๑. รอยพระพุทธบาท บ้านหนองไม้แก่น ต.หนองจอก อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี (พบใหม่)


สำหรับรอยพระพุทธบาทแห่งนี้ คุณเชวงวัฒน์ เดชสองแพรก ได้แจ้งกับหลวงพี่ทางอีเมล์ตั้งแต่ต้นปี บอกว่าพบรอยพระพุทธบาทแห่งนี้โดยชาวบ้านเจอโดยบังเอิญขณะเข้าไปหาของป่า ภาพด้านล่างเป็นภาพที่คุณเชวงวัฒน์ส่งมาให้ชมก่อน

.

หลวงพี่ชัยวัฒน์จึงแจ้งข่าว "คณะตามรอยเล็กๆ" โดยนัดหมายให้มารวมตัวกันที่หน้า "โรงงานน้ำตาลลิน" ถนนบ้านไ่ร่ - ด่านช้าง รอกันตั้งแต่ ๗ โมงเช้า จนถึง ๘ โมงเช้ากว่าจะได้เข้าไปในไร่อ้อย ซึ่งเป็นทางลูกรังมีฝุ่นเยอะพอสมควร


เมื่อหมู่คณะมารวมตัวกันครบถ้วนแล้ว คุณเชวงวัฒน์ได้นำเข้าทางวัดเขาถ้ำประทุน คณะของเราเลยเข้ามาสำรวจพร้อมนำบายศรีมากราบไว้ที่รอยพระบาทแห่งนี้ พบว่ามีถึง ๓ รอย รอยประธานมีความชัดเจน กว้าง ๒๒ เซนติเมตร ยาว ๖๐ เซนติเมตร


บริเวณนี้เป็นป่าหิน มีบ้านอยู่หลังหนึ่งแต่ไม่มีคนอยู่ หลังจากสำรวจบริเวณนี้แล้ว จึงเริ่มพิธีบวงสรวงเปิดเทปบวงสรวงของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน สรงน้ำหอมและปิดทอง พร้อมกับเสี่ยงทายวัดไม้วา และสวดคาถาเงินล้าน ทำพิธีกรรมจนเสร็จก่อนเวลาเพล หลังจากเสร็จพิธีแล้ว คุณศราวุธ พร้อมด้วยคณะมีคุณแป้น เป็นต้น ก็ได้ไปจัดหาร้านอาหารให้หลวงพี่ฉันเพล แถวสามแยกบ้านไร่

หลังจากทำพิธีกราบไหว้บูชาเสร็จแล้ว จึงเดินห่างจากที่พบรอยพระพุทธบาทไป เป็นบ้านของชาวบ้านที่ไม่มีใครอยู่ พบว่ามี "บ่อน้ำทิพย์" ที่น้ำไม่เคยแห้งเลย ตลอดหน้าแล้งน้ำก็ไม่แห้งเห็นเป็นที่อัศจรรย์อยู่


ภาพที่เห็นบนภูเขาคือ มณฑปครอบรอยพระพุทธบาท "วัดเขาถ้ำประทุน" เมื่อขับรถต่อไปผ่านไร่อ้อยมาเรื่อยๆ ก็จะเป็น "วัดเขาแหลม" ซึ่งหลวงพี่เคยมาสำรวจรอยพระพุทธบาทเมื่อหลายปีก่อนแล้ว สรุปว่าแถวนี้มีรอยพระพุทธบาท ๓ แห่ง


ต่อมาขณะที่เล่าอยู่นี้ก็ได้มีการสร้างศาลาครอบพระพุทธบาทแล้ว โดยคณะตามรอยเล็กๆ ร่วมกันบริจาคเป็นเงิน ๕๐,๐๐๐ บาทเศษ หลวงพี่ได้มอบหมายให้ "คุณมะยม" ไปช่วยดำเนินการสร้างต่อไป


เมื่อสร้างเสร็จแล้วประมาณ วันที่ ๒๙ พฤษภาคมนี้ อันเป็นวันคล้ายวันเกิดของหลวงพี่ ตอนบ่ายท่านก็จะอัญเชิญพระพุทธรูปไปประดิษฐาน พร้อมกับทำพิธียกฉัตรที่นี่อีกด้วย ในปีนี้หลวงพี่บอกว่า "งานเข้า" คือพบรอยพระพุทธบาทใหม่หลายแห่ง และมีเหตุที่จะต้องสร้างศาลาครอบเป็นส่วนใหญ่ ถือว่าพวกเราโชคดีที่จะสร้าง "พระคันธกุฏี" ถวายพระพุทธเจ้า ส่วนที่สร้างเสร็จไปแล้วคือ

๑. บ้านทุ่งหินโคน สระแก้ว (งบประมาณ ๖๐,๐๐๐ บาทเศษ รวมครอบกระจกด้วย) คณะตาพระยา เป็นผู้ดำเนินการ เจ้าของที่ดินได้ยกบริเวณนี้ให้ด้วย

.

