั้งหมดต้องใช้ค่าครูแพงหน่อย หัวเราะ

ผู้ถาม – การปฏิบัตินี่ บางทีแพ้บางทีก็ชนะบ้าง ยังไม่เป็น

หลวงพ่อ - ก็เป็นของธรรมดา ถ้ายังไม่สิ้นกิเลสเพียงใดคําว่าแพ้ ยังปรากฏ ไอ้คําว่าสิ้นกิเลส นั่นหมายถึงว่า เอาสังโยชน์ ๑๐ เข้ามาวัด ไม่ใช่เดาส่งเดชกัน การปฏิบัติถ้าไม่เข้า สังโยชน์ ๑๐ ก็ไม่ไหว ทํายังไงก็ไม่ไปไหน นั่งสมาธิกันเฉื่อยไป กูเห็นนั่นกูเห็นนี่ กูเห็นนี่ กูเห็นนั่น ไม่ได้เรื่อง

ผู้ถาม – ที่เป็นอยู่ก็รักษาศีล สมาธิไม่ค่อยได้นั่ง ถ้าเกิดตายไป จะไปนิพพานได้ไหมคะ

หลวงพ่อ – ศีล สมาธิ ปัญญา แต่มันก็ไม่แน่ลูก การใช้ปัญญามันใช้ไม่มาก เราจะรู้ได้เมื่อเวลาเราจะตาย เราฟังเรื่องนิพพานเป็นปกติ

ผู้ถาม – ทําบุญทุกครั้งก็อธิษฐานว่า ขอไปนิพพานๆๆ

หลวงพ่อ - การทําบุญกับพระ การบูชาพระ ก็ขออธิษฐานว่าไปนิพพานชาตินี้ ตายเมื่อไหร่ขอไปนิพพาน ทีนี้ถ้าเวลาเราจะตายจริง ๆ มันเกิดเบื่อร่างกายขึ้นมา เวลานั้นจิตหวังนิพพาน มันก็ไปนิพพานทันที



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 7/10/08 at 13:12 Reply With Quote


(Update 7 ต.ค. 51)

ปัญหาการรักษาศีล


๑๑๕. สมาทานศีล


ผู้ถาม - กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพ การสมาทานศีล มีวิสุง กับ ไม่วิสุง จะต่างกันอย่างไรขอรับ

หลวงพ่อ - คงไม่เหมือนกัน ต่างกันที่สุงกับไม่สุง หัวเราะ แต่ความเป็นจริงคําว่า วิสุง เขาแปลว่า ส่วน นะ ขอรับแยกเป็นส่วนๆ ปาณาก็ปาณา อทินนาก็อทินนา ถ้าไม่วิสุงละ ขอรับรวดทั้ง ๕ หรือ ๘ ข้อ ทั้งนี้ตามคําอธิบายของคณาจารย์ ถ้าแยกเป็นส่วนจะขาดเป็นตัว ถ้าไม่แยกส่วน ตัวอื่นขาด ก็จะขาดหมดด้วย
ความจริงคณาจารย์ไม่รู้จริง จริง ๆ ถ้าเราละเมิดตัวไหน ก็ขาดเฉพาะข้อนั้น จะว่าวิสุงหรือไม่วิสุงก็ตาม ไอ้ตัวที่ยังไม่ละเมิด ก็ยังไม่ขาด นี่ฉันเคยอ่านหนังสือที่เขาเขียนย่อๆ เล่มเล็กๆ น่ะ บังเอิญอ่านเมื่อเป็นเด็ก คือว่าไปตามวัด เดี๋ยวก็วิสุง เดี๋ยวก็ไม่ วิสุงฉันก็แปลกใจ



๑๑๖. รักษาศีลแล้วยังไม่รวย


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา ความจริงลูกไม่อยากค้านหลวงพ่อหรอก เพราะรู้ว่าหลวงพ่อมีปัญญามาก ฉลาดในการสอน แต่วันนี้ขอถามแกมประท้วงสักนิดหนึ่ง ในคําสอนที่หลวงพ่อว่า มีศีลแล้วจะร่ำรวย มีเงิน ไม่เป็นหนี้ มีโชคมีลาภแค่รักษา ๕ แต่ไม่พอใจเดี๋ยวนี้เพิ่มเป็น ๘ มันก็ยังจนเหมือนเดิม

หลวงพ่อ – รักษามากี่ปี

ผู้ถาม - ๒ ปี

หลวงพ่อ - โธ่เอ๋ย ก็ซวยมากี่ปี ศีลขาดมากี่ปี มันคุ้มกันหรือ คือว่ารักษาศีลจริง ๆ แค่ศีล ๕ น่ะ ๑.ค่าเหล้าไม่เสีย ๒.ค่าเจ้าชู้ไม่เสีย ๓.ค่าม่านรูดไม่เสีย หัวเราะ

ผู้ถาม - เอ๊ะ ไหนว่าพระอยู่วัดอยู่วา ไม่รู้อีโหน่อีเหน่

หลวงพ่อ - พระน่ะท่านไม่รู้ แต่ฉันรู้ มีคนไปพูดให้ฟังเลยไม่ขี้ร้อนไม่ต้องไปอาบน้ำตามห้อง หัวเราะ เรื่องที่ไม่เสียมีเยอะแยะ ทรัพย์ก็ดีขึ้น ไอ้ใจร้ายไปฆ่าเขาไปตีเขา ทะเลาะกับเขาก็ไม่มี แม้แต่ติดคุกติดตะราง ไม่ต้องเสียสตางค์ นี่ถ้ารักษามาตั้งแต่เกิดนะ ป่านนี้รวยนานแล้ว แกรักษามากี่วันนี่ ขาดทุน มากี่ปี



๑๑๗. ฆ่าผัวตาย


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างยิ่ง กระผมข้องใจเรื่อง ศีลข้อปาณาติบาต กับข้อคุณธรรม เรื่องจริงเป็นอย่างนี้ขอรับ สามีป่วยหนักด้วยโรคร้ายทรมานเป็นอย่างมาก บอกเมียฆ่าให้ตาย เพราะทรมานเหลือเกิน เมียด้วยความเมตตาผัว ก็เลยดึงสายอ๊อกซิเจนออก ปรากฏว่าผัวเรียบร้อยทันที

ทีนี้ผลจะพึงได้ คือเมียถูกข้อหาว่า เจตนาฆ่าผัวให้ตาย แต่ที่จะถามก็คือว่าอย่างนี้ ทําด้วยจิตเมตตาธรรมกับเขา อย่างนี้จะมีผลบุญผลบาปกับภรรยาอย่างไรหรือเปล่าครับ

หลวงพ่อ - เขาไม่มีโทสะนะ เขาไม่โกรธ ผลบาปที่เป็นปาณาติบาต ไม่มีเจตนาในการฆ่าไม่มี ศีลจะขาดได้ต้องตั้งใจเพื่อฆ่า และฆ่าได้สมหวัง ฉะนั้นไม่ขาดจริงข้อนี้นะ

ผู้ถาม - มีเมียอย่างนี้ก็ชื่นใจนะ แป๊บ เมื่อไรก็จัดการ ชักใจไม่ค่อยดีเสียแล้วซิ

หลวงพ่อ - เราไม่ได้สั่งไม่เป็นไร อย่าไปแกล้งพูดประชดเขานะ เขาเอาจริงๆ นะ



๑๑๘. ถ้าลูกจะทํากับพ่อบาปไหม


ผู้ถาม - ลูกอยากถามหลวงพ่อเจ้าคะ คือผู้ป่วยที่อาการต้องตายแน่ มีเครื่องช่วยหายใจอยู่ แพทย์เขาสั่งให้เอา เครื่องช่วยหายใจออก เมื่อเอาออกแล้วเขาตาย จะบาปไหมคะ

หลวงพ่อ - คนจะตายจะบาปยังไง ไม่ได้ฆ่าให้ตาย นั่นเครื่องช่วยหายใจ ถึงขืนช่วยไปก็ไม่ไหวแล้วเขาก็ต้องตาย ก็ไม่มีความสําคัญ คําว่าบาปก็ไม่มี ไม่ใช่ถ้ายังช่วยอยู่มีหวังจะฟื้น เราแกล้งเอาออก ไอ้นั่นจึงจะบาป เพราะมีเจตนานะ และไอ้การที่จะบาปนี่ ต้องมีการตั้งใจกลั่นแกล้ง หรือทําให้ตาย

ผู้ถาม - หลวงพ่อครับ ถ้าอย่างนี้ ถ้าเกิดเป็นลูกกระทําถือว่าเป็น อนันตริยกรรม ไหมครับ

หลวงพ่อ - เขาไม่บาป คุณฟังให้ดี อย่าโง่ เรื่องไม่บาปก็ไม่เป็นอนันตริยกรรม ตัดคําว่าบาปนั้น ไม่มีเสียแล้ว เวลาฟังคําพูดต้องคิดตามเขาพูดเรื่องไหน จําหัวข้อคําพูดไว้

หลวงพ่อ - เอ้า หมวด มีอะไรคุยไหมล่ะ เดี๋ยวต้องถามตํารวจ ยิงผู้ร้ายตายบาปไหม บาปไม่บาป

ผู้ถาม – บาปครับ

หลวงพ่อ – ฉันถามว่า ตํารวจยิงผู้ร้ายตาย ฉันไม่ได้ถามว่าตํารวจ ยิงผู้ร้ายเฉยๆ หัวเราะ สอบตกแล้ว ผู้ร้ายมันตายแล้ว ไอ้นี่งานก็งาน การปราบปรามผู้ร้าย ถ้าเป็นผู้ร้ายจริง เขาจําเป็นต้องยิง ยิงให้ตายใช่ไหม ถ้าถามว่ามีโทษไหม ต้องตอบว่ามีโทษ ถ้าถามว่าโทษทําบาปหนักไหม ต้องตอบว่าไม่หนักมันมีนิดเดียว เพราะกําลังบาปนี่ไม่เท่ากัน ถ้าคนที่มีคุณมาก เราฆ่า มีโทษมาก คนที่มีคุณน้อย เราฆ่า มีโทษน้อย ไอ้คนจัญไรประเภทนั้นมันไม่มี คุณเลย แต่ว่าดับคนประเภทนั้นไปได้คนหนึ่ง คนอีกกี่คนที่มีความสุข ถ้าถามบาปมากไหม คนเหมือนกันมันบาปไม่เท่ากัน หมวด นะ อย่างฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ นี่ไม่ต้องห่วงหรอก ลงอเวจีดิ่งเลยใช่ไหม ถ้าฆ่าคนที่มีคุณน้อยไปกว่านั้น ยังไม่ถึงขั้นอเวจี และฆ่าคนที่มีคุณน้อยกว่านั้นอีก ก็เบากว่านั้นอีก ถ้าฆ่า คนจัญไรแบบนั้น มันมีบ้างเหมือนกัน มันแค่มีบ้างนะโยมนะ แต่ว่าทีนี้ถ้าตํารวจทําด้วยเจตนาดีคิดว่า ถ้าทําลายคนประเภทนี้เสีย คนอีกหลายแสนคนจะมีความสุข เพราะถ้าคนคนนี้อยู่คนเดียว มีความทุกข์ใช่ไหม บุญส่วนนี้เขามี บาปส่วนนั้นเขามีนิดเดียว นี่พูดกันตรงไปตรงมานะ จะคิดว่ายิงคนเหมือนกัน มีโทษเท่ากัน นั้น ไม่เท่า ก็ว่าตามธรรมะนะ



๑๑๙. ช่วยสงเคราะห์กระต่าย


ผู้ถาม - กราบหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ข้าพเจ้า สิริ ขออุทิศทั้งหมดที่เป็นกุศลของลูกมาให้กับหลวงพ่อ และขอแบ่งสักครึ่งหนึ่ง ที่ขอแบ่งคืออย่างนี้ คือว่า ตอนนั้นหมามันกัด กระต่ายตัวหนึ่ง ใกล้จะตาย ผมเห็นเข้าก็เลยเกิดสงสาร เห็นมันเวทนามาก ก็เลยบอกว่า ฉันสงสารแกนะ ฉันจะสงเคราะห์แกนะ เอาไม้ตะบองตีปั๊ก ตายไปเลย ทีนี้ผมก็อุทิศส่วนกุศลไปแล้ว แต่มาข้องใจหน่อยหนึ่ง คือว่าการที่เรามีเมตตา ช่วยสงเคราะห์ให้เขาตายสะดวกขึ้นนี้ จะถือว่า มีบาปมีกรรมมีเวรหรือไม่ขอรับ

หลวงพ่อ - ไม่ต้องถือ มีแหง ไปช่วยมันตายเร็ว ควรจะประคับประคอง หายหรือไม่หายหรือตาย เราช่วยดีกว่า ช่วยรักษานะ ไอ้นี่แสดงว่าถ้าป่วยแหงกๆๆ มันไม่ทันจะตาย พวกฉีดยาให้ตายไปเลยนี่



๑๒๐. ทําหมันแมว


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา ความจริงลูกไม่อยากจะรบกวนหรอก เพราะปฏิบัติตามธรรมะของหลวงพ่อมาด้วยดีตลอด เช่นเมตตา เป็นต้น ทีแรกก็เก็บแมวข้างรั้วมาเลี้ยงไว้ด้วยความเมตตา บัดนี้มันแข็งแรงสมบูรณ์ และได้ขยายพืชพันธุ์เป็นการใหญ่ ออกลูกเยอะแยะ แต่ลูกไม่ว่าอะไรหรอก แต่เกรงว่าลูกจะเกิด มาเดือดร้อน ลูกก็เลยเอามันไปฉีดยาทําหมัน ก่อนจะฉีดยาทํา หมันลูกได้บอกว่า เอ็งจะมีทุกข์มาก ฉันจะแก้ทุกข์ให้เอ็งน่ะ อย่าเอาเวรเอากรรมนะ ลูกก็เลยทําบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาอีกวาระหนึ่ง ถ้าหากจะมีกรรมอันใด ก็ขอให้หลวงพ่อได้โปรดอโหสิกรรมด้วยเถิดเจ้าค่ะ เอ๊ะ ไปเกี่ยวอะไรกับหลวงพ่อ

หลวงพ่อ - ถ้าจะเห็นว่าฉันเป็นแมว หัวเราะ เป็นพระแท้ๆ เห็นเป็นแมวไปได้ เป็นหลวงปู่แมว ใช้ได้ไม่เป็นไร ไม่บาป ทําหมันนี่ไม่บาปคือกันไม่ให้เกิด ไม่ใช่ฆ่าสัตว์ ไม่ใช่มา เกิดแล้วฆ่าจึงจะบาป นี่กันไว้

ผู้ถาม - อ้อ แล้วประเภทกินยากันไว้ก่อน ก็ไม่บาป

หลวงพ่อ – ไม่บาป



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 20/10/08 at 13:59 Reply With Quote


(Update 20 ต.ค. 51)

๑๒๑. อยู่สํานักงานทําแท้ง


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา ลูกทํางานที่สํานักงานทําแท้งแห่งหนึ่ง ที่กรุงเทพฯ มีรายได้ดีพอสมควร หนูเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายรับเงิน ลูกชักใจไม่ดีนัก เพราะมีหุ้นส่วนกับเขาด้วย ขอพึ่งบารมีถามหลวงพ่อว่า ลูกจะมีบาปมีกรรมขึ้นบัญชีพระยายมหรือไม่ ข้อสอง เอาเงินเดือนจากการทําแท้ง มาทําบุญกับหลวงพ่อจะช่วยได้ไหมคะ

หลวงพ่อ - เข้าท่าๆ แหม... ฟังตั้งนาน คิดว่าจะบอกยังงี้เหมือนกัน จิตใจเกาะบุญไว้ พระพุทธเจ้าไม่เคยตําหนิใคร เรื่องอาชีพนะ อย่างกับลูกศิษย์พระสารีบุตร พระพุทธเจ้าก็รับ และยังแนะนําพระสารีบุตรไปสอนพระอภิธรรม เพราะชาติก่อนเคยฟังพระอภิธรรมมา พอฟังอภิธรรมย่อๆ จบ ก็เป็นอรหันต์ทั้งหมดฉะนั้นอาชีพก็ส่วนอาชีพ เรื่องบุญก็เป็นบุญไป แต่ว่าจิตอย่าไปเกาะอาชีพประเภทนั้น เกาะบุญอย่างเดียว มีงาน เราถือว่าทําตามหน้าที่นะ หมดเรื่องหมดราวไป

ผู้ถาม - หลวงพ่อตอบแบบนี้ ค่อยสบายใจหน่อย ไม่เช่นนั้น ละ อึดอัดๆ

หลวงพ่อ - เรื่องของพระพุทธเจ้าท่านไม่เคยตําหนิใคร ท่านก็รับทุกด้าน อย่างตัมพทาฐิกโจร เห็นไหม โจรเคราแดง ฆ่าคนมาเกินหมื่นคนพอพบพระสารีบุตรเข้า พระสารีบุตรท่านไม่พูดเรื่องฆ่าคน ทีแรกพอกินข้าวเสร็จใช่ไหม ท่านก็เทศน์เรื่อง ปาณาติบาตเลย ฆ่าคน ฆ่าปลา ฆ่าสัตว์ ตกนรกขุมไหนว่าเรื่อย ตัมพทาฐิกโจรเหงื่อแตกพลั่กๆ

พอเทศน์ไปถึงครึ่งกัณฑ์ พระสารีบุตรท่านฉลาด ท่านเทศน์ไปท่านชําเลืองดูไปเห็นตานั่นเหงื่อแตก ถามโยมไม่สบายหรือ ตัมพทาฐิกโจรบอก จะสบายยังไงครับ ที่พระคุณเจ้าเทศน์มา ผมเรียบร้อยหมดทุกขุมเลย ท่านก็เลยถามว่า โยม โยมฆ่าคนตาย ใครเขาใช้หรือฆ่าเอง บอกพระราชาใช้ให้ฆ่า พระสารีบุตรท่านฉลาดกว่า ท่านถามว่า โยม

สมมุติว่าโยมเป็นลูกจ้างเขานายจ้างเขามีนา ๑๐๐ ไร่ เขาใช้ให้โยมทํา เมื่อได้ข้าวในนาเสร็จผลของข้าวทั้งหมดจะเป็นของโยมหรือจะเป็นของนายจ้าง โยมก็บอกเป็นของนายจ้างขอรับ นี่ท่านฉลาดกว่า ท่านก็เลยถามว่า ที่พระราชาใช้ให้ฆ่า บาปตกอยู่กับใคร อีตานั่นแกโง่ แกนึกว่าบาปตกกับพระราชา พระสารีบุตรเทศน์อานิสงส์ทานเลยเป็นพระโสดาบันเดี๋ยวนั้น

ผู้ถาม - โอ เหงื่อแตกเลยนะ

หลวงพ่อ - ไอ้เหงื่อแตกน่ะ เป็นน้ำอาบชําระร่างกายให้สะอาด ชําระถึงจิตใจข้างในเลย



๑๒๒. เตี่ยมีอาชีพฆ่าหมู


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ตอนที่เตี่ยของลูกมีชีวิตอยู่ เตี่ยก็มีอาชีพในการฆ่าหมูและก็เอาไปขาย ทีนี้อีตอนที่แกแก่ๆ แกก็รู้ตัวทําบุญเป็นการใหญ่ เวลาจะใส่บาตรทุกครั้ง แกจะยกมือไหว้พระสงฆ์ก่อน ทีนี้ตอนแก่ๆ มีคนเขาบอกว่าตายแล้วจะไปตกนรก แกก็เลยใส่บาตรทุกวัน

ก่อนจะใส่บาตร แกยกมือไหว้พระ แกจะท่องคาถานี้เป็นประจํา ตัวแกจะรู้หรือเปล่าก็ไม่ทราบ แกว่าอย่างนี้ นะโม ตะสะ นะโม ตะสะ แล้วก็ใส่บาตร ใส่ทัพพีหนึ่งก็ว่า นะโม ตะสะ ใส่ทัพพีที่สองก็ว่า นะโม ตะสะ แม้จะใส่เต็มแกก็ นะโม ตะสะ ทีนี้ตอนตาย แกเห็นยมทูตมา แกก็บอก นะโม ตะสะ ปรากฏว่ายมทูตเผ่นไปเลย

หลวงพ่อ - ขนาดนั้นเขาไม่อยู่แล้ว อย่างนั้นจิตเป็นกุศล เขาไม่อยู่แล้ว เขาไม่เอาไป คือถ้ายมทูตมานี่ ยังไม่แน่จะ ลงนรกนี่ เขาต้องไปสอบสวนกันก่อน ทีนี้ถ้าแกนึก นะโม ตัสสะ ได้ พระยายมก็ปล่อย ในเมื่อแกว่าตอนนั้นไม่ต้องปล่อยให้ไปเลย สวรรค์ทันที

ผู้ถาม – แค่นี้ก็ไปแล้วหรือครับ

หลวงพ่อ - ไม่ใช่แค่นี้ หลายแค่

ผู้ถาม - ไอ้ที่แปลกใจ ไอ้หมูเหมอ ไม่มากวนตอนนั้นนะ นะโม ตะสะ นี่สามารถป้องกันได้หรือครับ หลวงพ่อ

หลวงพ่อ - ในเมื่อกุศลเข้าดลใจ อกุศลเข้าไม่ได้
นึกถึงบุญไม่ออก

ผู้ถาม - บางทีมันเพี้ยนไป นึกถึงบุญไม่ออกครับ

หลวงพ่อ - เป็นธรรมดา บางครั้งอารมณ์มันดี อย่างนี้จริงๆ เหมือนกันทุกคนนะ เหมือนกันไม่ใช่เฉพาะบุคคล บางครั้งมันจะนึกถึงบุญไม่ออกก็มี ฉะนั้นพระพุทธเจ้าจึงสอนเจริญพระกรรมฐาน ฝึกจิตให้ชินไง ใช่ไหม ฝึกจิตให้ชินคือจับอันดับแรก พระพุทธเจ้าต้องเอาก่อน อารมณ์มันชิน คําว่า "ฌาน" ก็คือ จะได้ไม่ลืม ถ้าเราปล่อยเละละเดี๋ยวมันก็เผลอ พอบาปเข้าสิงปั๊บ มันจะตัดเราลืมเลย

ทีนี้วิธีที่ท่านสอนแบบนี้กันบาปเข้าแทรก วิธีฝึกกรรมฐาน เขาฝึกให้ชินกันบาปเข้าแทรกเวลาที่เราจะตาย บาปมันจะแทรกไม่ได้ ทําบุญอย่างอื่นหนักขนาดไหนก็ตาม แต่จิตมันยังไม่แน่นอนนัก เราจะตายบาปเข้าแทรกได้ เราจะลงนรกได้ ถึงบอกว่าทําจิตให้เป็นฌานให้ทรงตัว คําว่าฌานก็คืออารมณ์ชิน มันนึกได้เรื่อยๆ ใช่ไหม การนึกถึงพระพุทธเจ้าได้เรื่อยๆ น่ะ คือ ฌาน



๑๒๓. สามีฆ่าตะขาบตาย


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา สามีของลูกเพิ่งแต่งงาน มีลูก ๑คน ๑ ขวบ สามีของลูกเป็นคนใจดีมาก ใจบุญสุนทานพอสมควร แต่เมื่อเดือนที่แล้ว แกไปเห็นตะขาบในห้องลองเสื้อ แกตีจนตาย ตายแล้วแกก็มีจิตข้องอยู่ในสิ่งนั้น แกไม่สบาย รุ่งขึ้นไม่กี่วัน มอเตอร์ไซด์ของตํารวจขี้เมาชนโป้ง ไปตายที่โรงพยาบาลตํารวจ ลูกสงสัยว่าคนอื่นเขาฆ่าสัตว์ตายมากมายไม่ต้องอายุสั้น แต่ว่า สามีของลูกฆ่าตะขาบเพียงครั้งเดียว ตัวเดียวทําไมจึงอายุสั้นเจ้าคะ

หลวงพ่อ – อย่าลืมว่าตะขาบมันมีตีนกี่ตีน

ผู้ถาม - โอ้โฮ คิดทีละตีนหรือนี่

หลวงพ่อ - หัวเราะ อย่าลืมนะ ไก่มี ๒ ขา ตะขาบมีกี่ขา นี่ฉันตอบนอกบาลีนะ แต่ว่าถ้าในบาลีถือว่า เป็นกฎของกรรมเก่า เพราะว่าเขามีวาระมาเท่านั้น เมื่อถึงเวลานั้นก็เป็นเหตุให้ต้องตาย นี่เป็นเรื่องธรรมดา



๑๒๔. กรรมกําพร้าสามี


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง สามีของลูกชื่อ นายธเนศ แซ่ด่าน ตายเมื่อวันที่ ๓๑ ธค ๓๓ ก่อนจะตายนี่ได้มีโอกาสถวายสังฆทานกับหลวงพ่อ ๕๐๐ บาท ทีนี้ที่จะกราบเรียนถามก็คือว่า การที่ลูกเกิดมาสามีต้องตายยังหนุ่ม การที่ลูกเป็นสาวต้องกําพร้าสามี กรรมประเภทนี้ทํามาจากอะไร เพื่อไม่ให้กําพร้าต่อไปในชาติหน้า ขอหลวงพ่อเมตตาแนะวิธี อย่าให้พลัดพรากจากกัน ตั้งแต่วัยยังหนุ่มยังสาวเลยเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้ซิ รักษาพรหมวิหาร ๔ ไว้เมตตาความรัก กรุณาความสงสาร มุทิตาจิตอ่อนโยน ไม่อิจฉาริษยาใคร พลอยยินดีด้วยนะอุเบกขา วางเฉย เอาอย่างนี้อย่างเดียวก็พอ เมตตาอย่างเดียวก็พอ

ผู้ถาม - แล้วประเภทที่ว่าเช้าตุ้บ เย็นตั้บ

หลวงพ่อ - อ๋อ นั่นนักมวยเก่า หัวเราะ เขาซ้อมมวยกัน



๑๒๕. ต้มไข่อย่างไรไม่บาป


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา ความจริงไม่อยากถามหลวงพ่อแต่ความจําเป็นบังคับจึงต้องถามเจ้าคะ คือว่าเพิ่งเริ่มขายของมา ๓-๔ วัน ลูกขายผักสลัดต่างๆ ที่สําคัญคือ จะต้องมีไข่ต้มด้วย ทีนี้ที่ไม่สบายใจก็เพราะว่า ไม่รู้ว่าการต้มไข่นี้จะบาปหรือไม่ และวิธีต้มแล้วไม่บาปจะเป็นประการใด ถ้าหลวงพ่อห้าม เมื่อไหร่ ลูกจะเลิกขายทันที เพราะลูกนับถือหลวงพ่อเจ้าคะ

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้ดีกว่าตรงไปตรงมานะ ไข่ถ้ามันฟักไม่เป็นตัว เราก็ไม่บาป ถ้าฟักเป็นตัวเราจึงจะบาป นี่เราสังเกตไม่ได้ ลองศึกษาดูก็แล้วกัน

