ถ้าพบข้อผิดพลาดในเว็บไซด์ จะแนะนำและติชม หรือสอบถาม ติดต่อที่ WEBMASTER
 
VISITORS


     







Not logged in [Login ]
Go To Bottom
Printable Version | Subscribe | Add to Favourites  
[*] posted on 20/7/10 at 04:49 Reply With Quote

นิทานชาดก (เรื่องที่ 31) สกุณชาดก - ชาดกว่าด้วย "ที่พึ่งให้โทษ"


...นิทานชาดกนี้ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ "พระพุทธเจ้า" ขณะที่ยังเป็นพระโพธิสัตว์ พระองค์ได้บำเพ็ญพระบารมีมาในแต่ละชาติ จะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้น แล้วได้ตรัสเล่าบุพกรรมเหล่านี้ ซึ่งมีมาในพระไตรปิฎกมากมายหลายเรื่อง

ในตอนนี้ จะขอนำการ์ตูนเรื่องที่ 31 มีชื่อว่า "สกุณชาดก" (อ่าน..สะกุณะชาดก) เป็นเรื่องของคุณธรรมของผู้บริหารคณะ โดยพระพุทธองค์เสวยพระชาติเป็น "พญานก" จึงขออนุโมทนาไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย


.....This story is a fable about "Buddha" While still a Bodhisat. He has to perform the prestige of each nation. Is a true story that occurred.

Then spoke told these deeds. Which in many Tripitaka on. At this will be cartoon chapters No.31 called "Sakuna Jataka" The come into the Buddha "Bird Paya "

สกุณชาดก : ชาดกว่าด้วย "ที่พึ่งให้โทษ"


มูลเหตุที่ตรัสชาดก

.....ณ เชตวันมหาวิหาร นครสาวัตถี ครั้งหนึ่งในสมัยพุทธกาล มีพระภิกษุรูปหนึ่งตั้งใจศึกษาเล่าเรียนพระกรรมฐาน จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอย่างดี

ครั้นใกล้เวลาเข้าพรรษาจึงได้กราบลาพระพุทธองค์ไปเจริญภาวนาตามลำพังในเขตชนบทแคว้นโกศล โดยอาศัยศาลาแห่งหนึ่งพักพิง

.....แต่ต่อมาไม่กี่วัน ศาลานั้นถูกไฟไหม้ไปส่วนหนึ่งไม่สามารถใช้คุ้มแดดคุ้มฝนได้ พระภิกษุรูปนั้นจึงขอร้องชาวบ้านให้ช่วยซ่อมแซมให้ แม้จะข้อร้องอยู่หลายครั้ง แต่ชาวบ้านก็ขอผลัดไปก่อนเสียทุกครั้ง

โดยอ้างว่าขอระบายน้ำเข้านาก่อนบ้าง ขอหว่านข้าวก่อนบ้าง ขอเก็บเกี่ยวก่อนบ้าง เป็นอยู่เช่นนี้ จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึง ๓ เดือน ท่านจึงไม่สามารถเจริญภาวนาให้ก้าวหน้าได้ดังที่ตั้งใจไว้

.....ครั้งออกพรรษาแล้ว พระภิกษุรูปนั้นจึงกลับไปกราบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่เชตวันมหาวิหาร พระพุทธองค์ตรัสถามถึงความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม พระภิกษุรูปนั้นจึงกราบทูลว่า

.....“ข้าพระองค์ไม่สามารถปฏิบัติธรรมให้เจริญก้าวหน้าได้ เพราะไฟไหม้ศาลาที่พักไปแถบหนึ่ง ต้องอยู่ด้วยความลำบากตลอดพรรษา พระพุทธเจ้าข้า”

.....องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้สดับดังนั้น จึงทรงตำหนิว่า

.....“ ดูก่อนภิกษุ ในกาลก่อน แม้สัตว์เดียรัจฉานยังรู้จักเลือกที่อยู่ให้สบาย เหตุใดเธอจึงไม่รู้ว่าที่ไหนควรอยู่ ที่ไหนไม่ควรอยู่ ” ตรัสดังนี้แล้ว ทรงนำ "สกุณชาดก" มาตรัสเล่าเปรียบเทียบ ดังนี้



เนื้อความของชาดก

..... อดีตกาล ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง มีพญานกตัวหนึ่งได้พาบริวารนับพันๆ ตัวเข้ามาอยู่ที่ต้นไม้ใกล้ๆ กัน นกทั้งหลายต่างหากินอยู่กันในป่าด้วยความผาสุขตลอดมา

อยู่มาวันหนึ่ง มีลมพัดแรงจัดเป็นเวลานาน ทำให้กิ่งไม้แห้งในบริเวณนั้นเสียดสีกันจนเกิดควันขึ้น พญานกเห็นเช่นนั้นจึงคิดว่าสักวันหนึ่ง ไฟจะต้องลุกไหม้ต้นไม้เหล่านี้อย่างแน่นอน จึงบอกกับบริวารทั้งหลายว่า

.....“ นกทั้งหลายเอ๋ย ใครอาศัยต้นไม้ต้นใด บัดนี้ต้นไม้ต้นนั้นจะเกิดไฟไหม้ขึ้นแล้ว พวกเจ้าทั้งหลายจงพากันไปอยู่ที่อื่นเถิดภัยกำลังจะเกิดจากที่พึ่งของเราแล้ว ”