.

.

.

.

.

๒. รอยพระพุทธบาท บ้านหินซ้อนเหนือ สระบุรี (สร้างเป็นเต้นท์ผ้าใบ ราคา ๑๒,๐๐๐ บาท) คณะอู่วารี เป็นผู้ดำเนินการ พร้อมทั้งบรรทุกพระพุทธรูปพร้อมด้วยฉัตรไปถวายทุกแห่ง รวมทั้งที่
๓. วัดถ้ำงูเหลือม อ.บ้านฝาง จ.ขอนแก่น และที่
๔. รอยพระพุทธบาทแสงอรุณ บ้านห้วยคันแยงน้อย อ.โพธิ์ไทร จ.อุบลราชธานี
๕. ขณะนี้กำลังก่อสร้างที่ บ้านหนองไม้แก่น อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี (ดูภาพด้านล่าง)

.

.
(ผู้ชายใส่เสื้อสีแดง คือ ลุงสำเนา ของบ้านที่มีบ่อน้ำทิพย์)

.

.

.

๖. ขณะนี้กำลังก่อสร้างที่ บ้านพุบอน อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี (ภาพการสร้างยังไม่มี)
๗. ขณะนี้กำลังก่อสร้างที่ วัดเทพประทานพร อ.เขาสมิง จ.ตราด (ทางวัดเป็นผู้ดำเนินการสร้าง หลวงพี่ได้ไปที่วัดแล้วถวายเงินจำนวน ๑๕,๐๐๐ บาท ปรากฏว่าเจ้าอาวาสโทรมาบอกเงินไม่พอ หลวงพี่จึงได้บอกบุญไปทาง "พี่ติ๋ม" กรุงเทพฯ เพื่อรวมเงินงวดที่สองโอนไปให้อีก ๒๕,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงิน ๔๐,๐๐๐ บาท ส่วนที่เหลือชาวบ้านช่วยกันทำบุญ)

สำหรับสถานที่นี้ทางวัดเคยสร้างศาลาครอบพระพุทธบาทไว้ แต่ก็ถูกฟ้าฝ่าพังไปนานแล้ว ต่อมาหลวงพี่ได้อธิษฐานเสี่ยงทาย ปรากฏว่าท่านอนุญาตให้สร้างได้ คิดว่าพวกเราคงได้ผลบุญอย่างมหาศาล เพราะสร้างไว้กันแดดกันฝน เพื่อความร่มเย็นเป็นสุขของคนที่จะมากราบไหว้รอยพระพุทธบาท

.

สำหรับผู้ร่วมทำบุญผ่านพี่ติ๋ม (อภิญญา นาคสวัสดิ์) มี คุณสุชัย (ท้ง) ชินบุตรานนท์, เจ๊จู (ศุภลักษณ์) และน้องๆ เจ๊จู (หลี, ยี้, กุง, ฮวง) และน้องในที่ทำงานของพี่ติ๋ม คือ คุณอาภากร วงษ์ศรวณีย์, และพี่ติ๋ม, ตุ๋ย, ธาณินทร์ รวมเป็นเงิน ๓๕,๐๐๐ บาท ฉะนั้น ผู้ที่ร่วมทำบุญจะได้บุญ ๓ อย่าง คือ
๑. ได้สร้างศาลาครอบพระพุทธบาท
๒. สร้างพระพุทธรูปประจำศาลา หน้าตัก ๓๐ นิ้ว พร้อมฐานพระ
๓. สร้างฉัตร ๕ ชั้น และ ๓ ชั้น

๒. รอยพระพุทธบาท (เดิมชื่อ "วัดหินดาด" ร้างไปแล้ว) บ้านพุบอน หมุ่บ้านพุบอน ต.เลาขวัญ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี


ตอนบ่ายหลังจากฉันเพลและคณะผู้ร่วมเดินทาง "ตามรอยเล็กๆ" ได้รับประทานอาหารกันแล้ว จึงเดินทางย้อนกลับไปทางด่านช้าง - เลาขวัญ แวะดูรอยพระพุทธบาทในอ่านน้ำกระเสียว แต่น้ำยังไม่แห้งลงไปทำให้ยังมองไม่เห็น


