สนทนากับพระ
เรื่องการที่ไม่ค่อยไปงานที่วัดท่าซุง
"อาตมาเบื่อคนเยอะ ๆ ไปแล้วคนมาหามากกว่าเจ้าอาวาส ลองนึกดูสิว่าภาพจะสวยไหม ?

ถ้าเป็นสมัยโบราณเขาถือว่ามีคุณูปการเหนือฮ่องเต้ ต้องโดนประหารชีวิต ถึงเวลาเขานิมนต์ก็เลยไม่ค่อยไป ไปแล้วไปแย่งซีนเขา

โดยส่วนตัวแล้ว ไม่มีอะไรกัน แต่คราวนี้ญาติโยมมักจะเรื่องมาก พอเห็นแล้วก็ไปวิพากษ์วิจารณ์กัน มีแต่โทษมากกว่าประโยชน์ เราไม่ไปเสียก็หมดเรื่อง

ถ้าอ่านในพระไตรปิฎก เราจะเห็นว่าพระมหากัจจายนะพาพระมากราบพระพุทธเจ้า มากันทีสองสามร้อย พระพุทธเจ้าก็ประทานสาธุการ

ตรัสชมว่าพระมหากัจจายนะเป็นพระเถระที่เพียบพร้อมด้วยสีลาจารวัตร สามารถฝึกสอนลูกศิษย์ได้ดี สร้างความเลื่อมใสในพระศาสนาได้มาก

หรือว่าพระมหากัสสปะพาคณะออกธุดงค์มากราบลา พระไปกันทีเป็นร้อย ท่านก็ประทานสาธุการ เอ่ยคำชม แนะนำวิธีให้

ถ้าเราดูจะเห็นว่า เรื่องแบบนี้พระพุทธเจ้าท่านนอกจากจะไม่อิจฉาริษยาแล้วยังยินดีด้วย เพราะว่าพระองค์ท่านหมดกิเลสจริง ๆ

แต่คราวนี้คนทั่วไปไม่ได้หมดกิเลส ในเมื่อคนทั่วไปไม่หมดกิเลส ถึงเวลาก็นินทาว่าร้ายของเขาไปเรื่อยเปื่อย จะเกิดโทษมากกว่า จึงไม่ไปเสียเลย"

"ตั้งแต่หลายสิบปีก่อน อาตมาก็เข้าใจเลยว่า เราไม่ควรทำตัวให้เป็นทุกข์เป็นโทษแก่คนอื่น ทั้งด้วยกาย ด้วยวาจา และด้วยใจ อะไรที่พอเลี่ยงได้ ไม่ให้เกิดโทษกับเขาก็พยายามเลี่ยง

ยิ่งในช่วงที่เปลี่ยนเจ้าอาวาสใหม่ ๆ กำลังใจของคนยังเคว้งคว้าง ไม่มีที่เกาะ ถ้าหากว่าอาตมาไป จะกลายเป็นที่เกาะของเขา ก็จะมีคนจำนวนหนึ่งที่เขาคิด

เหมือนอย่างกับว่าเราตั้งใจไปแย่งลูกศิษย์มา ซึ่งคำพูดของคนโดยปกติไม่ต้องไปใส่ใจก็ได้ แต่ก็อย่างว่านั่นแหละ...ต่อให้เราไม่ใส่ใจก็ช่วยเมตตาเขาหน่อย"

พระครูวิลาศกาญจนธรรม ดร.
(หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)

เก็บตกจากบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๒


ขอชี้แจง
...ก่อนอื่นทางทีมงานฯ ขอออกตัวว่า ไม่ได้นำมาลงเพื่อประสงค์อะไรนะ แต่ได้พบการโพสต์ลงในโลกโซเชียล เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ จึงได้คัดลอกออกมาให้อ่านกันเล่นๆ ว่า

นี่เป็นอีกมุมหนึ่งของความเห็นต่าง ที่ควรจะอ่านเพื่อทำความเข้าใจ..หรืออาจจะยังไม่เข้าใจกันก็ได้ เพราะรายชื่อพระที่นิมนต์ ย่อมมีการนำมาลงให้อ่านกันทุกงานว่า มีพระรูปไหนที่นิมนต์มาบ้าง

แล้วพระที่เป็นกำลังหลักของวัดท่าซุงไม่มีเลยหรือ ที่จะทำให้คนไม่เคว้งคว้างอยู่กลางอากาศ นี่ก็เป็นมุมมองของแต่ละท่านนะ

ทีมงานฯ

หลวงพ่อชวนพระไปต่างประเทศ

(6 มี.ค. 62) ...อาตมาบวชอยู่วัดท่าซุง ๗ พรรษาเต็ม ๆ ขึ้นปีที่ ๘ ไม่เคยไปต่างประเทศกับหลวงพ่อวัดท่าซุงเลยสักครั้งเดียว แม้ว่าท่านจะชวนก็ปฏิเสธ ไม่ใช่เสียดายค่าเครื่องบินเท่านั้น แต่ถ้าไปกันหมดแล้วใครจะทำงานที่วัด ?