ผู้ถาม - ก็ลําบาก ก็มีทางที่หลวงพ่อว่า ไข่เจ้าคะ เจ้าขา กรุณาฉันเถิด

หลวงพ่อ - หัวเราะ เอาอย่างนี้ซิ ไอ้ฟาร์มไหนที่เขาเลี้ยงไก่ โดยที่เขาไม่ผสมกับตัวผู้มันมีไหม ไก่ที่เขาเลี้ยงน่ะ ที่เลี้ยงไว้คัดเฉพาะตัวเมียเป็นราวๆเป็นช่องๆ ไม่มีตัวผู้ผสม ถ้าไม่มีตัวผู้ผสมอันนี้คงจะไม่เป็นตัว ถ้าไข่ที่ฟักไม่เป็นตัวนี่ มันไม่บาปนี่เราพูดตรงไปตรงมานะ



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 28/10/08 at 15:58 Reply With Quote


(Update 28 ต.ค. 51)

๑๒๖. สมัยก่อนไม่กลัวบาปกรรม


ผู้ถาม - เมื่อสมัยก่อนลูกไม่กลัวบาปกลัวกรรมเท่าไร เพราะว่าห่างไกลจากศาสนา พอมาเป็นศิษย์หลวงพ่อแล้ว ทําอะไรก็กลัวบาปกลัวกรรมไปหมด

หลวงพ่อ - ก็เหมือนหลวงพ่อนั่นแหละ ใหม่ๆ ก็ไม่กลัวบาปเหมือนกัน ไม่ใช่ดีวิเศษนักหรอก โอ้ย ใครจะดีมาแต่ท้องแม่เล่า เหมือนกันทุกคน ดูตัวอย่าง องคุลีมาล ซิ ท่านฆ่าคน ตั้งพันคนกว่า เห็นไหมล่ะ ครั้นต่อมาฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้าจบเดียว ไม่ช้าเป็นพระอรหันต์ อย่างตัมพทาฐิกโจร ฆ่าคนเกินหมื่นคน ฟังเทศน์จากพระสารีบุตร เพียงครึ่งกัณฑ์เป็นพระโสดาบัน นี่ถ้าจิตไม่ตามนึกถึงนะ นึกถึงความดีข้างหน้า ก้าวหน้าแล้วไม่ถอยหลัง เป็นอย่างนี้บาปตามไม่ทัน ฝึกลืมซะตั้งใจนิพานอยู่ที่ไหน เราจะไปที่นั่น



๑๒๗. เลี้ยงโคเนื้อขาย


ผู้ถาม - กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ปกติผมทํางานไปรษณีย์ แต่จําเป็นต้องเลี้ยงโคเนื้อขาย แต่มีความตะหงิดใจอยู่อย่างหนึ่งว่า ทําอาชีพอย่างนี้จะมีบาปหรือไม่ และจะเป็นการตัดรอนขวางกั้นพระนิพพานชาตินี้หรือเปล่าขอรับ

หลวงพ่อ - ไอ้เรื่องตัดพระนิพพานนี้ ฉันไม่ตอบดีกว่าเพราะไม่แน่นี่คนที่ทําบาป บางทีบาปมาจากการจองเวรจองกรรมกัน ถ้าบังเอิญชําระได้บาปก็สลายตัวไปนิพพานได้ อย่างท่านองคุลีมาล ฆ่าคนพันกว่านะ ความจริงมันเป็นอย่างนี้ ท่านฆ่ามาก่อน แต่ไม่มีนิ้วเป็นประกัน ฆ่าไปฆ่ามาก็ลืม ไม่รู้ฆ่ามาแล้วกี่คน ทีนี้เอาใหม่ ถ้าได้ ๑ คนเอา ๑ นิ้ว ได้ ๙๙๙ นิ้ว
ทีนี้ในขณะที่ท่านทําบาป ตอนท้ายก็ได้มาพบพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าบอกว่า ตถาคตหยุดแล้ว เธอยังไม่หยุดจากบาปกรรม ธรรมอันลามกอีกหรือ ท่านได้สติโยนดาบทิ้ง โยนพวงนิ้วมือทิ้ง เสยผมให้ดี แล้วเปลื้องผ้าที่หยักรั้ง เข้าไปกราบพระพุทธเจ้าขอบวช แล้วก็เป็นพระอรหันต์ มันไม่แน่นะ ที่พูดอย่างนี้เพราะตัวอย่างนี้ นั่นหมายถึงบาปที่มีการจองเวรจองกรรมกัน



๑๒๘. สนับสนุนฆ่าไก่


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ที่บ้านลูกชอบมีคนมาอาศัยโทรศัพท์ เพื่อพูดติดต่อกิจการงานบ่อยๆ อันนี้ลูกก็ถือว่าเป็นการสงเคราะห์ เพื่อความสะดวกของเขา มีรายหนึ่ง แกชอบพูดติดต่อเกี่ยวกับเรื่องไก่ ขายไก่แล้วก็ส่งเข้าโรงงาน เอาไปฆ่าทีละเป็นจํานวนมากๆ อยากจะเรียนถามว่า ลูกจะบาปหรือไม่ ไปสนับสนุนให้เขามีการซื้อไก่ขายไก่ฆ่าไก่

หลวงพ่อ – หวาน หวาน พระยายามสนับสนุนก็เหมือนกับทําเอง มีการรวมกัน "เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวว่าการตั้งใจเป็นตัว กรรม"

ผู้ถาม - อย่างสมมุติว่าเราไม่สนับสนุน ปล่อยตามเรื่องตามราวของเขา

หลวงพ่อ - ก็ปล่อยเขาไป เขาพูดก็พูดไป เราแค่รับฟัง หมดเรื่องหมดราวไป

ผู้ถาม – มีวิธีหลบได้นะ

หลวงพ่อ - ไม่ใช่หลบ ตรงไปตรงมา รับฟังเฉยๆ ว่าดีไหม ตามใจเห็นดีก็ทําเถอะ

ผู้ถาม – เป็นอันว่า ทําเป็นไม่รู้ไม่ชี้ก็แล้วกันนะ เอาแต่ค่าโทรศัพท์ก็พอแล้ว



๑๒๙. สั่งกุ้งและปลาเป็น


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ในการที่สั่งอาหารตามร้านค้า บางทีเขาก็เอาปลาเป็นๆ บ้าง กุ้งเป็นๆบ้าง แต่เวลาก่อนสั่ง ผมก็อธิษฐานอย่างนี้ว่า ผลบุญอันใดที่ได้ ทํามาแล้วแต่ในอดีต ก็อุทิศให้ล่วงหน้า แต่ว่าถ้าเป็นอาหารตายมาแล้ว ก็อโหสิกรรมซึ่งกันและกันเทอญ

หลวงพ่อ - นี่ไปอ่านเรื่องไก่เสียให้ดี ไม่ตอบละ ตอบยังไง ล่อเขาไปแล้ว เรื่องบาปก็เป็นบาป บุญก็เป็นบุญ



๑๓๐. ขโมยเงินสามีมาทําบุญ


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อมาก็นานแล้ว ยังไม่เคยรบกวนอะไรเลย วันนี้ก็ขอรบกวนเล็กๆ น้อยๆ

หลวงพ่อ – วันนี้ไม่ขอรบกวนขอปรึกษานิดหน่อย

ผู้ถาม - คือว่า ขณะนี้ลูกมียักษ์ตนหนึ่งเข้ามาสิงในใจของลูก ลูกรู้เหมือนกันว่าไอ้ยักษ์ตนนี้คืออะไร คือเป็นยักยอก คืออย่างนี้เจ้าค่ะ

หลวงพ่อ - อย่างนี้เขาดี คนที่เปิดเผยความจริงก็เป็นคนดี ถ้าไม่ดีเขาไม่เปิดเผยความเป็นจริง เอ้า ว่าต่อไป

ผู้ถาม - ก็คือว่าปกติเป็นอย่างนี้เจ้าค่ะ ลูกชอบยักยอกเงินของสามี เอามาทําบุญกับหลวงพ่อ บูชาพระ ถวายส่วนองค์บ้าง อย่างนี้เป็นต้น ก็จะเรียนถามหลวงพ่อว่า ๑.ศีลของลูกจะขาดไหม ๒.ลูกจะมีโอกาสไปสวรรค์ครึ่งนรกครึ่งหรือเปล่า เพราะบุญก็ได้ขโมยก็มี

หลวงพ่อ - ฉันว่าไม่ใช่อย่างนั้นนะ เขาไปสวรรค์ด้วยแล้วจะได้บริวารด้วย ได้สามีเป็นบริวาร เพราะอะไรรู้ไหม เพราะว่าสตางค์ของสามีแต่ภรรยามาทําบุญ สามีมีส่วนได้ ก็ไปเป็นบริวาร คือไปเป็นสามีใหม่

ผู้ถาม – นึกว่าจะไปไหน

หลวงพ่อ – ไม่ได้ไปไหน ตามเขาไป เขาได้นะ

ผู้ถาม – ทีนี้ว่าจะผิดศีล หรือเปล่าครับ

หลวงพ่อ - ไม่ผิด ๆ สามีภรรยาคนเดียวกัน



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 18/11/08 at 13:54 Reply With Quote


(Update 18 พ.ย. 51)

๑๓๑. เอาของหลวงที่เหลือมาใช้ส่วนตัว


ผู้ถาม - กระผมขอปรึกษา กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง กระผมเป็นข้าราชการในสถานที่แห่งหนึ่ง วันที่เขาเบิกพัสดุไปไว้ ก็ปรากฏว่าเมื่อเหลือแล้วจะเอามาเข้าคงคลัง เจ้าหน้าที่บอกว่า แทงบัญชีไว้จําหน่ายจ่ายไปหมดแล้ว ให้ไปใช้ได้เป็น ส่วนตัว กระผมไม่สบายใจ เพราะเป็นของหลวง คิดว่าจะเอาถวายวัดจะดีกว่า จะได้ไม่มีกรรมไม่มีเวรซึ่งกันและกัน เรียนถาม หลวงพ่อว่า ผมจะทําอย่างนี้จะถูกหรือไม่ครับ

หลวงพ่อ – ก็ถูก คนเฝ้าเขาให้แล้วนี่ ก็เรื่องคนนั้น เล่นหุ้น

ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกได้เล่นหุ้นมาเป็นเวลาช้านานแล้ว ก็ปรากฏผลว่าเป็นที่น่าพอใจ มีกําไร ลูกเดียวไม่เคยขาดทุน แต่ทนไม่ได้ที่จะสงสัยในฐานะเป็น ลูกศิษย์หลวงพ่อว่า การเล่นหุ้นนี่จะผิดศีลหรือไม่ครับ

หลวงพ่อ - ไม่ผิด ไม่ผิดหรอก ไม่ผิด ไม่มัวหมอง

ผู้ถาม - แล้วลูกนําเงินจากกําไรม าถวายหลวงพ่อ ถวายสังฆทาน ถวายส่วนตัว ก็

หลวงพ่อ - โอ๊ย มีอานิสงส์ ๑๕๐ เปอร์เซ็นต์ เล่นหุ้นเขาตรงไปตรงมานี่ ซื้อขายธรรมดา

ผู้ถาม – เอากําไรมาทําบุญ ได้ผลสมบูรณ์แบบ

หลวงพ่อ – สมบูรณ์เต็มอัตรา




๑๓๒. ถูกล้วงกระเป๋าเป็นนิจ


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง หลวงพ่อขา

หลวงพ่อ – นี่ไม่มีแต่ขา แขนก็มีนะ หัวเราะ

ผู้ถาม – อ๋อ คือว่าทําไมคะ ชีวิตของลูกมันกรรมหนักเหลือเกิน ทําบุญก็มาก ทํามาตั้งแต่อายุ ๓๐ กว่าแล้วนะ ขณะนี้ก็ ๖๐ แล้ว ศีลก็รักษาภาวนาก็มีทุกอย่างทั้งหมด แต่ว่าชอบโดนล้วงกระเป๋านี่มัน ๕ปีแล้วนะคะ

หลวงพ่อ – ไอ้นี่เป็นทานบารมี

ผู้ถาม – เป็นทานบารมีหรือครับ

หลวงพ่อ - ใช่ๆๆ ก็ใช้หนี้เก่าเขาไงเล่า อทินนาทานาเวรมณี สี่ขา ปะธัง สมาทิยามิ

ผู้ถาม – สิกขา หรือสี่ขาครับ

หลวงพ่อ - สี่ขา คือของเรา ๒ ขา คนล้วงอีก ๒ ขา

ผู้ถาม – อ้อ พวกที่โดนล้วงกระเป๋า ของหายอะไรนี่ เป็น

หลวงพ่อ – ใช่ เรื่องนี้อทินนาทานเก่า

ผู้ถาม – ครับ ทีนี้ก็บอกว่า แล้วจะมีวิธีแก้ไขหรือป้องกันอย่างไร หรือไม่ ขอหลวงพ่อได้โปรดเมตตา

หลวงพ่อ - ต่อไปก็จงอย่าเอาสตางค์ติดตัวไป จะไม่มีขโมยล้วงกระเป๋า

ผู้ถาม - นี่วิธีแก้ปัญหาง่าย ๆ

หลวงพ่อ - ใช่ๆๆ ง่ายๆๆ ระวังไงก็ไม่ไหว พวกนี้มันเก่งมาก ขนาดเอามาให้ยังไม่รู้เลย ลุงฉันถูกล้วงกระเป๋าที่ท่าเตียน และท่านก็มีเพื่อนอยู่ที่บางลําภูใช่ไหม เลยไปหาเพื่อนที่บางลําภู บอกว่าถูกล้วงกระเป๋า เพื่อนก็ถามว่าถูกล้วงที่ไหน เวลาเท่าไหร่ บอกที่ท่าเตียน เวลาเท่านั้นเท่านี้นะ บอกว่าถ้าอย่างนั้น พรุ่งนี้ไปอยู่ที่นั่นยืนที่เดิม แต่ว่าสตางค์อาจจะบกพร่องไปบ้างนะ อาจจะเป็นได้ ถ้าคุณถูกพวกของเรานะ

ก็เป็นอันว่า ตอนเพลท่านก็ไปยืนที่เดิม และก็ในช่วงเวลานั้น มีผู้ชาย ๒ คน แบบสมัยก่อนนะ ใส่รองเท้าดําคัชชูใส่ถุงน่องขาว นุ่งผ้าม่วงใส่เสื้อราชประแตน ๒ คน เดินคุยกันมา พอไปถึงลุงเขาก็หลีกไปสองข้าง อีกคนหนึ่งกระทบไหล่นิดหน่อย เขายกมือไหว้ ขออภัยด้วยครับ ที่เลี่ยงแล้วมันไม่พ้น

ลุงก็บอกไม่เป็นไรๆครับ แล้วเขาเดินเลยไป เขาเดินไป แล้วปรากฏในกระเป๋าหนัก ๆล้วงเจอกระเป๋าสตางค์ นี่ขนาดมา ให้ยังไม่รู้เลยนะ หัวเราะ และไม่ขาดเลยนะ เงินทองไม่ขาดเลย

ผู้ถาม – นี่ก็ตกลงว่า เป็นกรรมเก่านะครับ

หลวงพ่อ - ใช่ๆๆ

ผู้ถาม - และอีกเรื่องหนึ่งคือว่าอย่างนี้ วันที่สะเดาะเคราะหครั้งก่อนที่วัดท่าซุง ก็มีหลายคนได้ให้รายชื่อ และพร้อมด้วยปัจจัยมาจํานวนทั้งสิ้น๑๓๔๐ บาท เพื่อจะเอาไปเข้าพิธีที่วัดท่าซุง ก็พอดีตาลีตาเหลือกกลัวจะไปไม่ทันปรากฏว่าเงินไม่ได้เอาไป ชื่อเขาฝากไว้ก็ไม่ได้เอาไป เวลาจะเป่าก็ใกล้มาแล้ว ลูกจะทํายังไง ลูกเลยทําอย่างนี้ เอ้า ชื่อทั้งหมดจงมาปรากฏที่ศาลา ๒ ไร่ เอ้า เงินทั้งหมดที่อยู่บ้านฉันออกแทนไว้ ก่อนเติมใหเป็น ๑๕๐๐ บาท

หลวงพ่อ – โอ๊ย ดี ๆ ๆ น่าจะเป็น ๓๐๐๐ หัวเราะ

ผู้ถาม – ให้เกินนี่ดีกว่านะ

หลวงพ่อ – อ้าว วิสาขาไงเล่า พ่อให้เท่านี้ ได้เท่าโน้น พ่อให้เท่านี้ ได้เท่านั้น ได้เกินเสมอ ทําบุญแถมทําบุญเกินแบบ นี้แหละ

ผู้ถาม - ตกลงว่าชื่อไม่ได้เอาไป และก็เงินของเขาไม่ได้เอาไป ลูกเอาเงินแทนไปอย่างนี้ เขาจะมีผลหรือเปล่า

หลวงพ่อ – มี ส่วนที่เป็นนามธรรมนี่มี แค่นึกถึงก็พอแล้ว

ผู้ถาม – แค่นึกถึงก็สมบูรณ์แบบ

หลวงพ่อ - ใช่ ๆ ๆ



๑๓๓. ลืมกระเป๋าสตางค์


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ลูกลืมกระเป๋าสตางค์บนรถเมล์ มีสตางค์มากพอสมควร มีเอกสารเป็นอย่างมากลูกกลับถึงบ้านแล้วไม่รู้จะทําอย่างไร เงินไม่ค่อยเสียดายเท่าไหร่ เสียดายบัตรประชาชนกับเอกสาาร ลูกจุดธูปที่บ้านต่อหน้ารูปถ่ายของหลวงพ่อ ไม่ได้บอกหลวงพ่อ แต่ขอความเมตตาหลวงพ่อว่า ขอได้โปรดไปตามกระเป๋ามาคืน

หลวงพ่อ – หัวเราะ อ้อ ความจริงควรเขียนว่าไม่ได้ใช้ขอความเมตตานิดหน่อย หัวเราะ เอ้า ว่าต่อไป

ผู้ถาม - ผลปรากฏว่ารุ่งขึ้น มีคนนํากระเป๋ามาให้พร้อมทั้งสตางค์เสร็จ เมื่อเป็นเช่นนี้ ลูกก็เลยอยากจะเรียนถามหลวงพ่อว่า ลูกควรจะแบ่งเงินในกระเป๋าถวายค่าครูหลวงพ่อ สักเท่าไหร่เจ้าคะ

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้ดีกว่านะ อย่าคิดเงินในกระเป๋าเลยนะ เอาเป็นราคาค่าครูเฉยๆ ก็แล้วกันนะสัก ๕ ล้าน หัวเราะ ไม่จําเป็นเท่าไหร่ก็ได้ไม่ทําก็ได้

ผู้ถาม – เอ๊ เวลาหลวงพ่อตามกระเป๋ามา หลวงพ่อตามด้วยวิธีไหน ตามแบบไหนครับ

หลวงพ่อ – ก็สงสัยเหมือนกัน หัวเราะ เพราะอะไรรู้ไหม วันหนึ่งหลายเจ้า ท่านที่เหนื่อยมากที่สุดคือ กรมหลวง ชุมพรฯ พอของหายปั๊บใครเขาบอกไป เอ้า กรมหลวงฯ หา ให้เขาหน่อย ช่วยหน่อย ๆ



๑๓๔. ชอบเจอกระเป๋าสตางค์


ผู้ถาม – หลวงพ่อขอรับ กระผมเป็นคนดี เพราะนับถือหลวงพ่อ ปฏิบัติตามคําสอนของหลวงพ่อ เป็นคนมีโชคประหลาด ชอบเจอกระเป๋าสตางค์ใครตกอยู่เสมอเป็นประจํา ขอบอกตรงๆ ว่า เอามาทําบุญกับหลวงพ่อเรียบหมดไม่เหลือหลอ ผ่านมางวดที่แล้วมีความจําเป็นเลยเอาซื้อหวย หวยกินหมดเลย ต่อนี้ไปลูกจะไม่ซื้ออีกแล้ว เอามาถวายหลวงพ่อดีกว่า เงินที่เก็บตกเอามาทําบุญ แล้วขออุทิศให้แก่เจ้าของ ไม่ทราบว่าเจ้าของไม่รู้ไม่ทราบ จะมีผลหรือ ไม่ครับ

หลวงพ่อ – มีได้ มีส่วนเงินของเขา



๑๓๕. พี่เป็นขี้ขโมย


ผู้ถาม - กราบนมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ขอพึ่งบารมีหลวงพ่อเล็กน้อยดังต่อไปนี้ คือว่า พี่ของลูกชอบขโมยของภายในบ้าน อะไรก็แล้วแต่ไม่ว่า จะเป็นของมีค่าไม่มีค่าก็ตาม ขโมยไม่ได้เอาไปไหน ส่วนมากก็ถวายพระหมด ทีนี้ชักจะไม่ดีอย่างหนึ่งแล้วก็คือว่า จะทําท่าขโมยโฉนดถวายวัด ก็กลัวจะไม่มีที่จะอยู่อาศัย ก็เลยอยากจะขอบารมีหลวงพ่อช่วยแนะลูก จะได้ไปป้องกันสถานการณ์

หลวงพ่อ – เดี๋ยวก่อน โฉนดขโมยไปก็ไม่มีผล มันต้องโอนกัน และการจะโอนจะต้องประกาศก่อนใช่ไหม ใครจะคัดค้านหรือเปล่า ไม่เป็นไร เอาอย่างนี้ซิ บอกให้เขาขโมยไปถวายวัดท่าซุง ฉันจะเก็บไว้ให้แต่ค่ารักษาไม่มากหมื่นสองหมื่นก็พอ หัวเราะ ก็ไม่เป็นไร ก็เก็บไว้ดีซินะ อย่าให้แกขโมยได้นะความจริง คนนี้ก็มีอารมณ์เป็นกุศล แต่ว่ามันพลาดไปนิดหนึ่ง คือว่าไม่พร้อมกัน ใช่ไหม

ผู้ถาม - ทีนี้อย่างขโมยของไปทําบุญ ผลบุญจะกระดักกระเดื่องอย่างไร

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้นะ คนคนนี้นะ จะว่าเฉพาะจริยาที่ปฏิบัติใช่ไหม อารมณ์เป็นกุศลเป็นปกติ แต่ว่าไอ้สิ่งที่มัน มีอยู่มันไม่พอกับกําลังใจอย่าทําอย่างนั้นนะ ถ้าตายด้วยกําลังใจแบบนี้ สวรรค์แน่ แต่อย่าขโมยต่อไปนะ



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 27/11/08 at 10:37 Reply With Quote


(Update 27 พ.ย. 51)

๑๓๖. ถูกขโมยงัดบ้านเรื่อย


ผู้ถาม - กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพ คือว่าหมู่นี้ลูกโชคดีตลอด เดือนหนึ่งถูกขโมยงัดบ้านหลายครั้ง วิทยุ โทรทัศน์ ไอ้โน่น ไอ้นี่ แต่ลูกก็คิดว่าเป็นกฎของกรรม คือ ชอบผิดศีลข้อ ๒ เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็เกิดความไม่สบายใจว่า ต่อไปข้างหน้ามันจะขโมยอีกหรือเปล่า

หลวงพ่อ - ความจริงคนนี้ดีนะ เข้าถึงอริยสัจ

ผู้ถาม - หลวงพ่อ ของหายยังมีอริยสัจ อีกหรือครับ

หลวงพ่อ – อ้าว อริยสัจมันขึ้นอะไร ขึ้น ทุกข์ ของหายก็เกิดเป็นทุกข์แล้ว ในอริยสัจ ทีนี้ต่อไปเหตุให้เกิดทุกข์ คือ สมุทัย เพราะมีของมาก ถ้าเราไม่มีของ ขโมยมันจะเอาอะไร ใช่ไหมล่ะ ต่อไปก็ นิโรธะ ความดับทุกข์ เพราะหมดแล้ว ไม่รู้ จะใช้อะไรแล้ว ต่อไปก็ มรรค แสวงหาต่อไป ไม่หาก็ไม่มีใช้

ผู้ถาม – อ๋อ เป็นอริยสัจอย่างนี้เองนะ

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้สิ ลองใช้คาถาของพระพุทธเจ้าท่านนะ ตั้งใจว่าเป็นสมาธิสัก ๓ นาที "ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กิงกะระณัง ฆะเฏสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ" บทนี้ท่านบอก สมัยเมื่อท่านจุลปัณถก เป็นลูกมหาเศรษฐี ใช่ไหมเรียนกับอาจารย์ เรียนยังไงก็เรียนไม่ได้ เขาเรียนวิชาการต่างๆ แต่องค์ นี้เรียนไม่ได้ ปัญญาทึบ

ต่อมาเมื่อตอนจะกลับบ้าน ตอนอยู่ปฏิบัติอาจารย์ดีมาก อาจารย์ก็เห็นใจ ลูกศิษย์คนนี้ กลับบ้านไม่มีอะไรไปเลย ควรจะสนองความดี จึงสอนคาถาบทนี้ แค่นี้ท่องยัน ๗วันได้ แกก็ได้มาเท่านั้น

ต่อมาอยู่ที่บ้าน มีวันหนึ่งขโมยมันจะเข้าไปลักของในบ้าน พระเจ้าปเสนทิโกศลเดินเข้าไปตรวจเวลากลางคืน ก็เห็นคนมันขุดรั้วจะเข้าไป ท่านก็นั่งดูคิดว่า ถ้าเข้าไปจริงจะสั่งเจ้าหน้าที่จับ

ท่านจุลปัณถกท่านตื่นขึ้นมาก็ท่องคาถา ฆะเฏสิ ฆะเฏสิ กิงกะระณัง ฆะเฏสิ อะหังปิตัง ชานามิ ชานามิ ขโมยเปิดหนีเลย เพราะคาถาบทนี้ ต่อมาท่านจุลปัณถกได้เป็นพระอรหันต์ ลองไปใช้ดูนะ สมัยปัจจุบันนี้มีคนไปใช้หลายราย เขาบอกว่าขโมยจะปล้นร้าน ปรากฏว่า ไม่มีใครเข้าปล้น

ผู้ถาม – อย่างนี้ก็ประตูประเตอ ไม่ต้องปิด

หลวงพ่อ - ไม่ต้องปิด ขโมยยิ้มร่า ขโมยกลัว กลัวความดี ขนหมด



๑๓๗. ลูกชอบขโมยเงินวิระทะโย


ผู้ถาม - ลูกชายของดิฉัน อายุ ๑๔ ปี ชอบขโมยเงินวิระทะโย ไปเสมอๆ ลูกกลัวว่าจะเป็นบาปเป็นกรรม หลวงพ่อมีคําแนะนําอย่างไร เพื่อจะชําระหนี้ที่ทําไปแล้วบ้างคะ