ระยะทางจากบ้านไร่มาที่เลาขวัญใช้เวลาประมาณ ๒ ชั่วโมง เพื่อมาพบกับชาวบ้านที่มารอต้อนรับ ที่นี่เคยมาแล้วเมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ นำมาโดยพี่สำราญ โชว์เฟอร์ของเราเอง การมาครั้งที่ ๒ นี้ เป็นการนัดหมายเพื่อมาดู "ศาลเจ้าพ่อหินดาด" หลังใหม่ ที่หลวงพี่ให้เงินไว้ ๑๐,๐๐๐ บาท โดยชาวบ้านสองสามีภรรยาที่อยู่แถวนั้น ชื่อ คุณทวี และคุณจอย เป็นผู้จัดสร้าง


พวกเราเดินทางมาครั้งนี้ แตกต่างกว่าครั้งแรก เพราะมีการถางป่าและเกรดพื้นที่ไว้ให้จอดรถสะดวกสบาย มองดูโดยรอบโล่งไปหมด เห็นซากมณฑปที่สร้างค้างไว้อย่างชัดเจน ภายในมีรอยพระพุทธบาทอยู่ ๑ รอยตามธรรมชาติ


ทราบว่าบริเวณนี้เคยเป็นวัดมาก่อนแต่ก็ร้างไปนานสิบกว่าปี ก่อนหน้าที่จะสร้างศาลใหม่คุณจอยเล่าว่า เมื่อตอนต้นปีพ่อปู่ได้มาเข้าฝันบอกว่า อีกหน่อยจะมีผู้ใจบุญมาสร้างศาลให้ และเมื่อหลายปีก่อนพ่อปู่ก็มาเข้าฝันสั่งว่า ให้อยู่ที่นี่ต่อไปอย่าย้ายบ้านไปที่อื่น อีกหน่อยจะมีคนมาสร้างความเจริญให้ต่อไป


ทั้งที่บ้านหลังอื่นๆ ทั้งหมู่บ้านก็ย้ายไปอยู่ที่อื่นกันหมด แม้แต่ญาติพี่น้องก็เช่นกัน คงเหลือแต่บ้านคุณทวี - คุณจอยที่ยังอยู่ตามคำสั่งของพ่อปู่ ตลอดปีที่ผ่านมาก็เฝ้ารอดูว่า จะมีใครมาสร้างศาลใหม่ให้ตามความฝัน อยากรู้ว่าผู้ใจบุญคนนั้นเป็นใครกันแน่


สองสามีภรรยารอตั้งแต่ต้นปีจนกระทั่งปลายยปี เมื่อวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ หลังจากกลับมาจากภูเก็ตพี่สำราญก็นำหลวงพี่มาที่นี่ แล้วท่านก็มอบเงินให้ ๑๐,๐๐๐ บาท เพื่อสร้างศาลหลังใหม่ให้พ่อปู่ จนกระทั่งสร้างเสร็จทำพิธีบวงสรวง เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ แต่ช่วงนั้นหลวงพี่ไม่ว่าง จึงไม่สามารถมาร่วมพิธีได้ คงผลัดผ่อนขอนำคณะมาวันนี้แทน


วันนี้มาเพื่อบวงสรวงรอยพระพุทธบาท และตกลงกับชาวบ้านที่จะเห็นสมควรว่าบูรณะมณฑปให้สร้างให้เสร็จหรีอไม่ หลวงพี่ได้อธิฐานเสี่ยงทายด้วยการวัดไม้วา ผลออกมาว่าควรจะสร้างต่อให้เสร็จ โดยให้ชาวบ้านเป็นคนดูแลรักษา


ในบริเวณใกล้เคียงรอยพระพุทธบาท ห่างกันประมาณสัก ๒ - ๓ เมตร มีรอยหอยสังข์ (แบบปลายแหลม) อยู่บนก้อนหิน ซึ่งมองเห็นเป็นรูปหอยปักลึกลงไปในหิน ๑ รอย และรอยที่ ๒ เป็นรอยหอยนอนตะแคง มีความคมขัดมาก

.

.


หลวงพี่ได้เสี่ยงทายแล้ว จึงสัณนิษฐานว่าพระพุทธเจ้าเคยเสวยพระชาติเป็น "พญาหอยสังข์" อยู่ที่นี่ นับว่าเป็นสถานที่แปลกกว่าที่อื่นๆ จากนั้นได้ร่วมทำบุญเริ่มต้นในการสร้างมณฑป ๔๐,๐๐๐ บาท ปรากฏว่าภายหลังถูกหวย ๔๐๔ กันหลายราย ขณะนี้กำลังดำเนินการสร้างต่อไป โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๗ หลวงพี่บอกว่าจะไปฉลองวันที่ ๓๐ พฤษภาคม ๒๕๕๗

(โปรดติดตามตอนต่อไป)

<< กลับสู่สารบัญ