แม้กระทั่งในประเทศ ซึ่งจัดเวรผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันตามไปรับใช้ท่าน อาตมาก็เคยไปครั้งเดียว ที่เหลือไม่ไป อยู่ทำงานที่วัดดีกว่า

ถึงได้ว่าพอออกจากวัดมาแล้ว หลวงพ่อเจ้าคุณอนันต์ต้องหาพระไปแทนตั้ง ๕ รูป คราวนี้รู้หรือยังว่างานที่อมไว้เยอะขนาดไหน ?

ถ้าเรายังไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่แล้วจะมีใครทำงาน ?

ขอชี้แจง
...สมัยก่อนพระที่เดินทางไปกับหลวงพ่อฯ ถ้าภายในประเทศ จะมีพระไพโรจน์เป็นผู้จัดคิว พระในวัดรูปไหนไม่มีใครปฏิเสธ โดยเฉพาะพระที่มีคิวไปบ้านสายลม สมัยนั้นพระบางรูปในวัดก็ยังไม่ได้จัดไป ด้วยเหตุที่ว่าความประพฤติยังไม่เหมาะสม

...ส่วนที่เดินทางไปต่างประเทศ ท่านคัดเลือกเฉพาะพระที่มีผลงานเด่น โดยเฉพาะพระทำงานโยธา ท่านเน้นพระประเภททำงานหนักเป็นพิเศษ เช่น
- ท่านเจ้าคุณพระราชภาวนาโกศล
- พระใบฎีกาประทีป เป็นช่าง
- พระครูภาวนาธรรมนิเทศก์ สอนกรรมฐาน
- พระครูใบฎีกาสมพงษ์ ช่วยงานโรงเรียนพระสุธรรมฯ
- พระทำงานให้ธัมมวิโมกข์
- พระที่รู้ภาษาอังกฤษได้ดี เช่น พระปลัดวิรัช หรือ พระหมอสบสันต์ เป็นต้น

...ถ้าบอกว่าท่านชวนพระรูปไหนในวัดที่ไม่มีผลงานเด่น จึงเป็นเรื่องที่แปลก เพราะพระในวัดสมัยนั้นจะรู้กฎระเบียบนี้ดี

แม้แต่พระครูสมุห์พิชิต (โอ) และ พระอาจารย์ชัยวัฒน์ ก็ยังไม่เคยไปต่างประเทศกับท่านเลย เพราะท่านไม่เคยชวน ทั้งที่มีผลงานพอสมควร (แต่ยังไม่ถึงกับเด่น)

หล่อพระทองคำ
...พระอาจารย์กล่าวว่า "มีญาติโยมจำนวนมากตั้งใจร่วมสร้างพระพุทธรูปทองคำ แต่สิ่งที่ส่งไปมีทั้งทองเหลือง มีทั้งทองแดง

อาตมาเก็บรวบรวมไว้เป็นลังใหญ่ จะส่งไปร่วมหล่อพระ ๒๘ องค์ กับตุ๊พ่อสิงห์ที่วัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่ ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า อาตมาระบุชัด ๆ ว่าหล่อพระพุทธรูปทองคำ แล้วทำไมเขาส่งทองเหลือง ทองแดงไปให้ ?

อาจจะคิดว่าเหมือนกับวัดอื่น ก็คือมีทองคำอยู่หน่อยหนึ่ง นอกนั้นเป็นทองเหลือง ทองแดงก็ได้ แต่ของวัดท่าขนุนไม่ใช่ วัดท่าขนุนเป็นทองคำแท้ทั้งองค์

ฉะนั้น...ในส่วนที่ท่านทั้งหลายตั้งใจหล่อพระ ก็ไม่ได้หล่อพระทองคำวัดท่าขนุน แต่ไปหล่อพระ ๒๘ องค์ของวัดพระพุทธบาทถ้ำป่าไผ่หรือวัดอื่น ๆ

มีคนถามอาตมาว่า ทำอย่างนั้นไม่กลัวย้ายเจดีย์ใช่ไหม ?

บอกว่าไม่กลัวหรอก เจดีย์ประเภทนี้อาตมารื้อทิ้งมาเยอะแล้ว ก็คือไม่รู้ภาษา บอกว่าหล่อพระทองคำแล้วเอาทองเหลืองส่งไปให้ จะไปใช้อย่างไร ?

อาตมาพยายามหาที่ลงให้แล้ว"

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
(หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน)

เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๒

โทษของการ "ย้ายเจดีย์"
หลวงพ่อ : "เรื่องของบูชา..สำหรับที่วัดนี้ ถือว่าเขาถวายมาเพื่อบูชา ตั้งอยู่ที่ใดก็ตาม ถ้าพระย้ายไปที่อื่นนอกเขตถือว่าย้ายเจดีย์ ทางวินัยท่านปรับอาบัติ

และถ้าของนั้นเขาถวายสงฆ์ เขามีเจตนาเฉพาะจุดนั้น ถ้าเราเอาไปถือว่าขโมยของสงฆ์ อันดับแรกเขาลงบัญชีอเวจีไว้ก่อน ของสงฆ์นี่แม้แต่เศษกระเบื้อง ถ้านำไปก็ลงบัญชีอเวจีเลย !!!"

...เอวัง..ก็มีด้วยประการฉะนี้