หลวงพ่อ - ความจริงก็คงไม่เป็นไรละมั้ง ขโมยแล้วก็แล้วกันไป เพราะถือว่าเงินจํานวนนี้ ยังไม่เป็นของสงฆ์โดยตรง ก็ไม่ใช่ของแม่โดยตรงแล้ว เป็นของให้ระหว่าง เหมือนเรื่อง กากะเปรต กากะเปรตก็แบบนี้แหละ เขาจะนําไปถวายไปทําบุญที่วัด จับอยู่บนหลังคาศาลาบินโฉบไปกิน ๓ คํา ตายจากความเป็นกา ไปเป็นเปรต หัวเป็นกาไฟไหม้ทั้งตัว ถูกหอกแทง ลอยไปในอากาศ ตามบาลีบอกว่า ของนั้นจะถือเป็นของสงฆ์ก็ไม่ใช่ของนั้น ยังไม่ได้ประเคน จะถือว่าเป็นของชาวบ้านผู้ให้ก็ไม่ได้ เพราะขาดแล้ว ตั้งใจแล้วของระหว่างกลางเจ้าของกับของสงฆ์ จึงเกิดแค่เป็นเปรตไงล่ะ ไม่งั้นก็ลงอเวจีไป



๑๓๘. ขโมยไก่วัด


ผู้ถาม - หลวงพ่อขอรับ เมื่ออายุประมาณ ๓๒ ปี เพื่อนๆ ก็ขโมยไก่วัดมาตัวหนึ่ง แต่แล้วทุกคนที่ไปร่วมกันขโมย มาไม่กล้าฆ่า ผมแสดงความสามารถ จัดการให้เพื่อนจับขาคนละขา จับปีกแล้วผมก็เจี๋ยน เมื่อจัดการไปแล้วรู้สึกสบายใจ ต่อมาฟัง หลวงพ่อพูดเกี่ยวกับเรื่องกรรม เรื่องเวร เรื่องนรก ชักจะไม่สบายใจเสียแล้ว ผมได้ทําบุญทํากุศลอุทิศไปให้หลายครั้ง จะได้รับหรือไม่ ก็ไม่ทราบ ผมอยากจะถามหลวงพ่อว่า จะมีวิธีทําอย่างไร จะได้ไม่เจอเขาอีกในชาติต่อๆ ไปขอรับ

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ เป็นวิธีที่ง่ายและเบาเวลาบูชาพระทุกครั้ง ทําบุญทุกครั้ง อุทิศส่วนกุศลให้ บอกเขาให้อโหสิกรรมนะ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป จนกว่าจะเข้านิพพาน อย่างนี้มันเบาใจ ไม่ช้าก็สลายตัว



๑๓๙. เคยปล้นวัด


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงสุด ในอดีตที่ผ่านมา กระผมเป็นคนไม่ดี เคยปล้นวัด เอาพระพุทธรูปไปขายมากมาย บัดนี้สํานึกบาปสํานึกผิดแล้ว จึงต้องมาพึ่งบารมีหลวงพ่อ นับเป็นที่พึ่งสุดท้าย กล่าวคือกระผมจะต้องชําระหนี้สงฆ์กี่ครั้ง และจะต้องชําระหนี้สงฆ์ประการใด กรรมเวรที่เคยปล้นวัด จึงจะอโหสิกรรมให้ขอรับ

หลวงพ่อ - ค่อยๆ ชําระไปก็แล้วกันนะ ถ้าถามว่าเท่าไร ต้องเท่ากับจํานวนเงินที่นําของมา ค่อยๆ ผ่อนสบายๆ ก็แล้วกัน ถ้าถามว่าทําบุญอย่างไร เออ วันนี้ท่านถึงเตือนเรื่อง อนุสสติตอนที่เขาเจริญพระกรรมฐานกัน พระพุทธเจ้าท่านเตือนว่า ทุกคนให้มั่นคงในอนุสสติจะไม่พลาดหวัง คือ
๑. มรณานุสสติคิดว่าชีวิตนี้จะต้องตาย
๒. ก่อนที่เราจะตายต้องยอมรับนับถือ พระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์
๓. พยายามตั้งใจรักษาศีลให้บริสุทธิ์
๔. จิตใจตั้งไว้เพื่อนิพพานโดยเฉพาะ

ผู้ถาม – อ๋อ อย่างนี้ค่อยผ่อนหนักผ่อนเบาได้บ้าง

หลวงพ่อ – อันนี้ไม่ผ่อนหรอก ไปได้เลย ถ้าทําตามนี้ได้มั่นคง หลบได้เลย แบบตัมพทาฐิกโจร ไง่ล่ะ



๑๔๐. กลัวผิดศีลข้อ ๓


ผู้ถาม - กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพ ก่อนที่ดิฉันจะแต่งงานกับสามีคนสุดท้าย ไม่รู้เรื่องว่าเมื่อก่อนเขาเคยมีเมียมาแล้ว ลูกก็เลยได้เสียกับเขาจนกระทั่งปัจจุบันนี้ ลูกอยากถามว่า เมื่อลูกรู้ภายหลังอย่างนี้ จะเรียกว่าศีลขาดข้อ กาเมสุมิจฉาจาร หรือเปล่าเจ้าคะ

หลวงพ่อ - เจตนาแย่งในตอนต้นเขาไม่มี เขาไม่รู้ ไม่ผิดหรอกนะ

ผู้ถาม – อ๋อ ถ้าไม่มีเจตนา ไม่เป็นไรหรือครับ

หลวงพ่อ - "เจตนาหัง ภิกขเว กัมมัง วทามิ ต้องมีเจตนา ศีล นี่ต้องตั้งใจ ถ้าขาดความตั้งใจ ไม่เป็นการละเมิด



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 23/12/08 at 10:53 Reply With Quote


(Update 23 ธ.ค. 51)

๑๔๑. ทําผิดกาเม


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา ลูกขอสารภาพเป็นครั้งแรกเจ้าค่ะ คือว่าลูกมีครอบครัว มีความจําเป็นในครอบครัวเกี่ยวกับเรื่องการเงิน ลูกเลยไปทําผิดกาเมสุมิจฉาจารกับชายคนหนึ่ง ต่างคนต่างก็รู้ว่ามันผิดด้วยกันทั้งคู่ แต่ให้เงินมาเพื่อจุนเจือครอบครัว บัดนี้ลูกสํานึกผิดที่ได้กระทําไปแล้ว เพื่อจะเป็นการลบล้างบาปที่ก่อไว้ขอให้หลวงพ่อแนะทางออกให้ลูกสักครั้งเถิดเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ - ก็ตั้งใจคิดว่า ๑.ชีวิตนี้จะต้องตาย ประการที่ ๒. ยอมรับนับถือพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ ต่อไปก็ประคองจิตให้ตรงในศีล ค่อยๆ ประคองนะ มันพลาดบ้าง อะไรบ้างไม่เป็นไร เท่านี้ใช้ได้เลย บาปเก่าๆ ไม่มีแรงดึง ตามไม่ทัน ไอ้เรื่องผิดพลาดเป็นของธรรมดาของทุกคนเหมือนกัน



๑๔๒. รักง่ายหน่ายเร็ว


ผู้ถาม - หลวงพ่อค่ะ ปกติลูกก็เป็นคนดี ทําบุญทํากุศลทุกอย่าง รักษาศีลเจริญภาวนา แต่มีนิสัยเสียอยู่นิดคือว่า เป็นคนรักง่ายหน่ายเร็ว คือว่าชอบเป็นชู้กับสามีคนอื่นเสมอๆ อันนี้ลูกก็ทราบ แต่ว่ามันแก้ไม่ตกเจ้าค่ะ ที่จะเรียนถามก็คือว่า ลูกได้ผ่านพ้นประเภทนี้มามากแล้ว ต่อไปก็อยากจะลุแก่โทษกับหลวงพ่อ ขอให้หลวงพ่อชี้ทางสว่าง เพื่อแก้กฎข้อนี้ด้วยเถิดเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ - ไม่มีอะไรมาก อย่างที่พระไปลาพระพุทธเจ้าเข้าป่าใช่ไหม แต่ว่าตอนแกจะไป แต่ทีหลังก็ท้อ ปรากฏว่ามีญาติโยมที่นั่นรู้ใจพระ รู้ใจคน นึกอะไรขึ้นมาก็ตาม นึกอยากจะกินต้มยําก็รู้ นึกอยากจะกินแป๊ะซะก็รู้อยากจะกินอะไรก็ตาม โยมทํามาเสมอ พระทั้งหลายก็รู้ว่าโยมรู้ใจคน

ทีนี้พระที่สัมผัสแบบนั้น เวลาไปเฝ้าพระพุทธเจ้าก็บอกว่า มีโยมผู้หญิงคนหนึ่ง แค่นึกเท่านั้นแหละจัดให้แล้ว พระนึกอยู่ในป่านะ โยมก็จัดมา พระพุทธเจ้าก็เลยบอกว่าผู้หญิงคนนั้นได้อนาคามี ปฏิสัมภิทาญาณ พระที่จะลาไป รู้เข้าก็ท้อ ไม่กล้าไป พระพุทธเจ้า ก็เลยบอกว่า เธอเอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เธอห้ามอะไรสักอย่างหนึ่งได้ไหม พระถามว่าห้ามอะไร ท่านบอกเอาอย่างเดียวไม่ต้องมาก พระบอกได้ พระพุทธเจ้าบอก ห้ามจิต ไม่คิดนอกลู่นอกทาง

รายนี้ก็เหมือนกัน ห้ามใจมันเสียก็หมดเรื่อง ห้ามใจได้ กายก็ไม่ไป แต่ค่อยลดมันนะไอ้นี่อย่าไปโทษกัน กฎของกรรม ห้ามไม่ได้ อย่างท่านสิริมา ไปว่าภิกษุณีเป็นพระอรหันต์เข้า จึงเป็นแบบนั้น ที่แท้จริงท่านก็เป็นคนดี ในที่สุดท่านฟังเทศน์จบเดียว ก็เป็นพระโสดาบัน แต่ว่าตอนท้ายจะตายนี่ไปนิพพาน เห็นไหมล่ะ บุญของเขามีอยู่ นี่เขาก็มีบุญมาเจริญพระกรรมฐานได้ มาถวายสังฆทานได้ ความดีก็มี แต่กรรมบางอย่างเข้ามาทับ ก็เป็นของธรรมดา

ผู้ถาม – แหม ถ้ามีโอกาสมาฝึกมโนมยิทธิได้ก็ดีนะ

หลวงพ่อ - ใช่ ๆ คนเห็นทุกข์แล้วนี่ ถ้าเห็นทุกข์ชื่อว่าเห็นอริยสัจ กําลังสูงนะ ไม่ใช่เล่นนะ และการเปิดเผยความจริงประเภทนี้ มียากแก่บุคคลทั่วๆ ไป อย่าลืมว่าตัวนี้บุญเก่าเข้าประสานมากแล้ว ใช้ได้



๑๔๓. พาลูกสาวเขาหนี


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างยิ่ง มีการเถียงกันระหว่างผมกับแฟน เรื่องศีลข้อที่ ๓ ตอนแรกไม่ได้คิดถึงศีล ตกลงสองคนพากันไปก่อน เมื่อเรียบร้อยแล้ว กลับมาขอขมาภายหลังพ่อแม่ก็โอเค แต่สงสัยว่าตอนที่พาไปกลับมาขอขมา เรียบร้อยแล้ว จะเรียกว่าผิดศีลหรือเปล่าขอรับ

หลวงพ่อ - มันจบไปแล้ว พ่อแม่อภัยให้แล้ว เลิกกัน อย่างขโมยของเขาไป ต่อมาเจ้าของบอกฉันไม่เอาโทษละ ก็แล้วกันไป



๑๔๔. ชิงสุกก่อนห่าม


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกเป็นลูกศิษย์ ของหลวงพ่อพอสมควร สมาธิลูกก็ปฏิบัติได้ มโนมยิทธิลูกก็ทําได้ ทําบุญลูกก็ทําเก่ง สังฆทานก็ทําบ่อย ครั้งละ ๕ บาท ๑๐ บาท แหม นึกว่าเก่งขนาดไหน

หลวงพ่อ - ฮะๆ ซื้อก๋วยเตี๋ยวได้ชามละ

ผู้ถาม - นึกว่าจะไม่เป็นสังฆทานนะ

หลวงพ่อ – เป็นสตางค์เดียวก็เป็น

ผู้ถาม – จะเป็นได้ยังไงครับ หลวงพ่อ

หลวงพ่อ - ก็ให้กับหมู่สงฆ์น่ะ ถ้าไม่พอใช้เวลารับจากที่อื่นมา รวมกันซิ

ผู้ถาม – อ๋อ ครับๆๆ คือเรื่องก็มีอย่างนี้ว่า ทุกอย่างนี่ ลูกปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตามหลวงพ่อครบถ้วนบริบูรณ์ ทุกอย่าง แต่ที่ลูกเสียอยู่นิดหนึ่งลูกขอสารภาพเลยว่า ลูกสมัย เมื่อเป็นวัยรุ่นลูกชิงสุกก่อนห่าม ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าจะผิดศีลหรือไม่ แต่ตอนนี้ลูกพลาดไปแล้ว ก็เลยมาปรึกษาหลวงพ่อว่า ผลเพราะปฏิบัติชอบก็ดี มโนมยิทธิก็ดี ความปรารถนามรรคผลนิพพานชาตินี้ก็ดี จะยังมีสิทธิ์หรือเปล่าเจ้าคะ

หลวงพ่อ - บุญทําแล้วไม่สลายตัวนะ ได้แล้วก็แล้วกันไปก็ขังอยู่เลยไม่ไปไหน ใช้ได้

ผู้ถาม - ไอ้ที่ผิดนี่เล็กๆ น้อยๆ หรือครับ

หลวงพ่อ – ตั้งใจผิดหรือเปล่า ทีเผลอไปน่ะ อาจจะเผลอไปไม่เป็นไรนะ อย่าให้บ่อยนักก็แล้วกัน หัวเราะ

ผู้ถาม - นี่ยังดีนะครับ ทําผิดแล้วสารภาพผิด



๑๔๕. หารายได้พิเศษ


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา ปัจจุบันนี้ลูกมีความลําบากขัดใจเกี่ยวกับเรื่องเศรษฐกิจภายในครอบครัว และลูกต้องหาโอกาสออกไปทํางานพิเศษนอกบ้าน แต่พอเวลากลับบ้านทีไร ลูกมักจะบอกว่า ไปหาพระมาบ้าง ไปโน่นบ้าง ไปคุยมาบ้าง เพราะจะบอกตรงๆ ไปหารายได้พิเศษ ผัวก็คงไม่ชอบและอาจจะทุบตี เอาในลักษณะเช่นนี้ลูกเองก็กลัวจะมีบาปมีกรรม ก็เลยแบ่งเงินนิดหน่อย มาถวายหลวงพ่อ

หลวงพ่อ - ความจริงไม่เป็นไร เราบอกว่าไปหารายได้พิเศษ เขาอาจจะโกรธก็ได้ แต่ความจริงจะหาว่าบาป มันก็ไม่บาปนะ เพราะว่าไม่ได้ขโมยใครเขานี่ เขาหาพิเศษ

ผู้ถาม – แต่ยังดีนะ มาปันผล

หลวงพ่อ - แต่ความจริงเขาไม่ปันผล เขาก็ไม่มีโทษอะไร ก็น่าเห็นใจ เพราะรายได้มันไม่พอกับรายจ่าย



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 5/1/09 at 11:31 Reply With Quote


(Update 5 ม.ค. 52)

๑๔๖. จะแต่งงานกับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว


ผู้ถาม – กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกมีความสงสัยว่า อย่างผู้หญิงคนหนึ่ง ไปตกลงแต่งงานกับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว โดยไม่ทราบว่าเขามีภรรยาอยู่แล้ว โดยฝ่ายชายบอกว่าเป็นโสด อย่างนี้ผู้หญิงคนนั้น จะผิดศีลข้อกาเมหรือไม่เจ้าคะ

หลวงพ่อ – ไม่ผิด เพราะไม่รู้ อันนี้ ถ้ารู้อยู่ผิดกาเมแน่ ถ้าไม่รู้ นี่ไม่เป็นไรนะ ศีลทุกข้อต้องมีเจตนา คือการตั้งใจ ทุกสิกขาบทนะ ตั้งใจจะทํา และทําสําเร็จสมตามความปรารถนา ตั้งใจฆ่าสัตว์ มีสัตว์ให้ฆ่า ลงมือและฆ่าสัตว์ตาย ถ้าไม่ตั้งใจ สัตว์ตายกี่ตัวก็ไม่บาป อย่างโยนของไปบ้าง เดินไปเหยียบบ้าง นี่ไม่ตั้งใจ อันนี้ไม่บาป ศีลทุกข้อต้องรู้อยู่และตั้งใจทํา จึงจะบาป



๑๔๗. เป็นภรรยา (น้อย) เขา


ผู้ถาม - กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อ อย่าหาว่ารบกวนเลยนะคะ ลูกมีสามีแล้ว เลิกกันเรียบร้อย จดทะเบียนหย่ากัน

หลวงพ่อ – เอ๊ะ จดสองจดนะ

ผู้ถาม – จดทะเบียน หมายถึงแต่งงาน จดทะเบียนหย่านี่

หลวงพ่อ – ทําสัญญาหย่า ก็จดทะเบียนเหมือนกัน

ผู้ถาม - ครับๆๆ ปรากฏว่าเมื่อหย่าแล้ว ลูกก็มาเจอชายคนหนึ่ง ก็เกิดความรักใคร่จนมีลูกด้วยกัน ลูกเป็นภรรยาน้อย ภรรยาหลวงไม่ว่าอะไร แต่พอมาเข้าซอยสายลมมา เป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ เกิดละอายใจกลัวบาปกลัวกรรม กลัวคําสั่งสอนของหลวงพ่อเป็นการใหญ่ ก็ไม่รู้จะทํายังไง มีลูกด้วยกันแล้ว อีกใจหนึ่งก็กลัวจะตกนรก อีกใจหนึ่งก็กลัวไม่ได้มรรคผลนิพพาน ก็ขอความสว่างจากหลวงพ่อช่วยแนะนําให้ลูกสบายใจหน่อยเถิด จะทํายังไงดีเจ้าคะ

หลวงพ่อ - ยกครูอีก ๒ บาท

ผู้ถาม – อ้อ มีค่าครูด้วยหรือครับนี่

หลวงพ่อ - ใช่ๆๆ ค่าสินสอดเขายังมีได้ ค่าครูทําไมมีไม่ได้ นี่ในเมื่อภรรยาหลวงเขาไม่ว่า ไม่มีโทษหรอกนะ เพราะเขาไม่หวง ไม่เป็นไรนะ

ผู้ถาม - อย่างนี้ก็ถ้าจะปฏิบัติธรรม ก็มีสิทธิ์ไปนิพพานได้

หลวงพ่อ - ใช่ๆๆ ไม่มีบาปนี่



๑๔๘. สามีเจ้าชู้


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง ไม่ทราบว่า ลูกมีบาปมีกรรมอะไรอะไรๆ ลูกก็ทําตามคําสอนของหลวงพ่อทุกอย่าง ทุกอย่างได้สมความปรารถนา เว้นอยู่อย่างเดียวเจ้าค่ะ แก้ไม่ตก

หลวงพ่อ – ทุกอย่าง แต่เว้นอย่างเดียว เอ้าว่าต่อไป ๆ

ผู้ถาม - เว้นอยู่อย่างเดียวคืออย่างนี้ สามีของลูกมันเจ้าชู้ไม่หยุดไม่หย่อน ให้กินให้บริการทุกอย่างเรียบร้อย มันก็ไม่ยอม มันก็เจ้าชู้อยู่ร่ำไป ลูกไม่รู้จะแก้ไขอย่างไร ก็อยากจะมาปรึกษาหารือหลวงพ่อ ในฐานะหลวงพ่อก็เป็นพ่อของลูก หลวงพ่อก็เป็นเพศเดียวกับสามี หาวิธีแก้ไขให้ลูกหน่อยเถิดเจ้าค่ะ โอ นี่จะคิดว่าหลวงพ่อเป็นแบบผัวของตัวรึไงพี่

หลวงพ่อ – วิธีแก้ไม่ยาก หามาให้สัก ๕ คน

ผู้ถาม – หาเมียมาให้อีก ๕ คนงั้นหรือครับ นี่จะแก้หรือครับ

หลวงพ่อ – แก้ซิ ไปไหนไม่ไหวหรอก เพลียหมดแรง หัวเราะ

ผู้ถาม - วิธีแก้ง่ายๆ เลยนะครับ วิธีแก้สูตรเดียวกับขุนแผน เลยนะครับ

หลวงพ่อ – หัวเราะ เรื่องธรรมดา ให้ทานไปบ้างซิ เป็นทานบารมีนะ เป็นทานบารมีด้วย เป็นเมตตาบารมีด้วย

ผู้ถาม - เข้าหลักพรหมวิหาร ๔ เปี๊ยบเลย

หลวงพ่อ - ใช่ๆๆ



๑๔๙. ผิดศีลข้อกาเม


ผู้ถาม – กราบเท้าพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกหญิงได้เคยประพฤติ ในข้อกาเมด้วยความจําเป็น มาฟังธรรมะมาปฏิบัติตามหลักคําสอนของหลวงพ่อแล้ว เกิดความไม่สบายใจ อยากจะหาธรรมปฏิบัติ เพื่อลบล้างความผิดที่ทําไป นิดหน่อยนั้น ขอหลวงพ่อได้โปรดชี้แนะธรรมะด้วยเจ้าคะ

หลวงพ่อ – ไม่มีอะไรหรอก ลืมมันเสีย พระพุทธเจ้าทรงบอกว่า ให้ลืมเสียทุกอย่างที่พลาดมาแล้วนะ ไม่ตามนึกถึงมัน มุ่งหน้าเฉพาะความดี ที่ให้ภาวนา พุทโธ ธัมโม สังโฆ นี่ให้นึกถึงความดีอย่างเดียว ไอ้ความที่ไม่ดีอาจจะแลบเข้ามาบ้าง เป็นของธรรมดา เราก็นึกถึงความดีให้มาก ไม่ตามนึกถึงมันมัน ก็ไม่เกาะใจเรา ใจเราเกาะเฉพาะบุญใช่ไหม เกาะเฉพาะบุญ เวลาตายบุญก็นําเราไปก่อน ไปสวรรค์ก่อนอย่างน้อย

ผู้ถาม – ถ้าได้มโนมยิทธิก็

หลวงพ่อ – ใช่ ถ้าได้ก็พิสูจน์ได้เลยว่า วิมานของเราอยู่ที่ไหน ถ้าไปพบวิมาน จิตใจก็รักวิมาน ไม่รักบาป ตายก็พุ่งไปเลย



๑๕๐. เรื่องศีลข้อมุสาวาท


ผู้ถาม – กราบเท้าหลวงพ่อเจ้าคุณที่เคารพอย่างสูง

หลวงพ่อ – เอ๊ะ วันนี้เป็นเจ้าคุณฉันขาดหลวงปู่ไปตําแหน่งนะนี่ หลวงตามาแล้ว ขาดหลวงปู่ หลวงทวด

ผู้ถาม - ลูกมีปัญหากลุ้มใจนิดเดียว เกี่ยวกับเรื่องศีลของหลวงพ่อ คือ ลูกเป็นแม่ค้าก็จําเป็นที่จะต้องโกหกอยู่เสมอ ไม่งั้นจะไม่ค่อยมีกําไร ลูกพยายามทุกอย่างแล้ว ธรรมะของหลวงพ่อทําครบหมด แต่ข้อนี้ทําไม่ได้ จึงขอบารมีหลวงพ่อ อโหสิกรรมให้ลูกด้วยเถิดเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ – เอาอย่างนี้ซิ ฟังให้ดีน่ะ จุดธูปตอนเช้าวันนี้ขอลาศีลมุสาวาทชั่วคราว หัวเราะ เอาอย่างนี้ซิ วิธีพูดน่ะ เราซื้อของมาถูก ต้องขายแพงตามท้องตลาดใช่ไหมล่ะ ก็บอกต้นทุนมันแพง ลดจากนี้ไม่ได้หรอกจ๊ะ เท่านี้หมดเรื่องกันไป ไม่โกหก อย่าไปบอกซื้อมาบาทนี่ขาย ๑๐ บาท นี่ซื้อมา ๙๙๙๐ บาท โธ่ ได้กําไร ๑๐ สตางค์ กลัวศีลขาด บอกต้นทุนมันแพง ลดจากนี้ไม่ได้น่ะ นี่มันมีความจําเป็น ถ้าต้นทุนถูกลดจากนี้ได้มากเยอะแยะ แค่นี้ไม่ผิด

ผู้ถาม - หลวงพ่อคะ บางครั้งเราก็ไม่เจตนาไอ้เรื่องโกหกนี่ มันอยู่ในสังคม บางครั้งอย่างนี้นะ เขาจะมาเบียดเบียนเราน่ะ เราโกหกเขาว่าเราไม่มี

หลวงพ่อ - อันนี้ต้องรู้คําว่า มุสานี่ ต้องทําลายผลประโยชน์เขา ไอ้ตัวนี้ไม่ใช่โกหก ไม่ใช่มุสา

ผู้ถาม – บางครั้งก็ไม่เข้าใจนะคะ

หลวงพ่อ – ดี ถามอย่างนี้นะดี ทีนี้คําว่า มุสา นี่ ต้องทําลายผลประโยชน์เขา แต่นี่เราทําเพื่อรักษาประโยชน์เรา ใช่ไหม ยังไม่อยู่ในเกณฑ์มุสา อย่างนี้เขาไม่ถือว่าขาดศีล ๕

ผู้ถาม - บางครั้งพูดแล้วมันเสียดใจ มันตรงเกินไป

หลวงพ่อ - ก็ใช่ แต่เปล่า ก็ต้องบอกเรารู้นี่ว่า ไอ้หมอนี่ถ้าหาก มาขอยืมทีไร มันไม่ใช้ให้ทันที ใช่ไหม นี่เราขืนให้ไป เราก็ไม่ได้ มีอยู่เหลือเฟือนี่ ไอ้เงินน่ะเรามี แต่เงินที่เราจะให้ยืมมัน ไม่มี เราก็บอกไม่มี เราก็บอกไม่มีเฉยๆ ว่ายืมไม่ได้ ความจริงเรามี แต่เราจะต้องใช้นี่ ใช่ไหม ถ้าเขาเอาไปเขาไม่เอามาส่งคืนเราก็ลําบาก ถ้าเรามีเหลือเฟือนี่มันไม่เป็นไร อันนี้เราถือว่าเรารักษาผลประโยชน์เรา เขาไม่ถือเป็นมุสานะ

อย่างพวกค้าขายนี่ก็เหมือนกันละ ลงทุนมาบาทเดียวแต่ขาย ๑๐ บาท ตามท้องตลาด เขาขายกันแบบนั้นนี่ ใช่ไหม เราก็บอกว่า นี่ถ้าเขาถามราคาเท่าไร บอก ๑๐ บาท เราขายตามราคาท้องตลาด เขาขอลดเราบอกลดไม่ได้หรอก ต้นทุนมันแพง มันแพงเท่าไรนี่เรา ไม่ได้บอก เราอย่าไปบอก ๙ บาท ๕๐ สตางค์ซิ เราบอกแพงเฉยๆ ตามความนิยมของท้องตลาด อันนี้มันไม่เป็นไรนะ ไม่ถือว่าเป็น มุสาวาท อันนี้เข้าใจนะโยม ข้อนี้มีคนข้องใจกันมาก