บริวารที่เชื่อฟังก็พากันบินตามพญานกไปหาที่อยู่ใหม่ แต่บริวารอีกส่วนหนึ่งกลับดื้อดึง อวดดี ไม่ยอมทิ้งรังตามไปด้วย ซ้ำยังกล่าวว่า

.....“ โธ่เอ๋ย.. ทำเป็นขี้ขลาดตาขาวไปได้ แค่เห็นน้ำหยดเดียวก็กลัวว่าจะมีจระเข้เสียแล้ว ” บางตัวก็ทำเป็นอวดรู้ว่า “ ธรรมดาไฟไหม้ป่า ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ เราอยู่มาตั้งแต่เกิดแล้ว ไม่เห็นจะมีอันตรายอะไรเลย ”

.....ต่อมาไม่นาน มีลมพายุพัดอื้ออึงมาเป็นเวลานาน กิ่งไม้ถูกลมพัดเสียดสีไปมาจนเกิดเป็นสะเก็ดไฟ กระเด็นไปถูกใบไม้แห้งที่ร่วงหล่นอยู่ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี เปลวไฟจึงลุกโชติช่วงขึ้นและลามติดต้นไม้ในบริเวณนั้นอย่างรวดเร็ว

นกทั้งหลายเหล่านั้นต่างบินออกจากรังไปคนละทิศคนละทาง แต่ไม่ว่ามันจะบินไปทางใด ก็เห็นแต่ควันไฟหนาทึบปิดกั้นไว้ทุกทาง นกเหล่านั้นต่างสำลักควันไฟสิ้นแรงตกลงในกองเพลิงอย่างอเนจอนาถ

.....ครั้นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสชาดกจบลง แล้วทรงแสดงอริยสัจ ๔ โดยอเนกปริยายไปตามลำดับ พระภิกษุรูปนั้นสามารถบรรลุธรรมเป็นพระโสดาบัน ณ ที่นั้นเอง แล้วทรงประชุมชาดกว่า

....."นกทั้งหลายที่เชื่อฟังในครั้งนั้น ได้มาเป็นพุทธบริษัทในครั้งนี้ ส่วน "พญานก" ได้มาเป็นพระองค์เอง"


ข้อคิดจากชาดก

.....๑. การจะทำกิจทั้งหลายทั้งทางโลกและทางธรรมให้สำเร็จลุล่วงได้ผลดีนั้น ที่อยู่อาศัยตลอดจนสิ่งแวดล้อมที่ดี ที่สบาย เป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง จึงสมควรศึกษาให้รู้ให้เข้าใจอย่างถูกต้องและรู้จักเลือกให้เหมาะสมกับตนเอง

.....๒. หมั่นฝึกฝนให้เป็นคนช่างสังเกต รู้จักระวังภัยเมื่อมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้นอย่าเพิกเฉย ต้องตื่นตัว รู้จักคิดพิจารณาถึงเหตุถึงผลที่จะเกิดขึ้นในภายหน้าแล้วหาทางป้องกันและแก้ไขเสีย

ดังเช่น พญานกเห็นควันไฟเพียงเล็กน้อยก็สามารถพิจารณาเห็นภัยที่จะตามมา และตัดสินใจแก้ไขโดยไม่รอช้า

.....๓. ไม่ควรยึดถือในวิ่งที่คุ้นเคย เช่น ที่อยู่ที่สุขสบาย จนไม่ตระหนักถึงภัยอันตรายที่จะเกิดขึ้นในภายหน้า ดังเช่น พญานกตัดสินใจทิ้งต้นไม้ที่ตนเคยอยู่อย่างสุขสบาย โดยไม่อาลัยอาวรณ์เพื่อไปหาที่อยู่ใหม่

.....๔. การเป็นคนดื้อ ว่ายากสอนยากเป็นการทำลายประโยชน์ตน และเป็นโทษต่อตนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่โง่แล้วยังอวดฉลาด ในที่สุดมักจะได้รับโทษภัยอย่างมหันต์ จนอาจถึงแก่ชีวิติได้



ที่มา - kalyanamitra.org



webmaster
Super Administrator
*********
Posts: 2041
Registered: 8/1/08
Member Is Offline
View User's Profile View All Posts By User U2U Member

Go To Top
 

"เว็บตามรอยพระพุทธบาท" ได้รับลิขสิทธิ์จาก พระอาจาย์ชัยวัฒน์ อชิโต เพื่อเผยแพร่รูปภาพและข้อมูล
จาก "หนังสือตามรอยพระพุทธบาท" จึงขอสงวนลิขสิทธิ์ตาม
พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ.๒๕๓๗ และพระราชบัญญัติคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐
ห้ามคัดลอกข้อมูล, ภาพ, เสียง ออกไปเผยแพร่ หรือนำไปโพสในเว็บใดๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตเสียก่อน

เว็บไซต์นี้แสดงผลได้ดีกับโปรแกรม Internet Explorer, Window Media V.9, Flash Player ความละเอียดหน้าจอ 1024 x 768 pixels ความเร็วอินเตอร์เน็ต 1 Mbps. ขึ้นไป

ถ้าพบข้อผิดพลาดใดๆ หากจะแนะนำ หรือติชม และสอบถาม ติดต่อ "ทีมงานเว็บตามรอยพระพุทธบาท"
เริ่มเปิดเว็บไซด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551

Copyright @ 2008 tamroiphrabuddhabat.com All rights reserved