แต่ว่าถ้าเราพูดไปเพื่อรักษาประโยชน์ของเรา เพราะอะไร เพราะว่าถ้าเราไม่รักษาประโยชน์เราให้ไป มันก็ไม่คืนซักที ทีนี้เรา ก็พังละซิใช่ไหม อย่างนี้ยังไม่ถือว่าเป็นมุสาวาท มุสาวาทมันต้องเป็นอย่างนี้ คือประโยชน์ของเขาที่จะพึงมีอยู่ด้วยเหตุนั้น เราไปบอก นี่แกอย่าไปทําเลยแบบนั้น ขาดทุนตาย แต่ว่าเราจะเอาซะเอง

ก็เหมือนกับผู้ใหญ่เลี้ยงเด็ก ไอ้เด็กเดินไปชานบ้าน ถ้าขืนปล่อยไป เดี๋ยวมันหล่นใต้ถุนตายใช่ไหม บอกไอ้หนูอย่าไป เดี๋ยวหล่นใต้ถุน เด็กมันไม่เชื่อ แต่เด็กมันกลัวงู ก็บอกแก บอกอย่า ไปนะไอ้งูมันมี ตุ๊กแกมันมี เด็กก็กลัว อันนี้เรารักษาประโยชน์ของเด็ก ไม่เป็นมุสาวาท มันเป็นเมตตา แต่ว่าถ้าเราพูดตรงไปตรงมา เด็กเขาไม่เชื่ออาจจะหล่นใต้ถุนบาดเจ็บหรือตาย ถ้าเราบอกแบบนั้น ก็เป็นการรักษาอวัยวะ หรือรักษาชีวิตของเขาใช่ไหม อย่างนี้ไม่ถือว่า เป็นมุสาวาทนะ เป็นเมตตาจิต มันเป็นคุณไม่ใช่โทษ แล้วยังไงล่ะ

ผู้ถาม - พอพูดแล้ว มันไม่สบายใจค่ะ

หลวงพ่อ - นี่ทีหลังเอาใหม่ซิ บอกว่าข้าไม่พูดๆๆ

ผู้ถาม – มันไม่ได้ล่ะค่ะ

หลวงพ่อ – ทําไมล่ะ

ผู้ถาม – มันต้องพูดกันอยู่นะคะ

หลวงพ่อ - ถ้าพูดกันอยู่ก็บอกว่า ไม่ได้หรอก สตางค์ที่ให้แกยืมน่ะ ไม่มีล่ะเว้ย ข้ามีเหมือนกันละ มีแค่จะซื้อข้าวสารกิน หรือซื้อกับข้าวกิน ใช่ไหม ข้ามีอยู่เล็กน้อยแบ่งไม่ได้ เราต้องบอกมีเล็กน้อย เราก็ไม่มีมากใช่ไหม มันมีอยู่บ้างเล็กน้อย แต่ความจําเป็น มันมีอยู่สําหรับเรา ก็ถือว่ามีเล็กน้อยใช่ไหม ไม่ใช่มีมาก ถ้ามีมาก เราต้องมีจนเหลือเฟือ ถ้าเขาถามมีไหม บอกว่าจะว่าไม่มีเลยก็ไม่ใช่มันมีเหมือนกันแต่จะซื้อกับข้าวตอนเย็นนี่นะ แล้วไอ้ภารกิจอื่นมัน มีมันไม่ไหว ถ้าคุณเอาไปเสีย ฉันก็ให้ไม่ได้

หรือบางทีเราก็ต้องบอกไปเลย บอกเงินให้ยืมไม่มีละ ฉันไม่มีแล้ว ใช่ไหม เราตัดไปจุดนั้นเลย ตัดไปจุดตรงที่ว่า ให้ยืมไม่มี ไอ้คนตื๊อนี่ บอกมีเล็กน้อยเดี๋ยวมันเอานะ เราก็ต้องตัดไปว่า เงินให้ยืมนั้นไม่มีจริงๆ ฉันไม่มีหรอกใช่ไหม อันนี้เราพูดถึงเงินให้ยืมใช่ไหม ไอ้เงินที่เรามีอยู่มันจําจะต้องใช้ อันนี้ก็ไม่ถือ เป็นมุสาวาทนะ


praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 12/1/09 at 10:17 Reply With Quote


(Update 12 ม.ค. 52)

๑๕๑. ทานยาดองเหล้า


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา ลูกมีความจําเป็นที่จะต้องทานยาดองเหล้า เพราะว่าออกลูกใหม่ เขาบอกว่าโบราณให้ทานอย่างนี้ ลูกมี ข้อประเด็นอยู่ ๓ ข้อเรียนถามหลวงพ่อช่วยชี้แนะ คือ

๑. ถ้าทานยาดองเหล้า ศีล ๕ จะขาดไหม
๒. มโนมยิทธิจะเสื่อมคลายหรือไม่
๓. ยันต์เกราะเพชรจะคืนกลับวัดท่าซุงหรือเปล่าเจ้าคะ

หลวงพ่อ - ถ้าเดินตามระเบียบเขาไม่เป็นไรนะ ตามระเบียบ ที่ยาเขาบอก อย่าให้เลยไปนะ ไม่ใช่ยาห่อเล็กๆ แต่ว่าเหล้าไหนะ เขาละลายตัวยาไม่เป็นไร



๑๕๒. บนให้สามีเลิกดื่มเหล้า


ผู้ถาม - กราบเท้านมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกเคย กราบเรียนถามเรื่องสามีดื่มเหล้าว่า จะแก้ไขจะบนบานอย่างไร หลวงพ่อแนะนําปุ๊บ ลูกไปปั๊บ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจกล่าว คือ สามีเลิกดื่มเป็นเวลา ๓ วัน และแล้วก็ดื่มต่อ ลูกก็บนอีก แกก็หยุดไป ๓ วัน แล้วแกก็ดื่มต่อ

หลวงพ่อ - หัวเราะ ดีได้คราวละ ๓ วัน ทีนี้พอจะหมดวันที ๓ เราก็บนต่อซิ

ผู้ถาม - พอรู้ว่าหมดก็รีบบนเลย แต่ไม่อย่างนั้น เหตุการณ์กลับเป็นอย่างนี้ ต่อมาอีก ๒ - ๓ เดือน สามีของลูกเลิกดื่มเหล้าโดยเด็ดขาดลูกสงสัยก็เลยถามว่าเพราะเหตุใด จึงเลิกดื่มโดยเด็ดขาด แกพูดว่า อย่างนี้ข้าเกรงใจหลวงพ่อโว้ย หลวงพ่ออุตส่าห์มาจากวัดท่าซุง มาเทศน์มาโปรด สอนด้วยความลําบาก เพื่อให้คนทุกคนพ้นทุกข์ หลวงพ่อยังป่วย ก็ยังมาสอน กู เห็นใจท่านว่ะ

หลวงพ่อ – เออ เขาดีๆๆ ขอชมว่าดี ขอบใจนะที่เห็นใจนะ

ผู้ถาม - สงสัยถ้าหากว่าหลวงพ่อไม่ป่วย แกคงไม่เลิกเด็ดขาด นี่เพราะหลวงพ่อป่วยอย่างนี้ หลวงพ่อก็ป่วยไปตลอด เลยซิครับ พอหายป่วยเดี๋ยวเขาเลิก เขาก็จะดื่มเหล้าต่อ

หลวงพ่อ – ก็ป่วยต่อ มันป่วยทุกวันได้นะทุกคนน่ะที่พระพุทธเจ้าบอกว่า "ชิคัจฉา ปรมา โรคา" ความหิวเป็นโรคอย่างยิ่ง หิวทุกวันโดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกผู้หญิงน่ะ หิวตลอดกาล ยามว่างสังเกตซิ กินข้าวเช้าแล้วยังไม่พอลูกไม้ลูกไร่กินกันเรื่อย เขาลดความผอม

ผู้ถาม - ลงท้ายเขาว่าอย่างนี้ ด้วยความดีของหลวงพ่อที่ป่วย แล้วเป็นเหตุให้สามีเลิกดื่มเหล้าโดยเด็ดขาด ลูกเลย ใส่ย่ามหลวงพ่อ ๑๐๐๐ บาท หวังว่าหลวงพ่อคงไม่รู้นะคะ

หลวงพ่อ - รู้แล้วๆๆ

ผู้ถาม – รู้แล้วหรือครับ

หลวงพ่อ – รู้เมื่อกี้นี้

ผู้ถาม - ทีนี้เวลาใครดื่มเหล้านะ เราก็บน แบบคนๆ นั้นนะ

หลวงพ่อ – นี่เขาบนว่ายังไง

ผู้ถาม - ตอนบนเขาไม่ได้บอก แต่ว่าเวลาบนจริงๆ เลิกได้แค่ ๓ วัน แต่ตอนที่เขาเห็นหลวงพ่อป่วย เขาเกรงใจ เลยเลิก

หลวงพ่อ – นั่นแหละ เพราะการบนเป็นเหตุ ทีแรกเลิกนานไม่ได้ ดีไม่ดีเดี๋ยวก็จะไปอีก เลิกไปหน่อยก็กินกระตุ้นนิด กระตุ้นประสาทใช่ไหมล่ะ ประสาทมันยังไม่ชิน เว้น ๓ วันก็ว่าต่อไป อีกหน่อย เว้น ๓ วันว่าต่อไปอีกหน่อย ในที่สุดพอเว้นแล้ว มันชินก็เลยเลิกได้

ผู้ถาม – ถือว่าคงจะหมดเวรหมดกรรมด้วย

หลวงพ่อ - ใช่ๆๆ อกุศลพ้นไป กุศลมา

ผู้ถาม - และประเภทที่ว่า ในพรรษา ๓ เดือนไม่ดื่ม แต่ออกพรรษาดื่ม ๙ เดือน อย่างนี้เวลาตายแล้ว จะไปยังไง กันแน่ครับ

หลวงพ่อ – ก็เขาจะไปตรงไหนก่อน

ผู้ถาม – ให้เขาเลือกตามอัธยาศัยหรือครับ

หลวงพ่อ - ใช่ๆ ถ้ายังพอใจในการดื่ม ก็ลง โลหะกุมภี แต่ที่นั่น กินฟรี นายนิรยบาลป้อนให้ ถ้าป้อนให้นั่งทนไม่ไหว จับนอนป้อนกลอกปาก ถ้าทนไม่ไหวจับโยนลงหม้อไปเลยให้กิน ทั้งตัว

ผู้ถาม - ตกลงทั้งเหล้าทั้งเบียร์ แค่อึกสองอึกนี่ก็

หลวงพ่อ – เหมือนกัน เบียร์นี่มันเมรัย

ผู้ถาม – แต่ถ้ากินเพื่อสังคมนี่ก็คง

หลวงพ่อ - ถ้ากินเพื่อสังคมนี่ดีมาก ไปเป็นกลุ่ม



๑๕๓. เถียงเรื่องอาชีพขายสุรากับเลี้ยงกุ้ง


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ผมและพี่ชายเถียงกัน ไม่ตกลงว่าใครแพ้ใครชนะ คือว่ากระผมมีอาชีพ ขายสุราและอาหาร พี่ชายมีอาชีพเลี้ยงกุ้งกุลาดํา ต่างก็เถียงกันว่า ของแกบาปมากกว่าของฉัน ของฉันบาปน้อยกว่าของแก เถียงไปเถียงมาก็ปรากฏว่าจะวางมวยกัน

หลวงพ่อ – เอาละซิ ไม่ทันจะตาย บาปมาก่อนแล้วรายหนึ่งขายสุราใช่ไหม

ผู้ถาม – ครับ

หลวงพ่อ - เขาขายอย่างเดียว ไม่ได้กินนะ

ผู้ถาม – ครับ

หลวงพ่อ - อีกรายหนึ่งเลี้ยงกุ้งกุลาดํา เลี้ยงอย่างเดียวไม่ได้ฆ่านะ

ผู้ถาม – แต่แกขายครับ

หลวงพ่อ – แล้วขายเขาเอาไปเลี้ยงต่อเรอะ

ผู้ถาม - หัวเราะ ส่วนมากก็ อิมัสมิง ลงกะทะครับ

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ เราพูดตามหลักวิชานะ ถ้าขายสุราและเมรัย พระพุทธเจ้าตรัสว่า เป็นมิจฉา วาณิชชา หมายความว่าทายก อุบาสกอุบาสิกา ไม่ควรขาย แต่ไม่ปรับเป็นโทษ ถ้าหากว่าเลี้ยงกุ้งกุลาดํา นี่เป็นเมตตากับกรุณา ๒ อย่าง

ผู้ถาม –

หลวงพ่อ - เป็นตัวเล็ก เลี้ยงให้มันตัวโตขึ้นมา

ผู้ถาม – อ๋อ

หลวงพ่อ - แต่อีตอนขายซิ ต้องเป็นแบบเดี๋ยว ถามลุงดีกว่า ลุงเอาบัญชีมาเปิดปั๊บ ตัวแดงแจ๋เลย

ผู้ถาม – อย่างนี้ ถ้าไม่จําเป็นก็เลิกเลี้ยงเลิกขายดีกว่านะ

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้ดีกว่าถือว่าเป็นอาชีพ สัมมาอาชีวะ ทําไปเถิดตามชอบใจ เขาไม่ลัก ไม่ขโมย ไม่โกงใคร ก็หมดเรื่องหมดราวไป จะเอาแต่ธรรมะอย่างเดียว ก็เลี้ยงตัว ไม่รอดเหมือนกัน แต่ว่าถ้าหากว่ามีกําลังใจดี เข้มแข็งนะ ส่วนที่ทําแบบนั้นเราก็ว่าไป เวลาว่างเราก็ทําบุญ ทําบุญหมายความว่า ทําบุญ ในห้องมีความสําคัญมาก เจริญภาวนาสวดมนต์ภาวนา เวลาตายก็ต้องแบ่งเป็น ๒ ซีก ทั้งบุญทั้งบาป แล้วเกาะความดีอย่างใดอย่างหนึ่ง

อย่างให้ทาน ไม่ต้องให้มาก แต่ให้บ่อย ๆ คือว่าถ้าให้มาก ทรัพย์จะสูญเสียมาก คือ เดือดร้อนใช่ไหม ให้เล็กๆน้อยๆ ให้จิตมันเกาะ หรือว่าชอบใจสวดมนต์ก็สวดมนต์ สวดมนต์ก็ไม่ต้องหลายบทนัก เอาบทที่เราชอบใจ หรือว่าเจริญภาวนา บทไหนก็ได้ที่เราชอบให้จิตมันเกาะ ถ้าจิตมันเกาะเวลาตายแล้ว เขาก็มาเชิญ ไปสํานักพระยายมประเภทนี้ไปแน่

ถ้าบาปจริง ๆ มันพุ่งหลาวลงนรกเลย ความชั่วก็มีความดีก็ ปรากฏ ทั้งสองอย่างต้องไปสํานักพระยายมก่อน เขาจะสอบสวน แล้วถ้าหากว่าไม่ฉลาดเกินไป ฉลาดพอดีนะ เวลาทําบุญให้ พระยายมเป็นพยานไว้หมดเลย ไปถึงลุงพูดคนเดียวเสร็จ พูดเรื่องบุญอย่างเดียว บาปไม่พูดหรอก นี่รายการนี้ขอ ๖ บาท ค่าครู หัวเราะ



๑๕๔ ขายเหล้าบาปไหม


ผู้ถาม - อยากจะถามว่า คนที่ขายเหล้าแล้วคนขายไม่ได้กินอย่างนี้เป็นการค้า คนขายนี่บาปไหมครับ หลวงพ่อ

หลวงพ่อ - คําว่า บาป แปลว่าอะไร

ผู้ถาม – บาปนี่ ชั่ว ครับ

หลวงพ่อ - บาปนี่ชั่ว ขายได้สตางค์ชั่วยังไง รวยความประพฤติ เขายังไม่ชั่ว แค่ขายอย่างเดียว ความประพฤติก็ว่า อีกส่วนหนึ่งต่างหาก

ผู้ถาม - แต่สิ่งที่ขายนี่ ทําให้คนที่ซื้อไปเป็นโทษ

หลวงพ่อ – ช่างมันปะไร รู้แล้วเสือกซื้อไปทําไม

ผู้ถาม – ตกลงไม่บาปใช่ไหมครับ

หลวงพ่อ – จะบาปยังไง คือ พระพุทธเจ้าทรงปรับว่าเป็น มิจฉา วาณิชชา เป็นการค้าที่ไม่สมควร เราจะไปพูดเกิน พระพุทธเจ้านี่ไม่ได้ ใช่ไหม อย่างขายปืนนี่ เราเป็นคนขายอาวุธ คนขายอาวุธไม่ได้บอกว่า เจ้าจงไปยิงคนนั้นนะ มันเรื่องเขา จะต้องมีการป้องกันตัวของเขาอย่างหนึ่งนะ การขายอาวุธอย่างหนึ่งนะ การขายสุราเมรัยอย่างหนึ่ง พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่าเป็น มิจฉา วาณิชชา อุบาสกอุบาสิกาไม่ควรจะค้าขาย แค่แนะนําไม่ใช่บาปยังปรับโทษเขาไม่ได้เลย มันต้องดูเหตุดูผลว่า มันเป็นโทษได้ยังไง การค้าเขาไม่ได้กิน คนค้าเหล้าไม่ได้ เมาเหล้านี่ใช่ไหม จะต้องดูจุดตรงไปตรงมา ธรรมะนี่ต้องตรงไป ตรงมานะ ก็อย่างมีคนๆ หนึ่ง เข้าไปกรุงเทพฯ ที่ซอยสายลม แกมาถามว่า เชื้อโรคในร่างกายเป็นสัตว์มีชีวิตใช่ไหม และการที่ เราจะกินยาฆ่าสัตว์มีชีวิตในร่างกายไม่บาปหรือ ฉันตอบว่ายังไงรู้ไหมฉันก็ตอบว่า คุณลงนรกแต่ผู้เดียวเถอะ ฉันเชื่อพระพุทธเจ้าอย่างเดียว ฉันไม่เชื่อคุณหรอก ใช่ไหมคุณ ให้เขาลงนรกแต่ผู้เดียว นี่ของเราไม่ได้ลงด้วยนะ เชื้อโรคมีในร่างกาย รูปร่างมันอยู่ที่ไหนก็ช่าง เรื่องร่างกายของเรา เราทําให้ร่างกายของเราเป็นสุขใช่ไหม ไม่ใช่ร่างกายเกิดมาเพื่อเป็นพื้นฐาน ที่อยู่ของเชื้อโรค ต้องดูคําสอนแค่พระพุทธเจ้าสอน อย่าให้มันเลยไป ถ้าเลยไปนิพพานมันก็ต้องลงอเวจี หรือลงอย่างดีก็ลงโลกันต์ ก็เอากันแค่ที่ท่านสอน

พระพุทธเจ้าทรงเป็นสัพพัญญูอยู่แล้ว อะไรทุกอย่างที่พระองค์ไม่รู้น่ะ ไม่มีท่านบอกว่าวิชาความรู้ที่ตถาคตรู้ แต่ว่ามันไม่เป็นทางบรรลุมรรคผลตถาคตไม่สอน อย่างวิชาความรู้ทางวิทยาศาสตร์พระพุทธเจ้ารู้ไหม ถ้าไม่แน่ใจให้ไปถาม ดร.อาจอง คนนี้ได้กรรมฐาน ได้ทิพจักขุญาณ

เคยสอนลูกศิษย์ได้ทิพจักขุญาณเยอะ ต่อมาฝรั่งก็จ้างไปทําจรวดอะไรหว่า มันพังเรื่อย ต่อมาแกเป็นหนึ่งในร้อยของนักวิทยาศาสตร์ที่เขาคัดไว้ คือเขาคัดไว้ ๑๐๐ คน เธอเป็นคนไทยคนเดียวในหนึ่งในร้อยของเขา

ทีนี้มาวันหนึ่ง เธอคิดว่าทํายังไง แก้กันอย่างไรมันก็ไม่หาย มันก็พังเรื่อย และที่ข้างห้องที่พักมันก็มีเนินดิน ก็ไปนั่งอยู่ที่เนินดิน จิตสบายๆ ก็ขอบารมีพระพุทธเจ้าขอสูตร เอาเพียงแค่แก้ให้หาย ไม่ได้ทําทุกอย่าง ปรากฏสูตรขึ้นมาในอากาศ แกก็รีบเขียนตามนั้นทันที และแก้ไขได้ เห็นไหม เรื่องของจริงมันมีแต่ว่าเราทําให้ มันถึงความรู้พระพุทธเจ้ารู้ให้มันถึงรู้ให้มันจริง

ความรู้มีกี่อย่าง ๔ อย่าง ๑. สุกขวิปัสสโก ๒. เตวิชโช ๓. ฉฬภิญโญ ๔. ปฏิสัมภิทัปปัตโต ทั้ง ๔ อย่างนี่ให้มันครบ ถึงแม้จะครบอย่างละไม่ถึง ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ ก็ตาม จะมีผลเยอะแยะ ทีนี้พวกเราไม่ได้รู้จริง รู้แต่ข่าวเขาว่า ๆ จะเอาอะไรกัน ตําราเล่มนั้น ท่านว่าตําราเล่มนี้ท่านว่า พระองค์นั้นท่านว่า พระองค์นี้ท่านว่า พระองค์นั้นท่านรู้จริงหรือเปล่า ใช่ไหม

พระที่รู้จริงๆ มีองค์เดียว คือ พระพุทธเจ้า พระอรหันต์มีรู้จริง แต่ไม่รอบรู้เท่าพระพุทธเจ้า ฉันยืนยันอรหันต์ทุกองค์น่ะ รอบรู้ ไม่เท่าพระพุทธเจ้า เพราะคําว่า สัพพัญญู ไม่มี จะมีสิ่งที่ไม่รู้ ที่พระอรหันต์รู้แน่นอนไม่แพ้ใครก็คือ การละกิเลส แต่ความรู้รอบ ตัวนั่นยังก่อน

ถ้าถามว่า ถ้าอย่างนั้นพระอรหันต์ที่สอนๆ ไม่สอนผิดหรือ ก็ต้องตอบว่า อรหันต์สอนไม่ผิดหรอก เพราะท่านจะสอน แค่ท่านรู้ ถ้าเลยรู้ท่านไม่สอน แต่อรหันต์ขั้นสุกขวิปัสสโกท่านรู้แค่ไหน ท่านละกิเลสได้แน่ อรหันต์ต้องเป็นอรหันต์เหมือนกัน แต่ว่าความรู้พิเศษท่านรู้แค่ไหน ท่านจะสอนแค่นั้น ถ้ามากเกินไปท่านบอก สิ่งนี้เกินวิสัยของท่าน

ถ้าไปถามเตวิชโช หรือวิชชา ๓ องค์นี้จะรู้มากหน่อย ถ้าถามถึงเทวดา ถึงนางฟ้า ถึงพรหม ถึงมนุษย์ ถึงอะไรก็ตาม นรกสวรรค์ ท่านรู้หมด องค์นี้เห็นหมดทุกอย่างคุยได้หมดทุกอย่าง แต่ไปบอกท่านขอชวนไปเที่ยว ท่านบอกฉันยังไปไม่ได้ ฉันเห็นแค่นี้

ถ้าไปถาม ฉฬภิญโญ เข้า ฉฬภิญโญ ฉันเห็นได้ ฉันไปถึงได้ ทุกจุด ฉันทําได้ใช่ไหม ไปถามความรู้ความฉลาดหนักๆ เกินไป ท่านบอกไม่ไหว ฉันมีความสามารถแค่นี้

ถ้าไปถาม ปฏิสัมภิทาญาณ ท่านบอกทุกอย่างฉันพร้อม แต่ต้องไม่เกินวิสัยของฉัน คําว่า เกินวิสัย คือเป็นวิสัยของพระพุทธเจ้านี่ ท่านทําไม่ได้ ใช่ไหม

ฉะนั้น ความรู้ในพระพุทธศาสนามี ๔ ขั้น ก็ทําให้มันจบ ๔ ขั้น ยังไม่ได้สักขั้นหนึ่ง จะมาเบ่งว่ารู้ มันจะรู้ได้ยังไง โง่เง่าเต่าตุ่น และแต่น เลยตุ่นอีก หัวเราะ เขาว่าๆๆ อ่านตําราที่นั่น อ่านตําราที่นี่ พระองค์นี้ว่าอย่างนี้ แต่ว่าทําไมหลักสูตรที่พระพุทธเจ้าทรงสอนจริง เราทําไมไม่สนใจกัน ก็ไม่ยาก มันไม่มีอะไรยาก วันนี้ ฉันพูดตามความเป็นจริงนะ วันนี้เอากันจริงๆ



๑๕๕ อยากเป็นพระโสดาบัน


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง อยากจะบรรลุสําเร็จพระโสดาบัน แต่ทีนี้ที่ไม่ดีอยู่ก็คือว่า ศีลข้อสุรานี่เอาไม่อยู่ อย่างอื่นดีหมด แต่เวลากินเหล้าแล้ว ผมทําสมาธิดี ใจบุญใจกุศล เออ หายากนะ

หลวงพ่อ – เอ อย่างนี้เขาเรียก โสดาบันโลหะกุมภี

ผู้ถาม – อ๋อ ลงล่างเลยแบบนี้

หลวงพ่อ – ใช่ซิ

ผู้ถาม – ไม่มีทางเลยซิครับ

หลวงพ่อ – ละเสียก่อน

ผู้ถาม - ถ้าตัดโสดาบันจริงๆ นี่ ศีล ๕ ต้องครบเลยหรือครับ

หลวงพ่อ - ครบถ้วน ศีล ๕ ครบถ้วนเป็นโสดาบันขั้นต่ำน่ะ สัตตักขัตตุง

ผู้ถาม – ยังต่ำอีกหรือนี่

หลวงพ่อ - ยังต่ำมาก แค่สัตตักขัตตุง ต้องกรรมบถ ๑๐ เป็นโกลังโกละ หรือเอกพิชี

ผู้ถาม - ครับๆๆ อย่างนั้น ก็ไปไล่ศีล ๕ เสียให้ครบก่อน

หลวงพ่อ – อย่าไปไล่ซิ ไปเอามา

ผู้ถาม – อ๋อ ต้องรักษา ไม่ใช่ไล่ ปกติก็จะไปอยู่แล้วซิ ไม่ต้องไล่ก็จะไปอยู่แล้ว



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 19/1/09 at 09:17 Reply With Quote


(Update 19 ม.ค. 52)

๑๕๖. ไปนิพพานไม่ได้เพราะชอบกินเหล้า


ผู้ถาม - กราบนมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ตอนที่ขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยตุง หลวงพ่อบวงสรวงเสร็จ เรียบร้อยแล้ว หลวงพ่อได้พูดว่าเออ มีอยู่คนหนึ่งนะ ไปนิพพานไม่ได้ เพราะว่าชอบกินเหล้าอยู่ ผมขอบอกได้เลยคนนั้นไม่ใช่อื่นไกล ที่แท้คือผมเอง ปกติผมดื่มเป็นประจําเลยครับ ทําไมหลวงพ่อ รู้ได้ทั้งๆ ที่ไม่เคยบอกเลย

ที่จะเรียนถามก็คืออย่างนี้ ผมขอบอกหลวงพ่อว่า ตั้งแต่นี้ เป็นต้นไปจะขอเลิกดื่ม และจะขอตั้งใจปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เพื่อไปพระนิพพานชาตินี้ หลวงพ่อจะอโหสิกรรม เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกหน่อยเถิดขอรับ

หลวงพ่อ - ไม่ต้องอโหสิกรรม มีผลแน่นอน ไปได้ถ้าเขาเลิกได้นะ

ผู้ถาม – เลิกปุ๊บ ปฏิบัติปั๊บ นี่ไปได้
หลวงพ่อ - ไปได้ๆๆ ยังขัดๆ อยู่แค่นั้นแหละ ขัดอยู่แค่นั้น เองวันนั้นน่ะ

ผู้ถาม - นี้ไม่ต้องไปไกล กลิ่นก็ไม่มี แต่ความจริงเขาบอกนะครับ ก่อนที่จะไปดอยตุง ดื่มเบียร์เข้าไปหน่อยหนึ่ง พอหอมปากแก้หนาว เขาสารภาพแล้วนะ นึกว่าจะดื่มต่อไป นี่เลิกแล้วนะ โมทนาด้วย



๑๕๗. พระให้ศีล ๘ ไม่ถูก


ผู้ถาม - กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพ เวลาลูกถวายสังฆทานพระแถวบ้าน พระท่านให้ศีล ๘ ไม่ถูก ลูกอยากทราบว่า ควรจะทําบุญกับท่านอีกไหมเจ้าคะ

หลวงพ่อ - มันไม่จําเป็นนี่ ท่านให้ไม่ถูกเรารักษาให้ถูกก็หมดเรื่องหมดราว การที่พระให้ศีลเป็นการศึกษาเท่านั้น ว่าศีลมีอะไรบ้าง ในเมื่อท่านพลาดไปแล้ว นึกได้ข้อนี้ไม่ใช่เป็นอย่างนี้นี่หว่า เรารักษาตามความเป็นจริง ศีลอยู่ที่การปฏิบัติ คือ ตัวเว้น คือว่า ศีล จะมีได้มีศัพท์ว่า เวรมณี

คําว่า เว้น เว้นจากการฆ่าสัตว์ เว้นจากการลักทรัพย์ เว้นจากการร่วมรักกับคู่ครองใช่ไหม ศีล ๘ เว้นจากมุสาวาท เว้นจากการดื่มสุราเมรัย เว้นจากกินข้าวเวลาบ่าย เว้นจากการทัดทรง ดอกไม้และของหอม เว้นจากที่นอนสูงที่นอนต่ำ ที่นอนสูงเกินไป ก็ไม่ควรนอน ต่ำเกินไป ก็ไม่ควรนอน

ผู้ถาม – ที่ต่ำไม่ควรนอนเพราะอะไรครับ

หลวงพ่อ – มันต่ำกว่าที่นอน หัวเราะ



๑๕๘. กินข้าวเกินเวลา


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา ลูกได้ไปรักษาอุโบสถที่วัดแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ บังเอิญตอนนั้นมันเลยเที่ยงไป นาฬิกามันเสีย ลูกก็ไม่ได้ดู กินไปกินมาเลยเวลาเข้าไปบ่ายโมง ตอนนั้น ลูกไม่สบายใจเป็นอย่างมากว่า อุโบสถศีลของลูกนี่บกพร่องไปเสียแล้ว ว่าจะกราบขอขมาลาโทษว่า กินข้าวเพลินโดยไม่เจตนา ศีล ๘ ของลูกจะขาดหรือไม่เจ้าคะ

หลวงพ่อ – ศีลวันนี้ไม่ขาด

ผู้ถาม - ไม่ขาดหรือครับ

หลวงพ่อ – ไม่ขาด เพราะวันนี้สมาทานศีล ๘

ผู้ถาม - ศีลวันนี้หรือครับ

หลวงพ่อ – ใช่ หัวเราะ ใช่ ศีลวันนั้นขาดไม่เป็นไรไม่มีโทษ มันไม่มีโทษถึงอบายภูมินี่ เป็นส่วนธรรมะ

ผู้ถาม - ได้ยินแว่วๆ ว่า เที่ยงสมัยพระพุทธเจ้า ตะวันตรงหัว หรือว่านาฬิกาตรงเลข ๑๒

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าสมัยพระพุทธเจ้าเอาจริงๆ ตามพระวินัยนะ พระอาทิตย์ตรงเงาตรงลงมือฉัน ตะวันคล้อยไปไม่เกิน ๒ นิ้ว ถ้าเงาคล้อยเกิน ๒ นิ้วเป็นอาบัติ ถ้าไม่เกิน ๒ นิ้วไม่เป็นอาบัติ เวลานี้เขาเร่งกันมาชั่วโมงหนึ่ง

ผู้ถาม – ถ้าเอาแบบพุทธกาล ก็อาจจะเลยเที่ยงได้

หลวงพ่อ - เอาแบบพุทธกาลมันก็ลงมือเที่ยงได้ ไอ้เงา ๒ นิ้วนี่ นานนะ

ผู้ถาม - ก็เอาตามสมัยใหม่นะ ๑๒ นาฬิกาเป็นเกณฑ์



๑๕๙. กระเพาะลําไส้ไม่ดี


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา ลูกตั้งสัจจะไว้กับพระที่ฝั่งธนบุรีว่า จะรักษาศีล ๘ ชั่วชีวิต ลูกก็ทํามาโดยตลอด บัดนี้ลูกอายุมากแล้ว เพราะทางกระเพาะลําไส้ไม่ดี หมอบอกว่าถ้าขาดอาหารตอนเย็นแล้วจะไปไม่รอด จะขอเรียนถามหลวงพ่อว่า จะคืนสัจจะที่ซอยสายลมกับหลวงพ่อ แล้วให้หลวงพ่อบอกพระพุทธเจ้าอโหสิกรรมได้หรือเปล่าเจ้าคะ

หลวงพ่อ – เออ เอาหนักแฮะ เอาอย่างนี้ซิ ย้ายไปถือ กรรมบถ ๑๐ กินข้าวเย็นได้ ดีกว่าเยอะ เป็นทั้งศีลทั้งธรรม ได้ ๒ อย่าง

ผู้ถาม – แล้วอานิสงส์คงไม่ต่างกันใช่ไหมครับ

หลวงพ่อ - อานิสงส์แข็งกว่าศีล ๘ อ้าวจริงๆ นะศีล ๘ เราไม่ค่อยจริงกันนัก แต่ถ้าปกติทุกวันก็ดี นี่มันปกติ ไม่ได้นี่ ต้องเป็นบางเวลา ใช่ไหม กรรมบถ ๑๐ เขามีทั้งศีลทั้งธรรม มโนกรรมนี่เป็นธรรมะ แล้วก็สังเกตดูเป็นการตัดกิเลสได้ง่าย ฝึกตัดกิเลสไปในตัวเสร็จ

ผู้ถาม - เกี่ยวกับข้อไม่กินข้าวนี่ เวลาไปกินเลี้ยงมันเผลอไผล ไปตักเข้า กว่าจะรู้ตัวก็เข้าไปครึ่งท้องแล้ว แต่ไม่เจตนานะครับ

หลวงพ่อ - ความจริงถ้าเรารักษาศีล ๘ ไม่ขาดนะ ที่เราสมาทาน มัน ๙ ข้อ นัจจะคีกับ มาลาคันธะ เวลาเขาบวชพระบวชเณร เขาแยกนะเรารักษาแค่ศีล ๘ ทิ้ง วิกาลโภชนา เสีย

ผู้ถาม – อ๋อ ก็ดี

หลวงพ่อ – แต่อย่านะ ลงนรก หัวเราะ แหม ตั้งใจหูผึ่ง

ผู้ถาม - ได้กินข้าวเย็นก็ยังดี

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้ซิ สมาทานกรรมบถ ๑๐ กรรมบถ ๑๐ เป็นคุณสมบัติพระโสดาบันขั้น โกลังโกละ กับ เอกพิชี และสกิทาคามีหนักมาก

ผู้ถาม – ถ้ารักษาศีล ๘ เดือดร้อน ก็เอากรรมบถ ๑๐ ดีกว่านะ



๑๖๐. ถือศีล ๘ กินนมได้หรือไม่


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา ลูกขอถามเกี่ยวกับเรื่องศีล ๘ ศีล ๘ ที่ลูกรักษาอยู่ปัจจุบันนี้ มีคนเขาพูดว่า นมกินไม่ได้ ไอ้นั่นก็กินไม่ได้ ไอ้นี่ก็กินไม่ได้ ไอ้เรื่องศีล ๘ นี่เกี่ยวกับเรื่องน้ำปานะ นี่เขาอนุญาตแค่ไหน และที่ไม่อนุญาตเป็นอย่างไรบ้างเจ้าคะ

หลวงพ่อ – เอาอย่างนี้ดีกว่า เนยใส เนยข้นน้ำมัน น้ำผึ้ง น้ำอ้อย นมนี่เป็นพวกเนย กินได้ แต่ว่าอย่ากินนมดิบนะ หัวเราะ ใน มหาปเทส อนุโลมจากเนยเป็นนมได้ ใช้ได้จริงๆ นะ



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 27/1/09 at 10:32 Reply With Quote


(Update 27 ม.ค. 52)

๑๖๑. รักษาศีล ๘ ซื้อหวยใต้ดิน


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกรู้จักกับอุบาสกคนหนึ่ง อายุประมาณ ๖๐ ปีเศษ รักษาศีล ๘ มาหลายปีแล้ว เขาบอกกับผมว่าเขาได้พระอนาคามีแล้ว วันหนึ่ง ลูกเห็นแกซื้อหวยใต้ดิน แล้วก็ล็อตเตอรี่ธรรมดา ลูกเกิดความสงสัยว่า ผู้ที่เป็นพระอริยเจ้าขึ้นไป จะซื้อหวยใต้ดินและล็อตเตอรี่รัฐบาล ได้หรือเปล่า

หลวงพ่อ - เขามีขายก็ซื้อได้ แต่ไม่ใช่พระอริยะเบื้องสูง อย่างพระโสดาบันท่านยังอยากรวย ยังมีความโกรธ ยังมีความหลง แต่ก็ไม่ลืมความตาย อยู่ในขอบเขตของศีล ๕ จะรวยก็ไม่ขาดศีล ๕ คือไม่ลักไม่ขโมยใคร ทีนี้หวยนี่ไม่ได้ลักไม่ได้ขโมยใคร แต่ว่าถ้าบอกเป็นอนาคามี ไม่ใช่แน่ อนาคามีไม่ทําแบบนั้น ตัดหมดแล้ว พระโสดาบันอาจจะมีแต่ว่าไม่ดิ้นรนมากนะ สังเกต อย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าอะไรขัดกับศีล ๕ พระโสดาบันไม่ทํา ถ้าสิ่งใดไม่ขัดกับศีล ๕ พระโสดาบัน ทําจําง่ายๆ



๑๖๒ ถือศีล ๘ อยากไปนิพพาน


ผู้ถาม - กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงขณะนี้ลูกตั้งจิตอธิษฐานว่า ๑. ลูกจะถือศีล ๘ เป็นเวลา ๗ วัน ๒.งดบริโภคอาหารเนื้อสัตว์เป็นเวลา ๗ วัน ๓.เจริญกรรมฐานให้ครบทั้ง ๗ วัน ลูกตั้งจิตอธิษฐานและจะทําในลักษณะอย่างนี้ การกระทําอย่างนี้ จะเป็นบุญ เป็นกุศล เป็นผล ให้ลูกมีโอกาสได้ไปเกิดบนนิพพานได้หรือเปล่าเจ้าคะ

หลวงพ่อ – ไม่ได้

ผู้ถาม – แหม นี่ก็ ๗ วัน นี่ก็ ๗ วัน ไปไม่ได้หรือครับ

หลวงพ่อ - แค่ ๗ วัน ปีมีกี่วัน เราเกิดกี่ปี อารมณ์ไม่ทรงตัว

ผู้ถาม - ความจริงนะ ไอ้ ๗ วันน่ะ เอาซ้อมมโนมยิทธิแป๊บเดียว ก็จะ

หลวงพ่อ - ดีกว่าเยอะ



๑๖๓. ข้องใจเรื่องการบวชชี


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง ลูกมีความข้องใจเกี่ยวกับเรื่องการบวชชี เพราะว่าได้ทราบข่าวว่า การบวชชีนี้เวลาปฏิบัติสมถะก็ดีวิปัสสนากรรมฐานก็ดี เป็นเหตุทําให้เป็นมรรคผล เป็นอรหันต์ได้ง่าย ลูกชักอยากจะไป เป็นชีวัดท่าซุง เพื่อจะได้เป็นอรหันต์เสียแล้ว แต่มีคนมาพูดว่า เป็นอรหันต์นี่อยู่ได้วันเดียว ลูกกลัว เอ๊ะ อย่างนี้ไม่เอาดีกว่า เพราะจะลาสามีมาแล้วได้ไม่เกิน ๑๕ วันเจ้าค่ะ เป็นยังไง เป็นอรหันต์ยังห่วงผัวอีกนะ

หลวงพ่อ - อย่างนี้เขาเรียก มีพรหมวิหาร ๔ ครบถ้วน

ผู้ถาม – ชมอีกแล้ว หรือนี่

หลวงพ่อ - ใช่ซิ ๑.เมตตา ความรัก ยังรักผัวอยู่ ๒.กรุณา ความสงสาร ยังสงสารผัวอยู่ ๓.มุทิตา ยินดีในเมื่อผัวมีความสุข ๔.อุเบกขา วางเฉย ยังไงก็ช่างมัน กูจะไปนิพพานท่าเดียว หัวเราะ

ผู้ถาม - เขาเรียกพรหมวิหาร ๔ นะ แล้วชีที่บวชเป็นอรหันต์ จะมีอายุยืนยาวสักกี่ปีเจ้าคะ

หลวงพ่อ – เดี๋ยวก่อน ต้องถามว่ากล้วยอะไร ที่วัดท่าซุงเขาบวดกันเรื่อยนะ กล้วยหักมุกบ้าง กล้วยน้ำว้าบ้าง กล้วยอะไร

ผู้ถาม - ไปคนละแควเลย บวชชีที่ต้องโกนหัว อะไรขาวๆ

หลวงพ่อ – อ๋อ งั้นหรือ ไม่บอกกันก่อน ไอ้ฉันมันสนใจ ชีกล้วย วันเดียวความจริงแค่เป็นอนาคามี เขาก็ไม่กลับบ้าน แล้วนะ มันหมดความรู้สึกทางเพศ แต่ว่ายังคาๆ อยู่ ไปนิพพาน ไม่ได้นะ พอถึงอรหันต์ก็ไปเลยแต่ความจริงคนหรือพระนี่ ถ้าปฏิบัติถึงอนาคามีแล้ว ไม่มีใครอยากจะเกิดนะ เขาเห็นทุกข์แล้ว เขาเห็นสุขข้างหน้าแล้ว



๑๖๔. อยากจะบวชชี


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ตอนนี้ลูกเปรียบเสมือนผงเข้าตาเขี่ยไม่ออก จึงขอบารมีของหลวงพ่อ ช่วยแก้ปัญหาให้ลูกด้วยเถอะค่ะ ทางบ้านของลูกมีอาชีพทําสวนผักและขายอาหาร เมื่อเด็กๆ ชอบฟังธรรมะหลังเลิกเรียนบ้าง ก่อนทําสวนบ้าง และไปวัดวันพระ พอจบมหาวิทยาลัยก็ได้ทํางาน เป็นเสมียนห้างหุ้นส่วนจํากัดแห่งหนึ่ง ได้มีโอกาสไปถวายผ้า จํานําพรรษาที่วัดใกล้บ้านโดยวิธีจับฉลากได้เบอร์ ๑ ในใจก็คิด อุทิศให้คุณย่าที่ตายเมื่อปี ๓๑ ท่านเคยรักษาศีลอยู่วัดนี้

พอปี ๓๒ ก็ถวายผ้าจํานําพรรษาอีก ครั้งนี้ ทําให้พ่อแม่ก็จับสลากได้เบอร์นั้นอีก ซึ่งเป็นพระที่ลูกนับถือท่านมาก จึงมีแต่ความปีติสุข เพราะสองปีที่ทํานั้น ทําจนเงินหมดกระเป๋า ลูกทํางาน มีเวลาว่างมากคือ ทํางานใจระลึกแต่ทุกข์เสมอ หนักเข้าใจร้อนมาก คิดแต่เรื่องอิสระ อยากจะออกบวชไม่รู้จะทําเช่นไร ก็เลยไปซื้อผ้านุ่งผ้าห่มไปถวายแม่ชี ๑ ชุด โดยไม่เจาะจง ความอยากเข้าไปหาอีกก็เลยลาออกจากงาน อยากจะบวชก็ปรึกษาญาติผู้ใหญ่

ท่านก็บอกควรทํางานตอบแทนคุณก่อน จึงได้ไปช่วยบ้านทําสวนบ้าง ไปขายของที่ร้านอาหารบ้าง แต่ว่าตัวเองไม่ชอบค้าขายอาหาร เพราะว่ามีผลทําให้สัตว์ตาย ก็เลยช่วยพ่อทําสวนญาติพี่น้องก็ ไม่ชอบบอกว่าเรียนมาแล้วเอาความรู้มาทิ้งสวน และข้อนี้ก็เป็นเหตุให้ทางบ้าน ไม่อยากส่งเสริมให้เด็กเรียนหนังสือ ทีนี้อยากกราบเรียนถามว่า ควรจะทําอย่างไรดี กับชีวิตปานนี้เจ้าคะ

หลวงพ่อ – เออ คําถามเมื่อกี้นี้ และมีสังฆทานมาคั่นก็ดี ความจริงพระท่านบอก เมื่ออยู่กับพ่อก็บวชซะเลย ก็แล้วกัน วิธีบวชให้รักษา กรรมบถ ๑๐ ไม่ต้องไปทําอะไร ทํางานก็ได้ กินข้าวเย็นก็ได้ กินข้าวร้อนก็ได้ แต่ให้ทรงกรรมบถ ๑๐ ไว้นี่พอแล้ว มันไม่ใช่พอเฉยๆ นะ ถ้ากรรมบถ ๑๐ ครบถ้วนนี่เป็นพระโสดาบัน เป็นพระอริยเจ้าเลย รู้จักไหม กรรมบถ ๑๐ มีอะไร กรรมบถ ๑๐ ก็อย่างนี้นะ

ทางกาย ๓ อย่างคือ ๑. ไม่ฆ่าสัตว์ ๒ .ไม่ลักทรัพย์ ๓.ไม่ประพฤติผิดในกาม นี่ทางกาย

ทางวาจามี ๔ คือ ๑.ไม่พูดปด ๒.ไม่พูดวาจาหยาบ ๓.ไม่ส่อเสียดให้เขาแตกกัน คือ ไม่นินทาชาวบ้าน และก็ ๔.ไม่พูดวาจาเพ้อเจ้อเหลวไหล

ทางด้านจิตใจ มี ๓ คือ ๑ .ไม่อยากได้ทรัพย์สมบัติของใครโดยไม่ชอบธรรม ๒ .ความโกรธยังมีอยู่ แต่ไม่จองล้างจองผลาญใคร ๓.มีความเห็นตรงตามที่พระพุทธเจ้าทรงสอน เท่านี้แหละ นี่เป็นพื้นฐานของพระโสดาบันนะ ถ้าทําอย่างนี้ได้เต็มที่ คือว่ายังเหลืออีก ๒ อย่างเป็นพระโสดาบัน คือ เคารพพระพุทธเจ้า เคารพพระธรรม เคารพพระอริยสงฆ์จริง และอีกข้อหนึ่ง มีความรู้สึกว่าชีวิตนี้ต้องตาย ก็แค่นั้น เรามีพระนิพพาน เป็นที่ไป แค่นี้เองเป็นพระโสดาบัน จุดใหญ่อยู่ที่กรรมบถ ๑๐



๑๖๕. อยากจะบวชพระ


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ไม่ทราบว่าเป็นเพราะเหตุใด อยากจะบวชให้มันตลอดรอดฝั่ง ตลอดชีวิตชีวัง แต่ไม่สมความปรารถนา เพราะบิดามารดาแกไม่ยอมอนุญาต แกจะให้เรียนต่อ ผมมีความเสียใจเป็นอย่างมาก อยากจะปรึกษาหลวงพ่อว่า จะแก้ไขอย่างไรจึงจะให้พ่อแม่อนุญาต หรือไม่ก็วิธีใดวิธีหนึ่งขอรับ

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้ดีกว่านะ การบวช คิดจะบวชไม่สึก โดยมากมันบวชไม่นานนะ

ผู้ถาม - พวกอธิษฐานพูดอย่างนี้หรือครับ

หลวงพ่อ - โอ้โฮ ร้อยทั้งร้อยเลย บางทีไม่เต็มพรรษาจะไปแล้ว ขนาดชั้นเอกนะ มาจากผักไห่ ผมบวชไม่สึกครับ พอครึ่งพรรษาจะไปแล้วเอาอย่างนี้ดีกว่า การบวชหรือไม่บวช การบวชนี่มีโทษมาก ถ้าไม่บวชมีโทษน้อย สิกขาบทของพระ ๒๒๗ นี่มันยังไม่พอนะ อภิสมาจารอีก ธรรมะอีกหลายส่วนที่ลงนรกน่ะ การไม่บวชเพียงแค่ศีล ๕ เท่านั้น ฉะนั้น ก็ขอให้ฝึกมโนมยิทธิ ตั้งใจรักษาศีล ๕ ให้ครบถ้วน ตั้งใจรักษากรรมบถ ๑๐ ให้ครบถ้วนพอแล้ว ดีกว่าพระบวชห่วยๆ ตั้งหลายแสนเท่า

ผู้ถาม – เป็นพระนี่ ลงนรกง่ายกว่า

หลวงพ่อ – โอ บานเจ้าเลย เวลานี้ ๙๙ เปอร์เซ็นต์ไม่ได้เหลือนะ



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 4/2/09 at 11:47 Reply With Quote


(Update 4 ก.พ. 52)

ปัญหาเรื่องการตาย



๑๖๖. อยากฆ่าตัวตาย


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่พึ่งสุดท้ายของลูกที่เคารพ แสดงว่าจะไปแน่ ขณะนี้ร่างกายของลูกเริ่มไม่ค่อยจะดีแล้ว จนกระทั่งไม่สามารถจะช่วยเหลือตัวเองได้ ลูกคิดว่าอย่างนี้ ขอให้หลวงพ่อช่วยตัดสินใจด้วยเถิดเจ้าค่ะคือ ๑.อดอาหารให้มัน ตายรู้แล้วรู้รอดไปเลย ๒.อยากจะกินยาตาย อย่างไหนดีเจ้าคะ

หลวงพ่อ - ปฏิบัติ ๒ แบบน่ะตายไม่ดี มันกลุ้มจิตเศร้าหมอง ต้องกินข้าวให้มันตายไปเลย ตายอิ่ม ผีอิ่ม ไม่มีใครลงโทษ มีแรง ใครขวางหน้าชกเปรี้ยงๆ ไปเลย หิวตายไม่มีแรงใช่ไหม เดี๋ยวเขาลากลงนรกไปต้องกิน เจอะหน้ากินดะ อิ่มแล้ว พักก่อน หิวกินใหม่

เอาอย่างนี้ดีกว่านะ ปล่อยตามปกติของมันดีกว่า ฉันนะ ป่วยมาตั้งแต่ปี ๒๕๒๕ นี่เพิ่งจะดีเมื่อ ๓ วันมานี้เองนะ ก็ต้องถือว่า ๒ วันที่ผ่านมานี่ดีกว่ามาก ปกติที่มานี่ก็ป้อแป้ แต่หมอ ไม่เคยทิ้งนะ หมอต้องมาคอย นี่ฉันป่วยมาหลายปีแล้วตั้งแต่ ๒๕๓๐ นี่มันหนักมาก ประสาทไม่ทํางาน ฉันยังไม่บ่นเลย แต่ถ้าฉันบ่นพวกนี้ไม่ได้ยิน บ่นกับใครรู้ไหมฉันก็บ่นกับตัวเอง ก็คิดว่า เป็นยังไงก็ช่างหัวมัน

มีวันหนึ่งมายืนดูข้างนอก ประสาทมันตายหมด กระดุกกระดิกไม่ไหว คิดว่าจะอยู่ได้ยังไง พระท่านก็มา ท่านบอกต้องอยู่ ถามท่านว่าจะอยู่ได้ยังไง ท่านบอกฉันจะเอาอยู่ให้ได้ งานของฉันมีมาก งานเพื่อท่านน่ะ ถ้างานก่อสร้างเสร็จให้สอนกรรมฐานกลางวัน ที่ไหนได้สั่งต่อรถนี่ซิ ไปเยี่ยมลูกศิษย์ตามสํานักต่างๆ



๑๖๗. เรื่องฆ่าตัวตาย


ผู้ถาม - หลวงพ่อที่เคารพ เรื่องฆ่าตัวตาย บางรายก็ให้พระสวดมนต์เสียก่อน แล้วก็ทําสมาธิ เสร็จแล้วเขาก็เอาปืนยิงเปรี้ยง ตายไปเลย อันนี้เรียกว่าตายโหงแบบนั่งสมาธิ ลักษณะแบบนี้ ตายแล้วจะไปสูงจะไปต่ำเจ้าคะ

หลวงพ่อ - เดี๋ยวก่อนๆ ต้องลองตายดูก่อน ตามไปดูหัวเราะ เออ ถ้าเขาไหว้พระแบบนั้นนะไม่ต้องห่วง อย่างเลวที่สุดก็สวรรค์ ไม่แน่นะพวกฆ่าตัวตายไปนิพพานหลายคนแล้วนะ อย่างพระโคธิกะ ไงล่ะ เชือดคอตายไปนิพพาน นั่นเขาก่อนจะตายเขาบูชาพระ แค่บูชาพระขึ้นต้นมันสวรรค์แล้วนะ

ทีนี้ความมั่นคงของจิตเขาไม่ห่วงร่างกาย ตัวนี้ต้องคิด ไอ้ตัวไม่ห่วงร่างกาย มันอารมณ์นิพพานเขา เอาแน่ไม่ได้นะ

เรื่องนี้หลังจากอุทิศส่วนกุศลเสร็จแล้ว หลวงพ่อก็บอกอีกว่า

เมื่อกี้ตอนอุทิศส่วนกุศล ท่านลุงมา ท่านบอกว่าคนที่บูชาพระ ยิงตัวตายน่ะ ในบัญชีท่านไม่มี แล้วก็บัญชีพรหมบอกว่า เขาตัดสินใจนึกถึงพระพุทธเจ้า ไม่สละชีวิตจริงๆ ทําจิตเป็นฌาน นึกถึงพระพุทธเจ้าก็เลยเป็นพรหมไป อีกนิดเดียวไปนิพพาน

รายนี้ก็ยิงตัวตายเช่นกัน

ผู้ถาม - สมชายยิงตัวตายเมื่อเดือนที่แล้ว ตายด้วยอุบัติเหตุ แต่ที่ลูกถามก็คือว่า อย่างนี้ ได้ทําบุญทํากุศลเจาะจง ตามหลวงพ่อแนะนําทุกอย่างทุกประการ จะรับหรือไม่ ไม่สนใจ แต่ที่จะถามก็คือว่า อยากจะเพิ่มเติมอะไร เพื่อเป็นการสงเคราะห์แก เพราะรักและคิดถึงแกมากเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ - อยากจะเพิ่มก็เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ เดี๋ยวก่อนใครเป็นเจ้าของปัญหา โยม ยกมือซิ ไม่บอก อยากจะรู้ว่ารูปร่างเขาเป็นไง สมชายมา ๒ สมชาย มายืนอยู่ ๒ สมชาย ไม่เป็นไร เป็นอันว่าไม่ตกนรกก็แล้วกันนะ

ผู้ถาม - ครับๆ เอ๊ะ แปลกนะครับหลวงพ่อ ธรรมดาโบราณเขาบอกว่า คนที่ตายโหง ยิงตัวตาย ฆ่าตัวตาย กินยาตาย เป็นอะไรตายนี่เขาว่าตกนรกนี่ อย่างนี้มีด้วยหรือครับ

หลวงพ่อ - ก็สุดแล้วแต่กรรมซิ ถ้าเวลาจะตายจิตใจเศร้าหมอง ก็ลงอบายภูมิ ถ้าก่อนจะตายจิตใจผ่องใส ถ้าบังเอิญ ขณะที่ก่อนจะตายรถชนตายนะ จิตใจเขานึกถึงพระ นึกถึงบุญ อย่างใดอย่างหนึ่ง ตอนเช้าอย่างที่แนะนําเมื่อกี้นี้ ตอนเช้านึกไว้ก่อน อารมณ์นั้นจะทรงตัว กันลงนรกได้เป็นอย่างดี



๑๖๘. อยากจะตาย


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าคะ ดิฉันเบื่อโลกเหลือเกิน อยากจะตายวันตายพรุ่งให้รู้แล้วรู้รอดไป เพราะไม่กลัวแล้ว เรื่องความตาย แต่ก็ไม่แน่ใจว่าอารมณ์แบบนี้ตายจริงๆ แล้ว ไม่รู้จะไปล่างหรือไปบน ก็เลยอยากจะถามหลวงพ่อว่า เมื่ออารมณ์จิตอย่างนี้เกิดขึ้น เราควรจะอธิษฐานแบบไหน อย่างไร เผื่อว่าตายจริงๆ เราจะได้ไม่ลงข้างล่างเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ – อธิษฐานว่า ฉันยังไม่ตายๆๆ เอาอย่างนี้ซิ นึกถึงพระพุทธเจ้าโดยเฉพาะ เอาพระพุทธรูปองค์ใดองค์หนึ่งก็ได้นะ วางข้างหน้า จําภาพท่านไว้ ถ้าตายเมื่อไรไปข้างบนเมื่อนั้น

ผู้ถาม - ง่ายดีนะ มีต่ออีกหน่อยครับ อีกอารมณ์หนึ่งเป็นอย่างนี้เจ้าค่ะ เวลาลูกทําบุญก็ดี ถวายสังฆทานก็ดี ใจมันเฉยๆ ไม่ยินดีไม่ยินร้าย ไม่อิ่มไม่สบาย คล้ายว่า ทําสักแต่ว่า ทําอย่างนั้นแหละ อารมณ์อย่างนี้ลูกว่าไม่ดี แต่ลูกก็แก้ไม่ได้ เพราะมันเป็นนิสัยตั้งแต่เด็ก มาบัดนี้ลูกขอบารมีหลวงพ่อช่วยสงเคราะห์สักครั้งเถิด เพราะเกรงว่าทําแล้ว จะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ - ก็ยังดีกว่าไม่ได้ทํา จิตเฉยๆ ก็มีอานิสงส์เต็ม แต่ว่าสวยน้อยกว่าเขาหน่อย เป็นนางฟ้าได้แต่สวยน้อยกว่าเขานิดหนึ่ง ไอ้ตัวยินดีตัวยิ้มนี่ ทําให้สวยมาก จําให้ดีนะ เวลาถวายสังฆทานต้องยิ้มๆ นะ



๑๖๙. พี่น้องทําไมอายุสั้น


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง กระผมแปลกใจมาก พี่ๆ น้องๆ ทําไมอายุสั้นพลันตาย กันเหลือเกิน ไม่เห็นจะตายครบกําหนดอายุขัย แต่นี่ไม่ใช่ปัญหา ปัญหาก็คือว่า การทําบุญอุทิศให้คนที่ตายก่อนอายุขัยประเภทอุปฆาตกรรมอย่างนี้ จะพึงมีผลแก่ผู้ตายหรือเปล่าครับ

หลวงพ่อ - ความจริงคนที่ตายก่อนอายุขัย จะบอกให้ทราบนะ เอาอย่างนี้ก่อน คนที่ตายตามอายุขัย ตายปุ๊บจะต้องตายไปตามกําลังบุญและกําลังบาป ถ้าเวลานั้นคบบาป ไปตามบาปทันที ถ้าคบบุญไปตามบุญทันที และบาปจะไปนรกก็ไม่ได้ ไปสวรรค์ก็ไม่ได้ ที่เขาเรียกว่า สัมภเวสี

สัมภเวสีนี่ ถ้าหากว่าญาติฉลาด ทําบุญจะถวายสังฆทาน หรืออะไรก็ตามเจาะจงให้แต่ผู้เดียว อย่าเผื่อคนอื่น อย่างนี้จะได้รับทันที เป็นผีที่มีความสุข แล้วก็คนนั้น ถ้าถึงวาระอายุขัย จะไม่ไปนรกแล้ว ไปสวรรค์ก่อน ตามกําลังของบุญ



๑๗๐. สามีตายด้วยอุบัติเหตุ


ผู้ถาม - กราบนมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงยิ่ง ลูกขอพึ่งบารมีของหลวงพ่อ เพื่อช่วยลูกสักครั้งเถิด แล้วจะไม่รบกวนต่อไป แน่ใจหรือเปล่า

หลวงพ่อ – แน่ใจ ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ครั้งต่อไปก็เป็นครั้งสุดท้าย

ผู้ถาม - คือว่าอย่างนี้เจ้าค่ะ สามีของลูกเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ ตั้งแต่ปี ๒๕๑๘ จงรักภักดีปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ โดยการยึดพระนิพพานเป็นที่พึ่งด้วยดีมาโดยตลอด แต่ว่าเมื่อวันที่ ๕ พย นี้ บังเอิญสามีแกก็โดนอุบัติเหตุตายแปลว่าตายนะ ที่ลูกจะเรียนถามครั้งแรกและครั้งสุดท้ายก็คือว่า คนที่เจตนาตั้งใจ จะเข้าพระนิพพานชาตินี้เสมอๆ มาด้วยดีโดยตลอด แต่มาตายด้วยอุบัติเหตุอย่างนี้ แกยังจะพอมีสิทธิ์จะไปตามความปรารถนา หรือเปล่าคะ

หลวงพ่อ - เขามีสิทธิ์ นั่นหมายความว่า สมมุติว่าเขาไปเป็นเทวดาหรือพรหมนะ เขาต่อเลย

ผู้ถาม – อย่างนี้ก็ดีซิครับ ต่อได้ แต่ถ้าไปได้ก็ไปเลยไป ไม่ได้ก็ไปต่อ

หลวงพ่อ - ถ้าไปไม่ได้ก็ชั้นยามา ไปต่อที่นั่น



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 13/2/09 at 10:43 Reply With Quote


(Update 13 ก.พ. 52)

๑๗๑. วิธีเตรียมตัวเผื่ออุบัติเหตุ


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา เดี๋ยวนี้มีอุบัติเหตุตายโหงตายกระเทียม กันบ่อย เอ๊ะ ตายกระเทียมเป็นยังไง เช่น เรือบินตก เดี๋ยวเรือทะเลอับปางแทบทุกวัน ลูกจะขอคําแนะนําเตรียมตัว เผื่อจะตายแบบนั้น เมื่อตายไปแล้ว ลูกจะได้ไปเกิดในที่สบาย เวลาตายจะได้สะดวกเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ - เอาแบบนี้ดีกว่า อย่าเพิ่งตายดีกว่า ฉันขาดเจ้าภาพ ไปคนนะ ถ้าตายพระเสียประโยชน์ เอาอย่างนี้ดีกว่า ภาวนา พุทโธ ไว้ มันอยากจะตายก็เชิญตาย ไม่อยากตายก็ไม่ตาย แต่ขอให้ข้าพเจ้าอย่าเพิ่งตายๆๆ ตายก็ช่างมัน อย่าเพิ่งตายๆๆ ต้องว่ามากๆ ตายก็ช่างมัน นานๆ ครั้ง หัวเราะ



๑๗๒. วิญญาณสิง


ผู้ถาม - หากที่ไหนเกิดอุปัทวเหตุมีคนตายมาก สถานที่แห่งนั้น จะมีวิญญาณสิงอยู่ และมีการตายแทนทุกที วิญญาณเก่าจะได้ไปเกิดจริงหรือเปล่าคะ

หลวงพ่อ - อย่างนั้นละผีทะเลาะกัน มันอยู่นานๆ ก็เบียดกัน ตีกันอยู่นั่นแหละ ความจริงไม่เป็นอย่างนั้นนะ คือ วิญญาณคนหรือสัตว์ที่ตายไปแล้วไม่อยู่ที่นั่น มันต้องมีที่ไป คือ ถ้าตายไปแล้ว ถ้าอารมณ์เป็นกุศลก็ไปสู่สวรรค์ เป็นต้น ถ้าอารมณ์เป็นบาปในเวลานั้นก็ไปสู่นรก เป็นต้น มันไม่อยู่ตรงนั้นหรอกถ้ายังไม่ถึงเกณฑ์บุญ ไม่ถึงเกณฑ์บาป เป็นสัมภเวสี ก็ต้องไปที่อื่น

ความจริงถ้าจะมีคนตายซ้ำที่ตรงนั้น ก็เป็นกฎของกรรม คนนั้นจะต้องตายที่นั่น คือว่าผีไม่อยู่ตรงนั้น ก็คงจะต้องถกเถียงกันอีกว่า เอ๊ะ ที่ตรงนั้นทําไมมีคนตายกันบ่อยนะ ก็ต้องตอบตามหลวงพ่อว่า ถึงวาระที่เขาจะต้องตายตรงนั้น

เรื่องนี้เคยมีคนเล่าให้ฟัง มีคนๆ หนึ่งแขวนพระเครื่อง ของพระชื่อดังองค์หนึ่ง เขาบอกว่าปืนยิงไม่เข้า แต่วันหนึ่งเกิดถูกยิงตาย ก็มีคนสงสัยไปถามหลวงพ่อองค์นั้นท่านก็บอกว่า ลองพลิกศพให้ห่างจากที่ตรงนั้นซิ ปรากฏว่าปืนยิงไม่เข้าจริง ๆแสดงว่าเขาถึงที่ตายตรงนั้น เป็นกฎของกรรมที่ห้ามไม่ได้จริงๆ

ผู้ถาม - ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ




๑๗๓. ตายหมู่


ผู้ถาม - ปีนี้ไม่รู้เป็นยังไง เดี๋ยวที่นี้เป้ง เดี๋ยวที่โน่นโป้ง ทั้งเรือรบ เรือบิน รถไฟ ตายหมู่เยอะเลยครับ

หลวงพ่อ – เออ เรื่องตายหมู่นี่แปลกนะ มันเคยมีอยู่ปี ปีที่มหาอุดม ตาย ที่รถชนกันน่ะ นานแล้ว ก็มีนักโหราศาสตร์เขาบอกว่า นี่ตัดเคราะห์ของประเทศ ปีนั้นดาวอะไรต่อดาวอะไร มันชะเง้อหน้ามองกันก็ไม่รู้ เขาบอกว่าเล่ากันไปเล่ากันมา ดาวอังคารกับดาวอะไรไม่ทราบ ดาวอังคารมันดาวสงคราม เขาพยากรณ์ว่าปีนี้ต้องไม่แคล้วสงคราม

พอเกิดรถชนตายหมู่คราวนั้น รถไฟด้วย เขาบอกปลอดสงครามแน่ ตามวิธีโหราศาสตร์เขานะแล้วก็ปลอดจริงๆ แต่อาการเครียดแล้วก็ปลอด ไอ้นี่ก็เหมือนกัน ก็ต้องคิดเหมือนกัน มันก็ต้องมีเรื่องส่วนใหญ่เกี่ยวกับประเทศ และคนที่จะต้องตายนั่น ก็ต้องถึงวาระตายจริงๆ นะ ถ้ายังไม่ถึงวาระตายก็ยังไม่ตาย ถ้าตายเมื่อไรถึงวาระเมื่อนั้น

ผู้ถาม – แหม ตายน่าแปลก ก็คือว่าอย่างไปทอดกฐินไปทอดผ้าป่า ไปทําบุญทํากุศล ไม่น่าไปสวัสดีกับสิบล้อเลย

หลวงพ่อ - ไอ้นี่ฉันว่ามันดีนะ เขาถึงเวลาจะตายใช่ไหมแต่บังเอิญ เวลาจะตายเขาตั้งใจเป็นกุศล เมื่อตั้งใจเป็นกุศลอย่างนี้ ไปนรกไม่ได้ จิตตั้งไว้ก่อนว่าเราจะไปทําบุญ อันนี้แน่นอน นั่น เขาโชคดีมาก บุญเก่าเข้าถึง



๑๗๔. สะเดาะเคราะห์ต่อชะตา


ผู้ถาม - ถ้ารู้ว่าจะตาย ไปสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา จะแก้ได้ไหมครับ

หลวงพ่อ – สะเดาะเคราะห์ ดีมาก อย่างน้อยที่สุดหมอก็หมดเคราะห์ไป หมอได้สตางค์ ไอ้คนสะเดาะเคราะห์ ก็เพิ่มเคราะห์ไป เออ วันนี้ก็เจอะเรื่องๆ หนึ่ง มีนางทหาร

ผู้ถาม - เอ๊ะ มีแต่นายทหารนี่ครับ

หลวงพ่อ – อ้าว ผู้หญิงเรียกนายทหารได้เหรอ ารเป็น นาวาอากาศโท ไปแวะที่บ้าน เสธ.อาทร วันนี้นะ เธอก็เขียนหนังสือมาเห็นแค่นยิ้ม คิดว่าไอ้เจ้านี่คงมีอะไรสักอย่าง พอเข้ามาใกล้เขาก็ถาม แกก็ไม่พูด แต่เขียนหนังสือให้ ก็เลยบอกประเดี๋ยวก่อน หลวงพ่อทําน้ำมนต์ให้พรก่อน ถ้ามีใคร บอกอะไรก็จะบอก ถ้าไม่มีใครบอกอะไรก็ไม่บอก เขาบอกเขา ชะตาขาด

แต่ความจริงในขณะพรมน้ำมนต์ แทนที่จะมีคนบอกอะไร กลับมีภาพ ข้าว ๑ จาน ปลาทูนึ่ง ๑ ตัว กล้วยหอม ๑ ลูก ได้ยินเสียงบอกว่า เท่านี้ก็พอ เท่านั้นเอง ก็เลยบอกไอ้หนูเอ๋ย มีภาพแบบนี้ เอ็งไปทําตามนี้ก็แล้วกันนะ ไอ้เรื่องชะตาขาดก็ไม่มี เสียงบอก ได้ยินแต่เท่านี้ก็พอ หมายความว่า ถ้าเป็นการสะเดาะเคราะห์หรือต่อชะตา ก็ราคาถูกมาก

ผู้ถาม – แหม ความจริงหมอดู ก็ชอบพูดเคราะห์ร้ายชะตา ขาดอยู่เรื่อย

หลวงพ่อ - ไอ้นี่มันเป็นลีลาของเขา ฉันเคยอยู่ในกลุ่มหมอดู แต่ฉันไม่ได้เป็นหมอดูนะ คือ เมื่อสงครามโลกครั้งที่ ๒ บ้านพวกหมอดูถูกระเบิด เขาไม่มีที่พัก ทีนี้คณะของฉัน พระอพยพไปต่างจังหวัดกันเยอะ กุฏิก็ว่าง เลยให้พัก เป็นหมอดู ๔-๕ คน ก็เป็นอันว่าตอนเช้าไม่มีอะไร ก็คุยกันเรื่องหมอดู ตอนเย็นกลับมา ไม่มีอะไรก็คุยกันเรื่องหมอดู ทีนี้ลีลาเขามี คนเป็นหมอดูเขาจะหาทางให้สะเดาะเคราะห์

ทีแรกแกจะพยากรณ์ก่อน ดูถูกทุกอย่าง พอถูกหมด ๓-๔ ข้อ ก็เริ่มเข้ามุมนี้ ไอ้ดาวดวงนั้นมันเล็งกับดาวดวงนี้นะ จะรวยมาก แต่ต้องสะเดาะเคราะห์เสียก่อน ถ้าไม่สะเดาะเคราะห์ไม่เข้าไอ้ตรงนี้ ตายก่อน ทีนี้ก็ทุ่มละ เท่าไรก็สู้ อันนี้เป็นลีลาของหมอดู

อย่างรายวันนี้ก็เหมือนกัน บอกชะตาขาด พอเขียนมา ฉันก็นึกแล้ว เคยอยู่ในกลุ่ม เลยบอกรอก่อนไอ้หนู เดี๋ยวหลวงพ่อ ทําน้ำมนต์ก่อน ให้พรเสร็จ ถ้ามีอะไรมาก็บอก ไม่มีอะไรมาก็ไม่บอก พอดีตอนให้พรจวนจะสุด ก็มีภาพเกิดแล้วก็มีเสียงบอกมาเท่านี้ก็พอ

ผู้ถาม - อย่างนี้หลวงพ่อก็สบาย ใช้ภาพกับเสียงพออาศัยได้

หลวงพ่อ – ก็ดีอย่าง ถ้าไม่ปรากฏก็ไม่บอก ไม่ปรากฏบอกยังไงล่ะ ถ้าไม่ปรากฏ เราพูดไป ก็ไม่ตรงตามเป้าหมาย ของเขาใช่ไหม เจ้าภาพก็เสียสตางค์เปล่า ไม่เกิดประโยชน์ จะว่า ปลาทู ๑ ตัวไม่เท่าไร แต่ว่าสตางค์เขาเก็บไว้เขาอิ่ม ใช่ไหม

ผู้ถาม - พอเขาฟังหลวงพ่อว่าแล้ว หน้าสดชื่นขึ้นไหมครับ

หลวงพ่อ - ก็หน้ามันไม่ได้เหี่ยว แต่ว่าคราวนี้ยิ้ม เป็นยิ้มแจ่มใส



๑๗๕. หมอทายลูกอายุ ๒๕ ไม่ดี


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่าลูกชายอายุย่าง ๒๕ ปี หมอทายไม่ดี ลูกก็ไม่สน ลูกเลยเอามาฝึกมโนมยิทธิที่ซอยสายลม ก็ปรากฏว่า มาวันนั้นปุ๊บปั๊บได้เลย

ทีนี้ต่อมาไม่กี่วันเกิดเป็นไข้ตัวร้อนจัด หาหมอที่โรงพยาบาลฉีดยา ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ กลับหนักขึ้นไปอีก พอกลางวัน แกคลานเข้าไปในห้องพระ มีเสียงบอก หลวงพ่อ ใจจะขาดอยู่แล้วๆๆ แผล็บเดียว แกหลุดขึ้นไปเจอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เจอท่านแม่ แกกราบด้วยความยินดียิ่ง แล้วผลสุดท้าย ท่านบอกว่า อายุของเอ็งมันเหลือแค่ ๒๕ ปี

ลูกเสียดายก็เลยต่อรองกับท่าน ท่านก็เลยบอกว่า เอ้า เอาไป ๔๕ ปีก็แล้วกัน แล้วลูกก็พุ่งมาสู่ร่างอย่างเดิม พอลุกขึ้นมาแล้ว ก็มานึกในใจว่า เอ๊ะ การมีร่างกายขันธ์ ๕ ไม่ดีเลย ขอเปลี่ยนใหม่ได้ไหมครับ เอา ๔๕ คืนไป ผมอยากจะไปนิพพานให้รู้แล้ว รู้รอดไป ขอหลวงพ่อได้โปรดบอกองค์สมเด็จว่าขอคืนกลับ

หลวงพ่อ - บอกแทนกันไม่ได้นะ บอกแทนกันไม่ได้ อันนี้ไม่ได้แน่

ผู้ถาม - เขาอยากจะมีอายุยืน ก็ขอท่านมาแล้วกลับคืนเสียอีก

หลวงพ่อ – ไม่ใช่ ที่นั่นสบายกว่า ไอ้ตอนนั้นจิตอารมณ์ของโลก ยังติดอยู่ใช่ไหม ก็คิดว่าถ้าตายเสียเวลานี้อายุจะน้อยเกินไป แต่ความจริงมันจะสุขมากกว่า ทีนี้กลับมาทีหลัง ร่างกายมันก็ปวดอีก นึกว่าอยู่ที่นั่นมันไม่ปวดดีกว่า อยากจะไป นี่ต้องไปตกลงกับท่านใหม่นะ

ผู้ถาม – ตกลงก็ติดต่อเองนะ

หลวงพ่อ - ใช่ อ้อ ลุงบอกไม่ได้ บัญชีบอกไม่ได้บันทึกไว้แล้ว



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 25/3/09 at 15:46 Reply With Quote


(Update 25 มี.ค. 52)

๑๗๖. ตายวัยเบญจเพศ


ผู้ถาม - ระยะนี้ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร คนที่อยู่วัยเบญจเพศ มักจะประสบเคราะห์กรรมเสมอ ลูกอยากจะขอคําแนะนําหลวงพ่อว่า คนที่กําลังจะเป็นเบญจเพศ หรือเริ่มจะปีเบญจเพศ จะมีวิธีแก้ไขอย่างไร เพื่อจะไม่ให้เคราะห์กรรม ตามติดเจ้าคะ

หลวงพ่อ - อย่างนี้ง่ายมาก คือว่าเป็นการกันเคราะห์ ใช่ไหม ถ้าหากไม่ตาย ๒๕ จะให้เท่าไร ให้มากกันได้มาก ให้น้อยกันได้น้อย เอาอย่างนี้ซิ ใส่บาตรเป็นไหมล่ะ ใส่บาตรพระตอนเช้าๆ สักองค์สององค์ก็ได้นะ แล้วก็ปล่อยปลาสักตัวสองตัวก็ได้ เท่านั้นปลอด คือปลอดจากความตาย กระโดกกระเดกไม่รู้ ถ้าเคราะห์มาก อาจจะเจ็บป่วยบ้าง แต่ไม่ตายแน่ ถือว่าชีวิตทรงตัวอยู่ก็แล้วกัน ไม่ตาย แล้วก็ไม่ทุพพลภาพ เอาแค่นั้นนะ



๑๗๗. ลูกชายผูกคอตาย


ผู้ถาม - กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลูกชายของกระผมผูกคอตายในบ้าน วิญญาณจะอยู่หรือจะไปที่ไหนผมไม่ถาม เพราะไม่อยากรบกวน แต่ที่กําลังเป็นทุกข์อยู่ ในขณะนี้ก็คือ คนในบ้านมีความกลัวผีคนที่ผูกคอตายเป็นอย่างมาก กินไม่เป็นอันนอน

หลวงพ่อ - ใช่ ๆ อันนี้ไม่เถียง ตรงกับแบบฉบับของฉันเลย เวลากินไม่ได้นอน นอนไม่ได้กิน
ผู้ถาม – หัวเราะ อยากจะขอคําแนะนําของหลวงพ่อว่า จะมีคาถาอันใดหรือของอะไร เพื่อจะแก้ความหวาดกลัว กับคนที่อยู่ในปัจจุบันนี้ขอรับ

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้ซินะ มีคาถาอยู่บทในเจ็ดตํานานเป็นบท "กรณีย ฯ" แต่ท่องตอน "เมตตัญจะ สัพพะโล..." บทนี้เทวดารัก ผีรัก บทนี้ที่พระเคยไปเจริญพระกรรมฐานในป่า สมัยพระพุทธเจ้านะ เวลานั้นเทวดาก็ต้องอุ้มลูกอุ้มหลานลงจากยอดไม้ คิดว่าพระจะไปวันสองวัน แต่พระก็จําพรรษาเต็มพรรษา พอกลางๆ พรรษา เทวดาเห็นไม่กลับก็ชักรําคาญ แสดงเป็นเสียงเสือบ้าง เสียงสิงห์บ้างให้กลัว แต่ในพรรษาพระก็กลับไม่ได้ ออกพรรษาก็มา มาแล้วก็หาพระพุทธเจ้า มาเล่าให้ฟัง พระพุทธเจ้าถามว่า มีความสุขดีหรือ เธอก็บอกว่า ตอนต้นมีความสุข แต่ตอนหลังมีเสียงร้ายแรงปรากฏ ทําให้ไม่สบายใจ

พระพุทธเจ้าก็บอกว่า เธอไปป่าไม่เอาอาวุธไปด้วย พวกนั้นก็ถามว่า ในพระพุทธศาสนามีอาวุธหรือพระพุทธเจ้าข้า พระพุทธเจ้าก็บอกว่า มี ไม่ใช่มีด ไม่ใช่ขวาน ไม่ใช่ธนู เป็นคาถา พระพุทธเจ้าก็ทรงแนะนํา "เมตตัญจะ สัพพะโล..." พระองค์นั้นก็กลับไปอยู่ใหม่ เทวดารัก เลี้ยงข้าว เลี้ยงของ พระก็อยู่สบาย ก็รวมความว่า คาถาบทนี้ ไม่ว่าเทวดาก็ตาม ผีก็ตามรัก ไม่มีอันตรายนะ



๑๗๘. คุณแม่ตายไปดี


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คุณแม่กิมลุ้ย ได้ถึงแก่กรรม เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม คุณแม่เคยอยู่ลพบุรี เคยทําบุญทํากุศลกับหลวงพ่อหลายครั้งหลายหน แล้วก็ไม่สบาย ไม่รับรู้ทางประสาทมา ๑๑ ปีแล้ว ปัญหาที่ลูกจะเรียนถามก็คือว่า ผู้ที่ตายในลักษณะอย่างนี้ คิดว่าคงเป็นเพราะ สติสัมปชัญญะไม่สมบูรณ์ ก็อยากจะหาทางช่วยเหลือสงเคราะห์ท่าน จะทําบุญแบบไหนถึงจะช่วยอนุเคราะห์ท่านได้บ้างขอรับ

หลวงพ่อ - ที่บอกไม่สมบูรณ์ ไม่รู้เรื่องนะ ไม่จริง เจ้าของเขามา กิมลุ้ยมาเขาบอกเขามีจิตเป็นกุศลอยู่

ผู้ถาม – อ๋อ คนที่เฉยๆ นี่ ข้างในไม่ได้เฉยด้วยหรือครับ

หลวงพ่อ - ก็ก่อนที่จะป่วย จิตเขาเป็นกุศลอยู่แล้ว ใช่ไหม ยิ่งป่วยขึ้น จิตก็เกาะกุศลมากขึ้น คนป่วยก็เหมือนกับคนตกน้ำ คนตกน้ำส่งอะไรให้ก็เกาะใช่ไหม ทีนี้ก่อนจะป่วยหนัก จิตเขาเกาะในสิ่งที่เป็นกุศล เขาเห็นภาพพระ เห็นผ้าไตร แกอธิบายเช่นนี้นะ ผิดถูกช่างแกเถิด ผีว่าอย่างไรคนว่าอย่างนั้น ก็หมายความว่าคุณกิมลุ้ยไม่ได้ทุกข์

ผู้ถาม – แหม จริงๆ นะ ถวายสังฆทานให้หลวงพ่อ รู้สึกได้เปรียบทุกๆ คนเลยนะ เวลาตายแล้วสบายจริงๆ

หลวงพ่อ – ไม่แน่หรอก บางคนลําบาก

ผู้ถาม – มีลําบากด้วยหรือครับ

หลวงพ่อ - ลําบาก เอาถังสังฆทานไปแขวนที่วิมานน่ะซิ เป็นทองคําหมด ใช่ไหม ไปไหนก็กลัวคนมาลัก เลยต้องนั่งเฝ้าเลย

ผู้ถาม - แหม น่าดีใจนะ สังฆทานนี่ จิตจับแล้วยังไปรอดได้



๑๗๙. เอาพระพุทธรูปให้ยายดูก่อนตาย


ผู้ถาม - กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คุณยายเจียวหมา ได้ถึงแก่กรรม

หลวงพ่อ – เดี๋ยว ใช้น้ำมันอะไร

ผู้ถาม - ชื่อเจียวหมาครับ แหม ชื่อตั้งเยอะแยะ ดีนะ ถ้าตวัดไม้ตรีมาละวุ่นเลย ทีนี้ก่อนที่แกจะถึงแก่กรรม นั้น ลูกก็พยายามจะช่วย โดยเอาพระพุทธรูปให้ดู แกพยักหน้า แต่ว่าคนจีนเหมือนกันเขาหาว่าลูกบ้า ทําบ้าอย่างนี้เป็นการแช่ง ให้แกตายไวๆ แล้วในที่สุดลูกก็หาทางมอบเงินให้แกมาทําสังฆทานกับหลวงพ่อ แล้วลูกกระซิบที่หูว่า นี่ยายร่างกายไม่ดีนะ ไปนิพพานเลยนะ เวลาตายแกบอกว่า อือ ไม่รู้จะไปได้หรือเปล่ายังลังเล สงสัยอยู่ว่าแล้วแกก็ตายไปเลย

ที่จะเรียนถามก็คือว่า คนที่กําลังลังเลเรื่องพระนิพพาน โดยไม่แน่ใจจะไปได้หรือไม่ ตายในลักษณะอย่างนี้ อย่างต่ำพอจะมีหวังไปดาวดึงส์ได้หรือไม่เจ้าคะ

หลวงพ่อ - ถ้าสวรรค์เขาได้แน่นอนนะ เพราะอารมณ์ขั้นปลายสุด เราไปแนะนําเรื่องนิพพานสูงสุดเขา ถ้าลังเลสงสัยยังไปไม่ได้ อย่างเลวที่สุดก็ไปสวรรค์ อย่างกลางก็ต้องเป็นพรหม เพราะอารมณ์เขาสูงมาก แต่นิพพานนี่ ไปไม่ได้แน่นอนเพราะสงสัย

หลังกรรมฐานแล้ว หลวงพ่อบอกว่า ลุงพุฒิ มาบอกว่า คุณยายที่ลังเลไปนิพพานนั้น ตอนนี้อยู่ชั้นยามา



๑๘๐. เห็นท่านลุงพุฒิ


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เมื่อคืนตอนอุทิศส่วนกุศล ลูกได้เห็นพระยายม ลุงพุฒิ มายืนอยู่ ก็ทําท่าพิกล ก็เลยคิดในใจว่า คนที่เห็นพระยายมราชนี่ใกล้ตายเต็มทีแล้ว ลูกตกใจยังไม่อยากตายเจ้าค่ะ ไม่กลัวตายแต่ยังไม่อยากตาย ยังมีหนี้อีกเยอะ กราบเรียนถามหลวงพ่อว่า จะเป็นไปตามความรู้สึกของลูกหรือเปล่าเจ้าคะ การเห็นพระยายมแสดงว่า ตัวเองใกล้จะตายใช่ไหมเจ้าคะ

หลวงพ่อ - เห็นหรือไม่เห็นก็ใกล้ตายทุกคนแหละ อย่างยกทรง นี่ใกล้มากเอาแค่ใกล้ยังไม่ถึงตายซิ คนทุกคนเดินเข้าไปหาความตายทุกวินาที อย่าประมาทในชีวิตนะ แต่ว่าคนที่เห็นพระยายม ไม่ใช่หมายความว่าจะตาย ต้องถือว่า โชคดี อย่างฉันที่เห็นพระยายม ทุกคนนั่งต่อรองกับท่าน ฉันไม่กลัวตาย ตายเมื่อไรไม่ว่า แต่ยังไม่อยากตาย พูดถึงพระยายมก็ดี ยังไม่ใกล้ตายนะ



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 2/4/09 at 09:26 Reply With Quote


(Update 2 เม.ย. 52)

๑๘๑. ไม่ต้องการผ่านสํานักพระยายม


ผู้ถาม - ลูกขอกราบเรียนถามว่า ถ้าไม่ต้องการผ่านสํานักพระยายม จะต้องทําบุญด้วยอะไรครับ

หลวงพ่อ - ถ้าไม่ต้องการผ่านสํานักพระยายม ต้องเกาะจรวด รีบขึ้นสวรรค์น่ะ วิธีทําบุญก็ ๑. ทานต้องมี ๒. ศีลบริสุทธิ์ ๓. มีความเคารพในพระไตรสรณคมน์ ๔. หวังนิพพาน เป็นที่ไป ถ้าทําใจได้อย่างนี้เป็นปกติ ขอยืนยันว่าไม่ต้องผ่านสํานักพระยายม ไปตรงสวรรค์ พรหมโลก หรือนิพพาน



๑๘๒. คุณตาตาย


ผู้ถาม - หลวงพ่อขอรับ ช่วยลูกด้วยเถิด คือวันที่ ๔ ม.ค นี้ คุณตาของผมได้เสียไป แต่เมื่อผมถวายสังฆทาน อุทิศให้ท่านแล้ว ปรากฏว่าพบท่านนอนก่ายหน้าผากอยู่แล้ว ผมก็แนะนําท่านในนิมิตว่า สังขารทั้งหลายทั้งปวงเป็นทุกข์นะ อย่ายึดมั่นถือมั่น ก๋งเอ๋ย อย่าห่วงสังขารเลยนะ จงละสังขารนี้แล้ว ก็ไปนิพพานนะ แป๊บเดียว ปรากฏว่าร่างทั้งหมดนั้นกลายเป็นดวงไฟขาว ลูกดวงโตลอยสูงหายไปเลย กระผมก็เลยมีความสงสัยว่า ในลักษณะอย่างนี้ท่านจะไปสูงหรือไปต่ำขอรับ

หลวงพ่อ – ลอยสูงหรือลอยต่ำ.

ผู้ถาม - เอ๊ะ ธรรมดาไฟมันต้องสีแดง แต่นี่ไฟสีขาวนะ หลวงพ่อ

หลวงพ่อ - น่ากลัวจะไฟเงิน หมายความว่าถ้าเป็นเทวดา สีที่ออกมาจากตัวก็เป็นสีใส เราก็เรียกกันว่าสีขาวใช่ไหม

ผู้ถาม – ใช่ครับ

หลวงพ่อ - ความจริงถ้านอนก่ายหน้าผาก แสดงว่าเป็นเทวดาอยู่แล้วนะ นั่นไปสอนเทวดาต่อ

ผู้ถาม - ก็เป็นอันว่า ท่านไปดีแล้ว

หลวงพ่อ – เขาไปก่อนมาดีแล้ว

ผู้ถาม - เอ๊ะ แปลกนะ เวลาไปดี ๆ เวลามาแสดงตัวน่าจะแสดงดีๆ กลับนอนก่ายหน้าผากเสียอย่างนั้นแหละ

หลวงพ่อ - น่ากลัวจะเป็นอาชีพเดิมละมั้ง อาจจะชอบก่ายหน้าผาก ไม่อย่างนั้นก็แสดงออกว่า เดิมทีเดียวทํายังไง สมัยที่มีชีวิต ถ้าไม่ทําอย่างนั้น จะเข้าใจผิดว่า ไม่ใช่ตัวเรา โดยมากผีแสดง แบบนั้นนะ



๑๘๓. ลูกหมาตายไปสวรรค์


ผู้ถาม - กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เพื่อนข้างบ้านเอาลูกหมามาฝากเลี้ยง ลูกหมาอายุได้แค่ ๓ เดือน พอมาเลี้ยงปั๊บก็ได้ผลทันตา คือป่วย พาหมอรักษา หมอบอกว่าไม่ไหวแล้ว ผลสุดท้ายใกล้จะตายลูกทําอย่างนี้เจ้าค่ะ เอาพระพุทธรูปมาให้ลูกหมาดู แล้วบอกให้ลูกหมาท่อง หายใจเข้า พุท หายใจออก โธ โอ มาเจอครูสอนกรรมฐานเข้าแล้ว สงสัยจะปฏิสัมภิทาญาณ ขนาดคนยังสอนไม่รู้เรื่องนะ

ลูกให้ทําอยู่อย่างนี้ แกก็มองดูเป๋งเลยเจ้าค่ะ ตายเมื่อวันที่ ๒๕ ธค พอเช้ามืดวันที่ ๓๐ ลูกสวดมนต์ทําสมาธิ จิตสงบมาก แป๊บเดียวเท่านั้นเอง ลูกหมาตัวนั้นก็ปรากฏ ลูกเลยถามว่า

นี่เอ็งน่ะ ไปอยู่ชั้นไหน เอ๊ะ พูดกันรู้เรื่องนะ มันตอบทันที ว่าไปอยู่ชั้นดาวดึงส์ ถามว่าเจ้าไปได้ยังไง บอก เดี๋ยวคอยดูนะ แพล๊บ เขาก็เปลี่ยนร่างทันที เป็นเทวดาชั้นดาวดึงส์

ลูกมองเห็นแล้วก็ตกใจ เอ๊ะ เป็นไปได้ยังไง เพราะหมาก็ไม่ได้ว่าพุทโธ รูปพระพุทธรูปที่ดู แกจะดูหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ก็มาสงสัยว่า แกไปดาวดึงส์ได้ จะเป็นไปได้หรือไม่เจ้าคะ สัตว์เดรัจฉาน ไปเกิดเป็นเทวดา

หลวงพ่อ - เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน สัตว์ที่มีคนเลี้ยง พวกนี้ตาย แล้วส่วนใหญ่เป็นเทวดา เป็นคนน้อยมาก ส่วนใหญ่เป็นเทวดา โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่มีคนเลี้ยง บุญวาสนาบารมีเขาดีแล้ว การให้ดูพระไม่ใช่เขาไม่ทราบ พระพุทธเจ้าเพียงแค่เห็นเท่านั้นนะ พระพุทธรูปคือพระพุทธเจ้าใช่ไหมล่ะ แค่เห็น แต่หมาตัวนี้จิตเป็นกุศลอยู่แล้วนะ ไม่อย่างนั้นคนไม่เลี้ยง ก็ไป ดาวดึงส์ไม่ยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราไม่ให้ดูพระ เขาก็ไปได้อยู่แล้ว แต่ไปได้ดีขึ้น จะพูดว่าเขาไม่รู้ประสาไม่ได้

ดูตัวอย่าง โฆษกเทพบุตร ก่อนจะตาย พระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านลากลับ โฆษกเทพบุตรเวลานั้นท่านเป็นหมา เป็นหมาด้วย เป็นสุนัขด้วย ก็มีความรักในพระปัจเจกพุทธเจ้า ท่านเหาะไปก็เสียใจ ขาดใจตาย ก็ไปเกิดในดาวดึงส์เหมือนกัน

ผู้ถาม - ที่น่าเสียดายก็คือว่า คนเราเกิดในเมืองไทย มีศาสนาพุทธแทนที่จะขึ้นบน กลับดิ่งพสุธาลงไปมิใช่น้อย

หลวงพ่อ - ไอ้นั่นเขาทดสอบความเป็นจริงน่ะ

ผู้ถาม – มีการทดสอบด้วยหรือครับ

หลวงพ่อ – ใช่เมืองมนุษย์ต้องใช้ไฟ ก็ต้องเสียสตางค์ ไม่มีไฟฟ้าก็ต้องเสียค่าน้ำมัน ใช่ไหม อยากจะรู้ว่านรก มันมีไฟฟรีหรือไง อยากจะดูมันแน่หรือไม่แน่

ผู้ถาม - เลยพุ่งหลาวลงไปเลย



๑๘๔. แมวชอบฟังเทปธรรมะ


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่าลูกอยากถามปัญหาเล็กน้อยดังต่อไปนี้ คือว่าลูกได้เลี้ยงแมวไว้ตัวหนึ่ง เจ้าแมวตัวนี้ประหลาดมากต้องเปิดเทปทําวัตรเช้า ทําวัตรเย็นของวัดท่าซุงให้ฟังเป็นประจํา เขาจึงจะยอมหลับ วันไหนไม่เปิดให้ฟัง แกไม่ยอมหลับเป็นเด็ดขาด

บัดนี้แกป่วยใกล้จะตาย ลูกก็เลยถือโอกาสเปิดเทปให้แกฟัง ฟังจนกระทั่งหลับไป กราบเรียนถามหลวงพ่อว่า ในลักษณะเช่นนี้ จะมีโอกาสไปในทางที่ดีที่ชอบหรือไม่เจ้าคะ

หลวงพ่อ - ต้องดีแน่ๆ ตามปกติตายจากความเป็นแมวก็ไม่ลงนรกอยู่แล้ว อย่างน้อยก็ไปเกิดเป็นคน ไม่งั้นก็เป็นเทวดาหรือพรหม อันนี้เขาตายด้วยธรรมะ ถ้าจิตใจเข้าด้วยธรรมะ สงสัยว่าแมวตัวนี้ คือตายจากความเป็นคนมาเกิดเป็นแมว นิสัยเดิมความต้องการเดิมยังคงมีอยู่ ใช่ไหม ใช้ได้ ดีมาก

ผู้ถาม - จิตมาผูกพันฟังติดต่อกันไป

หลวงพ่อ - ใช่ๆ ขอเตือน ยกทรง จงเอาอย่างแมว อย่าให้แพ้แมว หัวเราะ



๑๘๕. สุนัขป่วย


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ตอนที่สุนัขป่วยลูกเอาพระพุทธรูป หลวงปู่ปาน หลวงพ่อฤาษี เอาวางบนหนังสือให้สุนัขไปนอนดู เผื่อว่าแกจะเห็นภาพหลวงพ่อ หลวงปู่ พระพุทธ จะได้ไปสวรรค์ มาตอนหลังลูกชักไม่สบายใจ ตัวเอง เอาของสูง มาให้สุนัขของต่ำแลดูเช่นนี้ จะเกิดบาปเกิดโทษ อย่างไรหรือไม่ จะมีวิธีขอขมาอย่างไรครับ

หลวงพ่อ - ฉันว่าเจตนาเขาดีนะ เขาเมตตาสัตว์ อย่างนั้นไม่ใช่ปรามาส ไม่ใช่มีโทษนะ เขาต้องการให้สุนัขดู สุนัขได้เห็นภาพพระแล้วจะได้จับภาพพระ ต้องดูเจตนา



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 10/4/09 at 11:54 Reply With Quote


(Update 10 เม.ย. 52)

๑๘๖. แม่ตายไปอยู่ชั้น ๒๑


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ตอนที่ลูกทําสมาธิจะว่าฝันก็ไม่ใช่ จะว่าเคลิ้มก็ไม่เชิง แต่ว่า อารมณ์สบายมาก ขณะนั้นลูกมีโอกาสไปบนสวรรค์ ได้พบแม่ของลูกอยู่ชั้นที่ ๒๑ มีไหมครับ ชั้นนี้

หลวงพ่อ – มี ออกเลขท้าย ๒ ตัว

ผู้ถาม – ปีไหนครับ ไม่ได้ต้องถามปี

หลวงพ่อ - ถามปีบอกไม่ได้ เดี๋ยวก่อน เขาอาจจะนับรุกขเทวดา ด้วยละมั้ง ถ้านับรุกขเทวดาด้วย ๒๑ ถ้านับภุมเทวดาด้วยก็ ๒๒

ผู้ถาม - ทีนี้เขาบอกว่าพบท่านแม่ แม่เขาบอกว่าอายุไม่ยืน ปีหน้าจะต้องตายแหงๆ

หลวงพ่อ - ดีมาก

ผู้ถาม – อะไรครับ ลูกเขาตกอกตกใจจะแย่

หลวงพ่อ - พระแนะนําพระก็ต้องว่าดี พระจะได้มีโอกาสบังสุกุล เอ้า ว่าต่อไป

ผู้ถาม - เมื่อเป็นอย่างนี้ ลูกก็มีความกังวลใจเป็นอย่างมาก ลูกก็อยากจะขอบารมีให้หลวงพ่อแนะนําว่า วิธีที่จะไม่ต้องตายในปีหน้ามีไหม ทําบุญกุศลประเภทใด ถึงจะตายช้าๆ เจ้าคะ

หลวงพ่อ – อยากจะตายปีนี้รึไง

ผู้ถาม - ปีหน้าก็กลัวขนาดหนัก จะเอาปีนี้อีก

หลวงพ่อ - ก็ไม่ให้ตายปีหน้า ก็ต้องตายปีนี้ซิ เอาอย่างนี้ซินะ ผู้หญิงหรือผู้ชาย

ผู้ถาม - ผู้หญิงครับ

หลวงพ่อ – รูปร่างเป็นยังไง

ผู้ถาม - คงจะตัวเล็กครับ มีหน้าตาเหมือนผู้หญิงเปี๊ยบเลยนะ

หลวงพ่อ – หัวเราะ เอาอย่างนี้ก็แล้วกันนะ ถ้าแบบนี้ก็ยังไม่ตาย เดี๋ยวก่อน ลุงมาแล้ว ลุงบอกว่า ให้ถวายสังฆทานที่กินได้ในเวลานั้น ประการที่ ๒ สร้างพระพุทธรูปหน้าตักไม่น้อยกว่า ๗ นิ้ว ประการที่ ๓ ปล่อยไก่ ๓ ตัว ประการที่ ๔ ปล่อยปลา เท่านี้ ปีหน้าไม่ตาย

ผู้ถาม – แล้วปีโน้นล่ะครับ

หลวงพ่อ – ยัง อายุยังน้อยอยู่ อยู่อีกหลายปีแล้วจะมาบ่น ทีหลังว่าอยู่แก่เกินไปนะ แต่ความจริง ท่านไม่ค่อยบอกใครนะ อัศจรรย์

ผู้ถาม - คงเป็นบุญของลูกสาวคนนั้นนะครับ



๑๘๗. เพื่อนเห็นผมไม่มีหัว


ผู้ถาม - กราบเรียนหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง เพื่อนของผม เห็นผมไม่มีหัว จึงอยากจะพึ่งบารมีของหลวงพ่อว่า ในลักษณะเช่นนี้ จะมีวิธีแก้ไขอย่างไรหรือไม่ หรือว่าจะมีเหตุร้ายประการใดขอรับ

หลวงพ่อ - ไม่เห็นหัว แล้วเขียนหนังสือได้อย่างไร ตามันอยู่ที่หัวนี่ วิธีเก่าๆ เขาทําอย่างนี้นะ ถ้าเพื่อนไม่เห็นหัว เขาเอาผ้าขาวม้าพันๆ ขว้างไปที่หัว บอกต่อหัวให้แล้ว แต่รายนี้ ไม่ต้องทําแบบนั้น ปล่อยปลา ๓ ตัวใช้ได้เลย จริงๆ นะ ลุงบอก ปล่อยปลาแค่ ๒ - ๓ ตัวก็พอแล้ว ก็อย่าลืมใส่บาตรพระสักองค์ ก็แล้วกันนะ



๑๘๘. รถชนเพื่อนตายแต่ตัวเองรอดตาย


ผู้ถาม - กราบนมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่า ตัวลูกและเพื่อนนั่งรถไปปะทะกับรถอีกคันหนึ่ง ปรากฏว่าเพื่อนตายไปหลายคน สภาพรถของหนูพังยับเยินป่นปี้ แต่ที่แปลกก็คือว่าหนูรอดได้เพียงคนเดียว เพราะว่าห้อยลูกแก้ว ของหลวงพ่อ นอกนั้นตายเรียบ วันนี้ตั้งใจว่าจะมาทําบุญทํากุศล เพื่อสงเคราะห์เพื่อนร่วมตายในคราวครั้งนั้น จะสงเคราะห์แบบไหน ประการใด ที่พอจะอนุเคราะห์ได้เจ้าคะ

หลวงพ่อ – เอาละ ถวายสังฆทานนี้ดีที่สุดแล้วนะ สูงสุด เป็นมหากุศลใหญ่ล่ะนะ แล้วเวลาจะอุทิศส่วนกุศลตั้งใจ ให้คณะนั้นโดยเฉพาะ ไม่ต้องออกชื่อก็ได้ คณะบุคคลที่ตายใน รถคันนั้น ขอมาโมทนาทุกคน

ผู้ถาม – ลูกแก้วหลวงพ่อกันตายได้เหมือนกันหรือครับ

หลวงพ่อ – ก็กันตาย คงไม่ได้หรอก กันเจ็บก็มีหลายราย รถเขาเป็นอย่างนี้

ผู้ถาม – แหม ขนาดลูกละ ๒๐ ยังกันได้นะ

หลวงพ่อ - ถ้าลูกละ ๒๐ พัน จะกันได้ดีกว่านั้น หัวเราะ




๑๘๙. พ่อมาบอกว่าไม่ได้รับบุญ


ผู้ถาม - กราบเรียนถามหลวงพ่อที่เคารพ ขอแทรกเรื่องฝันสักนิด คือว่าคุณพ่อแกตายไปแล้ว แกมาบอกว่า การที่แม่ของเอ็งทําบุญทํากุศลไปให้นั้นนะ ไม่ได้รับเลย เมื่อเป็นอย่างนี้ลูกก็เลยทําสมาธิติดต่อขอดูว่าแกอยู่อย่างไร แต่ไม่ปรากฏภาพ มีแต่เพียงมาเข้าฝันว่าไม่ได้รับๆ อันนี้จะมีทางอื่นพอที่จะช่วยอนุเคราะห์ได้บ้างหรือเปล่าเจ้าคะ

หลวงพ่อ – เออ เมื่อกี้นี้ขณะที่อุทิศส่วนกุศล ลุงพุฒิ ท่านมาบอกว่า มีคนเขาจะถามเรื่องคนไม่ได้รับบุญ ฉันก็เลยผ่านไปคุยเรื่องอื่นไปซะ จะให้ถามไหมล่ะ

ผู้ถาม - เอาครับ

หลวงพ่อ – ขอค่าตั๋ว หัวเราะ อันนี้ท่านบอกจริงๆ นะ ถามมีเรื่องอะไรลุง เพราะลุงท่านอยู่แล้วเป็นปกติ ท่านบอกว่า จะมีคนเขาถามเรื่องอุทิศส่วนกุศลและผู้ตายไม่ได้รับท่านบอกว่า เอ คนตายรู้สึกว่าจะมีอะไรสักหน่อยกระมั๊ง จะดื้อๆ สักนิด เรื่องบุญกุศลนะ เดี๋ยวก่อน เมื่อกี้ไม่ได้ถามท่าน จะถามเดี๋ยวนี้

ท่านบอกให้ทําให้ตรง นั่นคือว่า ก่อนที่จะถวายทานเพื่ออุทิศให้ ให้ทําจิตเป็นสมาธิเสียก่อนให้มีกําลังสูงแล้วก็เมื่อถวายทานแล้ว หลังจากกลับไปยังไม่อุทิศส่วนกุศลนะ ทําเป็นสมาธิก่อน เมื่อจิตสบายใจให้อุทิศส่วนกุศล ต้องกําลังใจสูง และให้คนเดียวอย่าให้คนอื่น

ผู้ถาม - อย่างนี้เรียกว่า เจาะจง

หลวงพ่อ - ใช่ๆ หนักหน่อย



๑๙๐. คิดว่าปรามาสพระรัตนตรัย


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่าลูกทํากรรมที่ไม่สบายใจอย่างหนึ่ง ตอนที่คุณพ่อยังมีชีวิตอยู่ ลูกได้เคยทําให้ท่านปรามาสพระรัตนตรัย แล้วก็พอตอนที่ ท่านใกล้จะตาย ก็เอาพระพุทธรูปมาตั้ง เพื่อให้ท่านและหนูขอขมาพระรัตนตรัย ปรากฏว่าก็ว่าไปอย่างนั้นแหละ คนจีนคงจะทําอะไรไม่เข้าใจ เมื่อว่าไปว่ามา คุณพ่อก็ตายไป เสร็จแล้วลูกก็ได้ทําบุญทํากุศลอุทิศไปให้ จะให้ท่านมาโมทนาก็มาเข้าฝัน แต่ประหลาดมากทั้งๆ ที่ทําบุญไปตั้งเยอะแยะ มาเข้าฝัน ในลักษณะที่ท่านกําลังป่วยอยู่ ลูกก็ไม่สบายใจว่าอาจจะเป็นการทําให้ท่านปรามาสพระรัตนตรัยอย่างใดอย่างหนึ่ง ขอให้หลวงพ่อได้โปรดแนะนําอย่างใดอย่างหนึ่งด้วยเถิดเจ้าค่ะ

หลวงพ่อ – มีค่าครูไหม ถ้าแนะมีค่าครู ถ้าเล่าให้ฟังไม่ต้องมี คือว่าอาการที่เขาแสดงออก ถ้าคนตายมาต้องแสดงลักษณะเช่นนั้น ถ้าตายแต่งตัวอย่างใดมาลักษณะแบบนั้น ฉันเข้าใจว่า คนนี้คงไม่ตกนรก เอาอย่างนี้ซิ เวลาทําบุญตั้งใจอุทิศตรง ไอ้การเข้าฝันทุกคนจําไว้นะ เข้าฝันก็ดี แสดงตัวให้ปรากฏก็ตาม ต้องมาในลักษณะเดิมที่เขาตาย นุ่งกางเกงสีอะไร ก็ไอ้ตัวนั้นแหละ มากี่เที่ยวก็ตัวนั้นแหละ

มีโยมผู้ชายฉันเวลาก่อนจะตาย แกก็นุ่งกางเกงแค่เข่า ก็ใส่เสื้อธรรมดาแขนใกล้ศอก เวลามาเห็นทีไร ท่านมาให้เห็น เอาลักษณะแบบนั้นทุกที มาครั้งที่ ๓ ก็สงสัย ถามว่าโยมไปอยู่ที่นั่นนะ ทําไมไม่นุ่งผ้านุ่งผ้าตั้งเยอะแยะเขาทําบุญไว้ให้

ท่านบอกเวลาฉันตาย ฉันแต่งตัวชุดนี้นะ เลยถามว่า เวลานี้จริงๆ อยู่ที่ไหน ท่านบอกชั้นยามา ขอดูภาพวิมาน ท่านก็ลอยให้เห็น ชั้นยามาก็เห็น บอกจริงๆ เป็นอย่างนี้ แสดงแบบนั้น เพื่อคุณจะได้ไม่หลงผิด จะได้จําได้ว่าคือฉัน



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 16/4/09 at 12:45 Reply With Quote


(Update 16 เม.ย. 52)

๑๙๑. พ่อตายมาเข้าฝัน


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คุณพ่อของลูกได้จากลูกไป ตั้งแต่ปี ๒๕ แต่เวลาลูกจะมีเรื่องเดือดร้อนอย่างไร คุณพ่อต้องมาเข้าฝันก่อนเสมอ ลูกก็เกิดความปลื้มปีติยินดีเป็นอย่างยิ่ง ลูกจะทําอย่างไรถึง จะให้คุณพ่อไปอยู่บนสวรรค์ ไม่ต้องห่วงอีกต่อไปเจ้าคะ

หลวงพ่อ - นี่เขาอยู่บนสวรรค์แล้วนะ จะไล่จากสวรรค์ไปสวรรค์ไหนอีกล่ะ ที่เขามาบอกได้แสดงว่าเป็นเทวดา และเป็นเทวดาที่มีอานุภาพมาก ไม่อย่างนั้นเขามาบอกไม่ได้ เพราะเขาเป็นเทวดาอยู่แล้ว เพราะว่าบุคคลที่เป็นเทวดา ย่อมมีความเกี่ยวเนื่องกันในสมัยที่เป็นมนุษย์



๑๙๒. แม่ตายมาเข้าฝัน


ผู้ถาม - กราบนมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คุณแม่ บุญปรง ประเสริฐ และ คุณสมศรี วงจันทร์ ได้เสียชีวิตเมื่อ มิย ๓๓ ท่านมาเข้าฝันลูกๆ หลานๆ ท่านบอกว่า ลูกเอ๊ย หลานเอ๊ย อย่าทําบาปนะ ให้งดเว้นบาปเสียนะ เสร็จแล้วก็มอบสร้อยคอทองคํา ๑ เส้น ที่ลูกจะกราบเรียนถามก็คือว่า สร้อยทองคํา ๑ เส้นนี้ ถ้าจะแปลหรือตีความหมายในด้านธรรมปฏิบัติ ควรจะเป็นธรรมปฏิบัติอย่างไร ประการใดเจ้าคะ

หลวงพ่อ - สร้อยทองคํา ต้องแปลว่า ฌานสมาบัติ หมายถึง ฌานนะ เป็นทานบารมีด้วย เป็นฌานด้วย ทองคํา เป็นของที่คนต้องการใช่ไหม ถ้าเป็นแก้วนี่หมายถึง นิพพาน จํา ให้ดีทุกคนนะ เดี๋ยวก่อน ทองคําที่ท่านให้มาหล่อพระก็จะดีนะ หนักกี่บาทนะ หัวเราะ

ผู้ถาม – แหม พูดถึงทองคํานี่ ขอต่ออีกนิดหนึ่ง มีท่านผู้หนึ่ง บอกว่าสร้อยมันหัก ใช้ตะขอมีอยู่นิดหนึ่ง ถ้าจะมาหล่อองค์ปฐมจะได้หรือเปล่าครับ

หลวงพ่อ - ได้ๆๆ รับ พระมีหน้าที่รับ อย่าลืมว่าถ้านิดเดียว เป็นของที่เขารักนะ อานิสงส์มาก ทองคํามีอานิสงส์ มากเป็นพิเศษ เพราะเป็นของมีค่าสูงสําหรับคนนะ ไม่ว่าประเทศ ไหนเขาต้องบูชาทองคํา ที่ทําแบงก์กันมานี่นะ มีทองคํารับรอง เป็นของที่มีความสําคัญมาก

ผู้ถาม - จะถวายมากน้อย ถ้าหากว่าตั้งใจด้วยความรัก ถือว่ามีอานิสงส์มาก

หลวงพ่อ - อานิสงส์มาก ไปสวรรค์เหมือนกัน ไปพรหมเหมือนกัน ไปนิพพานเหมือนกัน แต่ว่าวิมานใครจะโตกว่ากัน นี่อีกเรื่องต่างหาก

ผู้ถาม - ฉะนั้นการที่หล่อองค์ปฐมด้วยทองคํานี่ อานิสงส์จะเหมือนกับหล่อพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน หรือว่าจะแตกต่างกันอย่างไรครับ ถ้าเป็นทองคําเหมือนกัน หล่อพระพุทธเจ้า เหมือนกัน

หลวงพ่อ - ก็มีอานิสงส์เหมือนกัน แต่ว่าต่างกันอยู่นิดหนึ่งที่ ไปนิพพานเร็ว ไปนิพพานเร็วมาก เพราะเขาเข้าบัญชีสีทอง ไม่ใช่ตัวทอง บัญชีทั้งเล่มเป็นทอง ลงบัญชีเล่มนั้น

ผู้ถาม - หมายถึงเป็นเจ้าภาพหล่อองค์ปฐมนี่หรือครับ

หลวงพ่อ - ใช่ๆๆ จะทองคําก็ดี จะเป็นเงินก็ตาม เหมือนกัน ลงบัญชีเล่มเดียวกัน



๑๙๓. คุณยายมาเข้าฝัน


ผู้ถาม - นมัสการหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คือว่าคุณยายชื่อ ปิ่น เป็นนักเจริญกรรมฐานดีมาก ทําบุญทํากุศลมาตลอดชีวิต อายุ ๘๘ ปี แม้ก่อนจะตาย แกก็ภาวนาว่า สัมมาอรหัง จนหมดลมตายไปจริงๆ และที่ประหลาดใจก็คือว่า เวลามาเข้าฝัน ท่านแต่งตัวใส่เสื้อคอกระเช้า บอกกับกระผมว่า มึงดูสิๆ ผมได้ทําบุญทํากุศลหลายประการ ความฝันก็ยังเป็นเช่นนั้น แหละ สงสัยว่าบุญของผมก็ดี ความดีของแกได้สร้างสมมาก็ดี ทําไมไม่แต่งตัวสวยงามเหมือนอย่างนางฟ้าบ้างครับ

หลวงพ่อ - เขามาเพื่อให้จําได้ ตามธรรมดานะคนเราตายลักษณะไหน จะมาลักษณะนั้น เพื่อให้จําได้อย่างนี้เหมือนกันทุกคนนะ อยากจะเห็นความงาม ก็ต้องเจริญพระกรรมฐานให้ได้ทิพจักขุญาณ ถ้ามาได้หรือพูดได้แบบนั้นมีความสุขแน่

ผู้ถาม - ขนาดภาวนาจนลมหายใจขาด ถ้าไปไม่ดีก็เขกหัว ตัวเองละ

หลวงพ่อ - ตายในฌาน อย่างขี้หมูขี้หมา ก็ไปเป็นพรหม ถ้าหากพวกที่เป็นพรหมนี่เลื่อนลงได้นะ มีสิทธิที่จะเป็นพรหม แต่พอใจสวรรค์ชั้นใดชั้นหนึ่ง พักก่อนได้ อย่างท้าวเวสสุวัณ ท่านเป็น พระโสดาบันด้วย เวลาตายตายในฌาน แต่ว่ามีสิทธิที่จะไปเป็นพรหมได้ แต่ว่าพอเคลื่อนออกจากกาย ท่านมีความรู้สึกว่า ก่อนที่จะมาเกิดเป็นคนเคยอยู่ชั้นจาตุมหาราช เลยแวะอยู่ชั้นจาตุมหาราช เวลานี้เป็นท้าวเวสสุวัณ

ผู้ถาม - พระเจ้าพิมพิสาร กับท้าวเวสสุวัณเป็นองค์เดียวกันใช่ไหมครับ

หลวงพ่อ - คนละองค์ พระเจ้าพิมพิสาร ท่านเป็นคน ท้าวเวสสุวัณ เป็นเทวดา

ผู้ถาม – แหม บทหลวงพ่อจะตรงก็ตรงเสียจริง ๆ

หลวงพ่อ - อ้าว ตอบว่าคนคนเดียวกัน เกิดมาแว้งกัดฉันล่ะ



๑๙๔. คุณลุงตายแล้วแต่งตัวเป็นพระ


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ลุงของลูกได้เสียชีวิตด้วยโรคไวรัส เป็นเวลา ๒ ปีเศษแล้ว แต่ว่า ท่านมาเข้าฝัน ท่านมาอย่างนี้ ท่านอุ้มพระพุทธรูปปางสมาธิเป็น แก้วสีขาว แต่ไม่ใสจนเกินไปมาให้ลูก พอลูกก้มกราบท่าน คุณลุง ก็แต่งตัวเป็นพระสงฆ์ทันที ในจิตของลูกก็คิดว่า ลุงของฉัน เป็นพระอรหันต์เสียแล้วหรือนี่ ที่สงสัยก็คือว่า พระอรหันต์ตายไปแล้ว จะมีสิทธิเป็นพระอรหันต์ข้างบนหรือเปล่าเจ้าคะ

หลวงพ่อ – ไม่ได้หรอก ต้องเป็นไปก่อน เป็นข้างบนน่ะเป็นได้ แต่ต้องฟังเทศน์จากพระพุทธเจ้า หรือฟังเทศน์จากพระอรหันต์ ที่เขาเป็นอรหันต์ต่อน่ะมีถมไป ที่เห็นภาพเป็นพระ เป็นได้ตั้งแต่ ชั้นยามา ไม่จําเป็นต้องอรหันต์ ส่วนใหญ่ที่เห็นภาพเป็นพระ เป็นชั้นยามา ชั้นนี้มีอะไร เจริญพระกรรมฐานกับสวดมนต์ งานแก มี ๒ อย่าง

ผู้ถาม - อย่างนี้พอจะไหว้วาน ให้ท่านช่วยอะไร จะได้ไหมครับ

หลวงพ่อ – แต่ระวังนะ นั่งหลับ เผลอไม่ได้ เคยขึ้นไปคุย คุยกับเทวดาองค์นี้นะ คุยไปคุยมาเทวดาอีกองค์มา หันไปคุยกับองค์นั้น องค์นี้นั่งปุ๊บเจริญกรรมฐานแล้วไปแล้ว เผลอไม่ได้ พวกสวดมนต์ก็เหมือนกัน เผลอหน่อยนั่งปุ๊บ สวดมนต์แล้ว

ก็เป็นอันว่าเขามีหน้าที่ต่อบุญบารมีของเขา ชั้นยามากับชั้นดุสิตมีสภาพคล้ายคลึงกัน ชั้นดุสิตเหมือนกับพระโดยตรง เวลาพระอินทร์ต้องการฟังเทศน์ ก็ไปเชิญเทวดาชั้นดุสิตมา แต่ชั้นยามาพระอินทร์ก็ไม่ใช้เหมือนกัน ถือว่าเป็นพระเหมือนกัน



๑๙๕. คุณอาป่วย


ผู้ถาม - นมัสการกราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง คุณอาของลูกป่วยมานานแล้วไม่รู้สาเหตุ แต่ที่สังเกตก็คือว่า แกไม่ชอบพระ ถ้าพูดถึงเรื่องพระสงฆ์ทีไร แกจะเกลียดและ โกรธทันที แต่ที่ชอบพูดเพ้อๆ ออกมาก็คือว่า ศาลพระภูมิๆๆ แต่ถ้าหากตามปกติแล้วแกจะพูดว่า มีวิญญาณอยู่นะ แล้วแกก็ เพ้อต่อไป ลูกอยากจะกราบพึ่งบารมีหลวงพ่อ อยากจะแก้ไขเรื่องนี้ พอจะมีทางหรือไม่เจ้าค่ะ

หลวงพ่อ - ก็อย่าพูดถึงพระสงฆ์ต่อไป จะเป็นเครื่องขัดใจกันนะ ถ้าท่านสนใจพระภูมิ ก็สนใจพระภูมิไป เพราะพระภูมิเป็นเทวดา นึกถึงพระภูมิก็เป็นเทวตานุสสติกรรมฐาน ของดี ไม่ใช่ไม่ดีนะ ท่านจับอย่างใดอย่างหนึ่ง จับได้ให้จับไปเลย ทุกอย่างสามารถจะนําไปสวรรค์ได้



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member
[*] posted on 24/4/09 at 13:52 Reply With Quote


(Update 24 เม.ย. 52)

๑๙๖. ลูกชายป่วยตาย


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง กระผมมีเรื่องที่จะรบกวนนิดหน่อย คือว่าลูกชายอายุ ๕๐ ปี ป่วย อยู่ที่โรงพยาบาล ในขณะที่ป่วยนั้นป่วยก่อนงานวัดท่าซุง เขาก็เลยฝากทองคําไปบรรจุ แล้วลูกก็เอาผ้าไตรจีวรให้แกตั้งจิตอธิษฐาน พร้อมกับเงินทองของแกด้วย เมื่ออธิษฐานเสร็จ ก็ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ต่อมาก็ตายทันที ที่จะเรียนถามก็คือว่า เขาไม่ได้ไปทําด้วยตนเองแต่ฝากไปและก็ตั้งใจไป และจิตเกาะในสิ่งที่ตนเองกระทําไว้ เมื่อตายไปแล้ว เขาจะมีโอกาสเกิดในสุคติสวรรค์หรือเปล่าเจ้าคะ

หลวงพ่อ - ขอยืนยันว่าไปแน่นอน จิตเกาะเรื่องบุญกุศลก่อนตาย เขาเกาะแน่นนะ แล้วก็ฝากเงินฝากทองของเขา ฝากของหนักนะ ทองคําน่ะหนักมาก เป็นของที่มีความปรารถนาสูงดูแต่ สาตกีเทพธิดา นั่นกําลังถือดอกไม้ จะนําไปบูชาเจดีย์กระดูกพระอรหันต์ ไปยังไม่ทันถึงนางยักษิณีแปลงเป็นวัวขวิดตาย ก็ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ รายการนี้เขาหนักกว่ามาก สูงกว่ามาก



๑๙๗. ตายท้องกลม


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง วันนี้ลูกได้ถวายสังฆทานชุดเบ้อเร่อสดๆร้อนๆ เพื่อที่จะอุทิศส่วนกุศลให้ นางละเมียด มั่นผลึก ซึ่งตายวันนี้ ตอนที่ตายก็มีลูก อยู่ในท้องด้วย ไม่ทราบว่าคนที่ตายท้องกลม จะมีโอกาสได้รับส่วนกุศล เหมือนกับผีธรรมดาหรือเปล่าเจ้าคะ

หลวงพ่อ – เหมือนกัน จะตายแบบไหนก็ตาม ได้รับส่วนกุศลเหมือนกัน เอาอย่างนี้ซิให้โดยตรง ให้คนเดียว เวลานี้กําลังคอยคิวอยู่สํานักพระยายม หลังจากอุทิศส่วนกุศลแล้ว หลวงพ่อเล่าให้ฟังว่า ลุงพุฒิมาบอกว่า คนที่ตายท้องกลม ก่อนตายเขาถวายสังฆทานเป็นประจํา และให้ท่านลุงเป็นพยานทุกครั้ง ตอนนี้อยู่ดาวดึงส์แล้ว



๑๙๘. แม่ตาย


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา ขอความกรุณาด้วยเถิดเจ้าค่ะ คือ แม่ของดิฉันชื่อวงศ์ สกุลหิรัญ ได้ถึงแก่กรรมไปแล้ว ๓๐ ปี ท่านผู้ทรงศีลมีสมาธิแรงกล้า ท่านที่ได้เข้าฌานแล้วบอกว่า แม่ของลูกยังไม่เกิด ลูกก็ถามว่าจะแก้ไขอย่างไร ท่านบอกว่า ให้ไปถามพระที่เก่งกว่าฉันซิ ฉันแก้ไม่ได้หรอก ลูกได้ทราบจาก เพื่อนว่า หลวงพ่อเก่ง

หลวงพ่อ - เดี๋ยวๆ เข้าใจผิดแล้วนะ พระองค์นั้นกับฉัน ไม่เคยรู้จักกันนะ ยังไม่เคยซ้อมมวยกันเลย ยังไม่รู้ว่า ใครเก่งกว่ากัน เอ้า ว่าไปเถอะ

ผู้ถาม – ลูกทําบุญร้อยแปด ก็อยากให้ท่านไปเกิดที่ดี ที่ชอบเสียที หลวงพ่อจะมีคําแนะนําอย่างใด ประการใดบ้างเจ้าคะ

หลวงพ่อ - เขาตายแล้วเขาก็เกิดแล้ว ถ้าไปเกิดในนรกเขาก็เรียกว่า เกิดเป็นเปรตก็เกิด เป็นอสุรกายก็เกิด เป็นสัตว์เดรัจฉานก็เกิด เป็นคนก็เกิด เป็นเทวดาเป็นพรหมก็เกิด แต่จะไปเกิดแดนไหนเท่านั้นแหละ ถ้าส่งบุญกุศลไปให้ เขายังไม่เกิดป็นเทวดานางฟ้า เขาอาจจะไปเกิดเป็นเทวดานางฟ้าก็ได้ ถ้าคิดว่าเกิดเป็นคนนี่มันไม่ถูก จะเกิดทําไมเป็นคน

ผู้ถาม – มันไม่ดีหรือครับ หลวงพ่อ

หลวงพ่อ - มันก็ดี แต่ว่าดีน้อยไป



๑๙๙. ตายแล้วเกิดทันที


ผู้ถาม - กราบเท้าหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง ผมอ่านหนังสือธรรมะหลายเล่ม ได้กล่าวถึงคนตายว่า บางคนไปเกิดทันที บางคนต้องรอการตัดสิน บางคนไปเป็นสัมภเวสี ที่ลูกสงสัยก็คือว่า ที่ลักษณะแตกต่างกันอย่างนี้ ได้กระทํากรรม ไว้แตกต่างกันอย่างไร ถ้าลูกจะอุทิศให้ทั้ง ๓ ประเภท จะเป็นไปได้หรือไม่เจ้าคะ

หลวงพ่อ – อุทิศให้ยังไง ใครเกิดเป็นคนแล้วก็ให้ พยายามอุทิศให้ ยกทรงมากๆ คือเป็นอย่างนี้ ความจริง ตายแล้วเกิด มันเกิดทันทีเหมือนกัน ตายแล้วก็เกิดเป็นผีบ้าง ตายแล้วเกิดเป็นเปรตบ้าง เกิดเป็นสัตว์นรกบ้าง เกิดเป็นอสุรกายบ้าง เกิดเป็นเทวดาบ้าง เกิดเป็นนางฟ้าบ้าง เกิดเป็นพรหมบ้าง เกิดทั้งหมดเขาเรียก เกิด นี่ท่านถือว่าต้องเกิดในโลกมนุษย์ต่างหาก อันนี้นะเข้าใจผิด

คําว่า ตายแล้วเกิด หมายความว่า เกิดทันทีทันใด แต่ที่อยู่ ต่างกัน เพราะอะไรรู้ไหม ขณะที่เขาไป ความจริงเมื่อตอนก่อนเขา อาจจะมีบาปมากๆ ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต มุสาวาท คือว่าศีล ๕ ทุกอย่างขาดครบถ้วน แต่ถ้าบังเอิญเวลาจะตายจิตเริ่มเป็นกุศลหน่อย เวลานั้นกุศลนําไปสวรรค์ก่อน ไม่ใช่นําไปนรกทีเดียว ถ้าหมดบุญจากสวรรค์จึงจะลงนรก นี่มันไม่แน่นอนนักนะ

ก็รวมความว่า คนตายแล้วจะไปอยู่ที่ไหน ขึ้นอยู่กับกฎของกรรมก่อนตาย ถ้าก่อนจะตายจิตจับกุศลก่อนไปสวรรค์ก่อน แม้จะทําบุญมากๆ แต่ก่อนจะตายจิตจับอกุศลไว้ก่อน ก่อนตายไปนรกก่อน ก็รวมความว่า คนตายแล้วเกิดทันที คนถามนี่เข้าใจพลาด นึกว่าเกิดเป็นมนุษย์

ผู้ถาม – แหม หวาดเสียวนะครับ หลวงพ่อ แทนที่ลงจากสวรรค์จะมาค้างมนุษย์ กลับไปนรก

หลวงพ่อ – ก็ไม่แน่ เทวดาที่ฉลาดเขามี บางทีเขาเป็นเทวดาแล้ว เขารู้กฎของกรรมเขามากใช่ไหม ถ้าจุติคราวนี้ต้องพุ่งหลาวลงนรกทันที แกก็เลยไม่ยอมให้หมดอายุขัยของแก ลงมาก่อน ลงมาค้างที่เมืองมนุษย์ที่พอกับบุญของแก มีบุญอยู่ตระกูลไหน ได้อยู่ตระกูลนั้นก่อน แล้วก็ทําบุญต่อไปขึ้นสวรรค์ใหม่ แต่นรกก็คอย แต่อย่าเผลอนะ เผลอก็จวกแหลก

อย่างฉันนี่ไม่ต้องห่วง ถ้าเผลอเมื่อไรไม่ต้องขึ้น นานนัก สร้างบารมีบาปไว้เยอะ อย่างที่ท่านที่เจริญกรรมฐานไว้นี่ ฝึกอารมณ์เป็นกุศล อารมณ์นี้ถ้าเวลาใกล้จะตายบุญทุกอย่างมันจะรวมตัว จะดึงใจเราภาวนาเอง เพราะอะไรรู้ไหม เพราะฉันเคยตายฉันทราบ ป่วยคราวไหนมันใกล้จะตายคราวนั้น จิตมันเป็นกุศลเอง ไม่ต้องบังคับมัน ถ้าอารมณ์วิปัสสนาญาณ มันก็วางเองเหมือนกัน ไม่ต้องบังคับมัน

อย่างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ ทําบุญฝังลูกนิมิตโบสถ์ ๒ หลัง พอฝังลูกนิมิตเสร็จก็เดินพาเหรดเข้ากรมแพทย์ทหารเรือ คิดว่ามันป่วยน้อย พอผู้อํานวยการเขามาตรวจ ท่านป่วยมาก ต้องนอนโรงพยาบาลพอเขาสั่งนอนโรงพยาบาลปั๊บ อารมณ์มันตัดทันที เราเป็นคนไม่มีอะไรแล้ว ทรัพย์สมบัติของเราไม่มี ญาติพี่น้องของเราไม่มี ชีวิตร่างกายของเรา มันจะตายก็ช่างหัวมัน เฉยเลย จิตเป็นสุข มันรวมตัวกันเอง

ฉะนั้น มันผ่านมา ๓ - ๔ ครั้งเป็นอย่างนี้ เพราะฉะนั้น ทุกคนเหมือนกัน คนที่ว่าได้น้อยมันไม่น้อยนะ เขาได้มาก มันสะสม ทุกคราวนี่ ทุกครั้งที่ทําอยู่ที่นี่ก็ตาม อยู่ที่บ้านก็ตาม มันสะสมตัว สิ่งที่ได้แล้วไม่สลายตัวไป มันกองทับถมอยู่



๒๐๐. ตายแล้วหนอนขึ้นทันที


ผู้ถาม - หลวงพ่อเจ้าขา คือว่าน้าชายของลูกตายที่โรงพยาบาล ในกรุงเทพฯ พอรุ่งขึ้นก็เอาศพใส่โลง หวังจะเอาไปเผาที่ต่างจังหวัด เพียงวันเดียวเปิดมามีหนอนขึ้นเต็มไปหมดยั้วเยี้ย ลูกนึกในใจว่าคงไม่ดีเป็นแน่ ก็เลยอยากจะเรียนถามหลวงพ่อว่า จะทําบุญประเภทไหน ที่จะอุทิศให้คนตายปุ๊บ หนอนขึ้นปั๊บอย่างนี้ ได้เจ้าข้า

หลวงพ่อ - ความจริงไม่มีอะไร คนตายแล้วหนอนขึ้น นั่นแสดงว่าอาการภายในมันไม่ดีอยู่ก่อนแล้ว ไม่ใช่ว่าเป็นบุญ เป็นบาป จะถือว่าบาปหนัก ตายแล้วหนอนขึ้นไม่จริงนะ ถือว่า เป็นการตายธรรมดาก็แล้วกัน เวลาทําบุญให้ขออุทิศส่วนกุศลตรงคนเดียวนะ อย่าให้ผู้อื่น ให้เฉพาะเลย



praew
Super Administrator
*********
Posts: 462
Registered: 12/3/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member

Go To Top
 

"เว็บตามรอยพระพุทธบาท" ได้รับลิขสิทธิ์จาก พระอาจาย์ชัยวัฒน์ อชิโต เพื่อเผยแพร่รูปภาพและข้อมูล
จาก "หนังสือตามรอยพระพุทธบาท" จึงขอสงวนลิขสิทธิ์ตาม
พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.๒๕๓๗ และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐
ห้ามคัดลอกข้อมูล, ภาพ, เสียง ออกไปเผยแพร่ หรือนำไปโพสในเว็บใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเสียก่อน

เว็บไซต์นี้แสดงผลได้ดีกับโปรแกรม Internet Explorer, Window Media V.9, Flash Player ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 768 pixels ความเร็วอินเตอร์เน็ต 1 Mbps. ขึ้นไป

ถ้าพบข้อผิดพลาดใดๆ หากจะแนะนำ หรือติชม และสอบถาม ติดต่อ "ทีมงานเว็บตามรอยพระพุทธบาท"
เริ่มเปิดเว็บไซด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Copyright @ 2008 tamroiphrabuddhabat.com All rights reserved